COVID-19

‘บิ๊กตู่’ ปลื้มไทยฉีดวัคซีนแล้ว 80 ล้านโดส จี้สธ. ซื้อยารักษาโควิด-19 ด่วน

นายกฯ พอใจไทยฉีดวัคซีนแล้ว 80 ล้านโดส เป็นอันดับที่ 18 จาก 184 ประเทศทั่วโลก เร่งสธ. เจรจาซื้อยารักษาโควิด-19 “แพกซ์โลวิด-โมลนูพิราเวียร์” 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้สั่งการให้ กระทรวงสาธารณสุข เร่งรัดติดตามเจรจาเพื่อสั่งซื้อยารักษาโควิด-19 ทั้ง แพกซ์โลวิด (Paxlovid) ของบริษัทไฟเซอร์ และ โมลนูพิราเวียร์ ของบริษัทเมอร์ค

ยารักษาโควิด-19

ทั้งนี้ เพื่อช่วยลดการรักษาตัวในโรงพยาบาล และลดการเสียชีวิตในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงได้ให้เร็วที่สุด และเพื่อให้ประเทศไทยได้รับยารักษาโควิด ที่มีการพัฒนาเป็นคิวแรกๆ

นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่น ให้ประชาชนไทยสามารถกลับมาดำเนินชีวิตและทำมาหากินได้อย่างปกติสุขโดยเร็วแบบ New Normal และร่วมเดินหน้าพลิกฟื้นเศรษฐกิจต่อไป

ขณะเดียวกับ นายกรัฐมนตรี ยังพอใจการควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในไทย ซึ่งมีสัญญาณดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แนวโน้มผู้ติดเชื้อใหม่มีจำนวนลดลงอยู่ในหลักพัน และยอดผู้เสียชีวิตต่ำกว่าร้อยติดต่อกันหลายสัปดาห์ และมีแนวโน้มที่จะลดลงอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด ข้อมูลจากเว็บไซต์บลูมเบิร์ก (ณ วันที่ 6 พฤศจิกายน 2564) ระบุความคืบหน้าการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในประเทศต่างๆ 184 ประเทศทั่วโลก ขณะนี้ทั่วโลกได้ฉีดวัคซีน แล้วมากกว่า 7,200 ล้านโดส โดยประเทศไทยจัดอยู่ในอันดับที่ 18 ของโลก และอยู่ในอันดับ 3 ของอาเซียน

ธนกร 2
ธนกร วังบุญคงชนะ

ส่วนประเทศที่ฉีดวัคซีนได้มากที่สุดได้แก่ จีน อินเดีย สหรัฐอเมริกา บราซิล และอินโดนีเซีย

จนถึงปัจจุบัน ยอดการฉีดวัคซีนสะสมของไทยกว่า 80 ล้านโดสแล้ว (ข้อมูล ณ วันที่ 7 พฤศจิกายน 2564) แบ่งเป็น

  • เข็มที่ 1 สะสม 43,978,814 โดส
  • เข็มที่ 2 สะสม 33,950,925 โดส
  • เข็มที่ 3 สะสม 2,551,969 โดส
  • เข็มที่ 4 สะสม 2,719 โดส รวม 80,484,427 โดส

จากอัตราการฉีดต่อวันประมาณ 6-8 แสนโดสต่อวัน ทำให้บลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า หากไทยฉีดด้วยความเร็วระดับนี้ต่อไป จะสามารถฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 โดสให้ครอบคลุมประชากร 75% ได้ภายใน 1 เดือน สอดคล้องกับนโยบายเปิดประเทศแบบปลอดภัย (Smart Entry) เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

นายกรัฐมนตรีพอใจและขอบคุณทุกคน ที่ปรับเปลี่ยน เรียนรู้ วิถีชีวิตแบบ ปกติใหม่ เน้นการอยู่ร่วมกับไวรัสโควิด-19 ซึ่งการเปิดประเทศเพราะต้องการ เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรียังกำชับให้ทุกคนช่วยกันคนละไม้คนละมือ รักษาวินัยของตัวเองอย่างเคร่งครัด สวมหน้ากากอนามัยอยู่เสมอ และเว้นระยะห่างทางสังคม เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว ตลอดจนลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ของไทยอีกด้วย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo