หมอเฉลิมชัย เผยสถิติฉีดวัคซีนเด็ก พบเด็กติดโควิดน้อยกว่าผู้ใหญ่ 9.7 เท่า เสียชีวิตจากโควิดน้อยกว่า 69 เท่า แต่ฉีดวัคซีนแล้วพบหัวใจอักเสบมากกว่า 3.5 เท่า
นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Chalermchai Boonyaleepun เปิดสถิติการฉีดวัคซีนในเด็ก ให้ผู้ปกครองประกอบการตัดสินใจ ในการเลือกฉีดวัคซีนให้บุตรหลาน พบวัคซีน mRNA ทำให้เกิดหัวใจอักเสบในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ 3.5 เท่า โดยระบุว่า
สิ่งที่พ่อแม่ทุกคนอยากทราบ: เด็กติดโควิดน้อยกว่าผู้ใหญ่ 9.7 เท่า เสียชีวิตจากโควิดน้อยกว่า 69 เท่า แต่ฉีดวัคซีนแล้วพบหัวใจอักเสบมากกว่า 3.5 เท่า
การฉีดวัคซีนโควิดให้กับเด็ก โดยเฉพาะที่จะฉีดให้กับเด็กนักเรียนมัธยมศึกษาวัย 12-17 ปี ก่อนจะเปิดเทอมนั้น
จำเป็นต้องใช้ข้อมูลทางวิชาการ ตัวเลขสถิติที่จำเป็น มาประกอบกับความรู้สึกเป็นห่วงบุตรหลาน ที่ย่อมจะแตกต่างกันไปในแต่ละครอบครัว มาพิจารณาร่วมกันเพื่อประกอบการตัดสินใจ
วันนี้จะนำสถิติสำคัญ มาสรุปเพื่อประกอบการตัดสินใจ ดังนี้
1. ความรุนแรงของโควิด
- การติดเชื้อ
พบเด็กไทยอายุ 0-18 ปี ติดเชื้อ 33,020 ราย จากเด็ก 14.13 ล้านคน คิดเป็น 0.23%
ผู้ใหญ่พบติดเชื้อ 1.49 ล้านราย จากผู้ใหญ่ 52.43 ล้านคน คิดเป็น 2.24%
เด็กติดโควิดน้อยกว่าผู้ใหญ่ 9.7 เท่า
- การเสียชีวิต
เด็กเสียชีวิต 5 ราย จากเด็กติดเชื้อ 33,020 ราย คิดเป็น 0.015%
ผู้ใหญ่เสียชีวิต 15,879 ราย จากผู้ติดเชื้อ 1.49 ล้านคน คิดเป็น 1.04%
เด็กเสียชีวิตจากโควิด น้อยกว่าผู้ใหญ่ 69 เท่า
ตัวเลขของสหรัฐอเมริกา เด็กเสียชีวิตจากโควิด 350 ราย จากประชากรเด็ก 74 ล้านคน คิดเป็น 4.7 รายต่อล้านประชากรเด็ก
2. ผลข้างเคียงที่รุนแรง จากการฉีดวัคซีน ซึ่งพบน้อยมาก (Very rare)
วัคซีนเทคโนโลยี mRNA ซึ่งประกอบด้วย Pfizer และ Moderna พบกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ 12.6 รายต่อ 1 ล้านโดส
เด็กผู้หญิง พบมากกว่าผู้ใหญ่ 2 เท่าเด็กผู้ชาย พบมากกว่าผู้ใหญ่ 3.5 เท่า
3. เปรียบเทียบวัคซีนระหว่าง Pfizer กับ Moderna
Pfizer พบกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ น้อยกว่า Moderna 2.5 เท่า ( 8 ต่อ 19.8 ราย ต่อ 1 ล้านโดส)
Moderna พบการแพ้รุนแรงแบบช็อก น้อยกว่า Pfizer 2 เท่า (2.5 ต่อ 4.7 ราย ต่อ 1 ล้านโดส)
ข้อมูลแม้จะเป็นชุดเดียวกัน รักและห่วงบุตรหลานเท่ากัน แต่การตัดสินใจเลือกจะให้ฉีดวัคซีนหรือชะลอไว้ก่อน และจะฉีดวัคซีนบริษัทใด และเทคโนโลยีใด ย่อมแตกต่างกัน นับเป็นเรื่องปกติ
แม้ประเทศยักษ์ใหญ่ที่มีคุณภาพสูง ระหว่างสหรัฐอเมริกากับอังกฤษ ก็ยังมีความเห็นในเรื่องนี้แตกต่างกัน
โดยในสหรัฐอเมริกาได้เห็นชอบอนุมัติให้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดได้ในเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป
ส่วนในประเทศอังกฤษ ให้ฉีดได้เฉพาะในเด็กอายุ 16 ปีขึ้นไป ส่วนเด็กอายุ 12-15 ปี ยังไม่ให้ฉีดเป็นการทั่วไป แต่ให้ฉีดเฉพาะกลุ่มเสี่ยง คือมีโรคประจำตัวเท่านั้น
ส่วนของไทยเรา เลือกเดินสายกลางคือ ให้ฉีดอายุ 12 ปีขึ้นไปได้ แต่เป็นแบบสมัครใจ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘หมอเฉลิมชัย’ ตอบทุกคำถาม ไฟเซอร์ VS ซิโนฟาร์ม ฉีดวัคซีนเด็ก ก่อนไปโรงเรียน
- จีนฉีดวัคซีนเด็ก 12-17 ปีแล้ว 91% ‘หมอเฉลิมชัย’ แนะไทยเร่งฉีดเด็ก-ครู ควบคู่วิจัยความปลอดภัย
- ‘หมอเฉลิมชัย’ เปิดข้อมูลประสิทธิผลวัคซีน ไฟเ