COVID-19

ข่าวร้าย!!ยารักษาโควิด ‘โมลนูพิราเวียร์’ แพงกว่ายาเดิม 14 เท่า

“หมอเฉลิมชัย” บอกข่าวดี การทดลองยารักษาโควิดได้ผลดี พร้อมข่าวร้ายเทียบราคาเม็ดต่อเม็ด โมลนูพิราเวียร์ แพงกว่ายาเดิม ฟาวิพิราเวียร์ 14 เท่า

นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Chalermchai Boonyaleepun ความคืบหน้ายารักษาโควิด โมลนูพิราเวียร์ ก้าวหน้าได้ผลดี พร้อมข่าวร้ายราคาแพงกว่ายาเดิมที่ใช้ 14 เท่า โดยระบุว่า

โมลนูพิราเวียร์

ยาโควิดแพงมาก !! ข่าวดีและข่าวร้ายในเวลาเดียวกัน

ข่าวดี การทดลองยารักษาโควิดใหม่ได้ผลดี

ข่าวร้าย ยาแพงกว่ายาเดิมถึง 14 เท่าตัว

นอกจากวัคซีนจะเป็นความหวังหนึ่งในการควบคุมการระบาดของโควิด-19 แล้ว

ความหวังอีกหนึ่งอย่างก็คือ การมียาฆ่าเชื้อไวรัสโดยตรง ที่จะทำให้แม้ติดเชื้อแล้วมีอาการ ก็จะได้ไม่ป่วยหนักหรือเสียชีวิต

ทำนองเดียวกับไข้หวัดใหญ่ ซึ่งมีวัคซีนป้องกันการติดเชื้อได้ระดับหนึ่ง และเมื่อติดเชื้อแล้ว ก็ยังมียาฆ่าเชื้อไวรัสได้ ทำให้คนไม่ค่อยกลัวเรื่องไข้หวัดใหญ่กันมากนัก

สำหรับโควิด-19 วัคซีนที่ออกมาแล้ว ถือว่าอยู่ในระดับมีคุณภาพปานกลาง คือ เมื่อพบไวรัสกลายพันธุ์ก็มีประสิทธิภาพลดลง และไม่ได้ป้องกันการติดเชื้อได้ทุกคน แต่ลดการเจ็บป่วยลงได้มาก

มีรายงานการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องยาที่ฆ่าเชื้อไวรัสโดยตรง อย่างน้อยสองบริษัท ได้แก่ บริษัท Merck และบริษัท Pfizer

ขณะนี้ ความคืบหน้ายาฆ่าเชื้อไวรัสของบริษัท Merck ได้ผ่านการทดลองในเฟสสอง ชื่อ Molnupiravir ได้ผล ดีเป็นที่น่าพอใจ
โดยรายงานในกลุ่มอาสาสมัคร 775 คนพบว่า ในกลุ่มที่ได้รับยาต้องเข้าโรงพยาบาล 7.3% กลุ่มที่ไม่ได้รับยาเข้าโรงพยาบาลมากกว่าถึง 2 เท่า คือ 14.1%

และในกลุ่มที่ไม่ได้รับยา มีการเสียชีวิตไป 8 ราย โดยที่กลุ่มได้รับยาไม่มีผู้เสียชีวิตเลย

สหรัฐอเมริกา จึงได้สั่งจองยานี้ทันทีแล้ว จำนวน 1.7 ล้านคอร์ส ส่วนไทยก็ได้สั่งจองไว้ 2 แสนคอร์ส

โมลนูพิราเวียร์

ประเด็นปัญหาใหญ่ นอกจากเรื่องต้องสั่งจองรวดเร็วแล้วก็คือ เรื่องราคายา

โดยพบว่ายาใหม่นี้ กำหนดราคาขายเบื้องต้น หนึ่งคอร์ส 40 เม็ด ราคา 700 เหรียญสหรัฐ หรือ 23,100 บาท ตกเม็ดละ 580 บาท ต้องทานวันละ 8 เม็ด เป็นจำนวน 5 วัน รวม 40 เม็ด

เมื่อเปรียบเทียบกับยาพื้นฐานเดิมที่ใช้รักษาโรคโควิดอยู่แล้ว แบบประทังไปก่อน คือ ฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir)

พบว่าเมื่อองค์การเภสัชกรรมของไทยเราผลิตเองได้ ราคายาได้ลดลงจากเม็ดละ 120 บาทเหลือ 40 บาท

แต่เมื่อเทียบราคาเม็ดต่อเม็ด ยาใหม่ของ Merck แพงกว่ายาเดิม คือ ฟาวิพิราเวียร์อยู่ถึง 14 เท่า คือ 580 บาท เทียบกับ 40 บาท

แต่ถ้าเทียบเป็นคอร์ส ยาใหม่ 23,100 บาท เทียบกับยาเดิม 2400 บาท แพงกว่ากันอยู่ 10 เท่า

จึงเป็นข่าวดี ที่วงการแพทย์ได้วิจัยพัฒนาจนเกือบสำเร็จ จะได้ยาฆ่าเชื้อไวรัสโดยตรงแล้ว

แต่ข่าวร้ายก็คือ ประเทศที่ยากจนก็จะเข้าถึงยาได้ยาก เพราะยาแพงกว่ายาเดิมที่ใช้อยู่ถึง 10-14 เท่าตัว

การพัฒนายาของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นจากสมุนไพร หรือยาแผนปัจจุบัน หรือเป็นการผลิตยาที่หมดสิทธิบัตรแล้ว จึงเป็นความจำเป็นอย่างยิ่ง

ประเทศในโลกที่สาม น่าจะเรียกร้องร่วมกัน โดยเฉพาะองค์การอนามัยโลกต้องเป็นหลัก จัดตั้งกองทุนขนาดใหญ่ หรือขอซื้อยาจากบริษัทมาขายในราคาทุนให้กับประเทศยากจน

ทั้งนี้ ถ้าประเทศยากจนยังมีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก ก็จะทำให้โควิดไม่สามารถควบคุมการระบาดในโลกใบนี้ได้

เพราะ 200 ประเทศทั่วโลก ประชากร 7,000 ล้านคน ต่างเดินทางไปมาหาสู่กัน ไม่เหมือนสมัยก่อน

ประเทศร่ำรวย แม้มีวัคซีนดี มียาดีที่เพียงพอ ก็อาจจะประสบปัญหาจากโควิด ที่เข้ามาจากประเทศอื่นที่ยังควบคุมการระบาดได้ไม่ดี

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo