COVID-19

ส่งไฟเซอร์ฉีดด่านหน้ารอบ 2 ทุกพื้นที่ 14 สิงหานี้ เปิดผลสอบผู้เสียชีวิต 278 คน วัคซีนไม่เกี่ยว

สธ. พร้อมส่งไฟเซอร์ บุคลากรการแพทย์ สาธารณสุขด่านหน้า 14 สิงหาคมนี้ครบทุกพื้นที่ พร้อมเปิดผลตรวจสอบผู้เสียชีวิต 278 คน พบไม่เกี่ยวกับฉีดวัคซีนป้องกันโควิด

นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า การจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส โดยจัดสรรให้กับบุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 700,000 โดส ใน 77 จังหวัด ได้จัดส่งไฟเซอร์ทั้งหมด 2 รอบ รอบแรก จำนวน 442,800 โดส จัดส่งแล้วในช่วงวันที่ 4 – 5 สิงหาคม 2564 รอบที่ 2 จำนวน 257,200 โดส เริ่มทยอยส่งแล้วในวันที่ 8 สิงหาคม 2564 คาดว่าจะถึงพื้นที่ในวันที่ 14 สิงหาคม 2564

ส่งไฟเซอร์

ทั้งนี้ขอย้ำว่า วัคซีนไฟเซอร์ที่ได้รับบริจาคมา จำนวน 1.5 ล้านโดส มีนโยบายการบริหารจัดการอย่างโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ โดยวัคซีนทั้งหมดจำนวน 1,503,450 โดส ไม่มีการฉีดให้วีไอพี หากมีข้อสงสัยสามารถรายงานแจ้งเข้ามาเพื่อให้ตรวจสอบต่อไป

สำหรับการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์จำนวน 1.5 ล้านโดส สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ที่มีความเสี่ยงที่จะสัมผัสผู้ป่วย จำนวน 700,000 โดส โดยได้จัดสรรลงไปในพื้นที่จังหวัดที่มีการระบาด 645,000 โดส และศึกษาวิจัย 5,000 โดสและกลุ่มที่ให้กับประชาชที่กระทรวงการต่างประเทศดูแลอีก 150,000 โดส

นอกจากนี้ ยังมีการติดตามข้อมูลอย่างต่อเนื่อง ขณะที่บุคลากรที่มีความเสี่ยงแต่ยังไม่มีรายชื่อที่จะได้รับการจัดสรรวัคซีน สามารถแจ้งรายชื่อต่อผู้บริหารเพื่อพิจารณาว่าเข้าตามหลักเกณ์หรือไม่ และส่งรายชื่อเข้ามาได้การทยอยส่งเป็นประโยชน์ในแง่ของการจัดเก็บการดูแล อย่างถูกต้อง

ขณะที่การจัดสรรวัคซีนให้กับกลุ่มผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มโรคเสี่ยงและหญิงตั้งครรภ์ มีการจัดส่งวัคซีนไปแล้ว 328,880 โดสในพื้นที่ 13 จังหวัด โดยในส่วนที่เหลือจะจัดส่งในช่วงปลายเดือนนี้

จัดสรร

ในส่วนของการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในคนต่างชาติ หรือผู้ที่มีความจำเป็นจะต้องเดินทางไปต่างประเทศ โดยมีการฉีดไปแล้วรวมในช่วงแรกก่อนที่จะมีการรับบริจาควัคซีนไฟเซอร์ด้วย โดยชาวต่างชาติที่อยู่ในไทยฉีดวัคซีนไปแล้ว 280,075 และรับวัคซีนครบ 2 เข็ม จำนวน 74,587 คน ขณะที่ผู้สูงอายุ จำนวน 20,903 คน

ในจำนวนนี้ จำแนกเป็นชาวต่างชาติสัญชาติเมียนมา ที่มาทำงานในไทย ได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้วราว 140,000 คน รองลงมาคือ จีน จำนวน 37,000 คน ซึ่งมีส่วนของวัคซีนที่ทางการจีนได้บริจาคมาด้วย ถัดมาคือ กัมพูชา ลาว ญี่ปุ่น

ขณะที่การฉีดวัคซีนให้นักเรียนไทยที่ต้องเดินทางไปศึกษาต่อในต่างประเทศ ขณะนี้ฉีดไปแล้วจำนวน 2,878 คน เนื่องจากมีกรอบเวลาในการเดินทาง โดยนักเรียนที่จะต้องเดินทางไปศึกษาต่อต้องลงทะเบียนเพื่อยื่นความประสงค์ในการรับวัคซีน กรอกข้อมูล จากนั้นเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบถายใน 3-5 วันและแจ้งผลกลับไป

 

ฉีดวัคซีน1

ด้านภาพรวมการฉีดวัคซีน ขณะนี้ฉีดวัคซีนสะสมทั้งสิ้น 22,508,659 โดส จำนวนผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 17,239,539 ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 4,855,000 คน ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 จำนวน 414,066 คน (ข้อมูลวันที่ 12 สิงหาคม 2564 ) แบ่งเป็นซิโนแวค 10,794,083 คน แอสตร้าเซนเนก้า 9,685,262 โดส ซิโนฟาร์ม 1,742,610 โดส และวัคซีนไฟเซอร์ 286,704 โดส

ขณะที่อาการไม่พึงประสงค์ ข้อมูล ณ วันที่ 8 สิงหาคม 2564 จากยอดฉีดสะสมราว 20 ,669,780 โดส จำแนกได้ดังนี้ฃ

  • วัคซีนซิโนแวคฉีดไป 10 ล้านโดส พบรายงาน 2,258 เหตุการณ์ คิดเป็น 22 เหตุการณ์ต่อ 100,000 โดส อาการแพ้รุนแรง 22 เหตุการณ์ คิดเป็น 0.2 ต่อ 100,000 โดส
  • วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ฉีดไป 9.06 ล้านโดส พบรายงาน 2,606 เหตุการณ์ แพ้รุนแรง 2 เหตุการณ์ คิดเป็น 0.02 ต่อ 100,000 โดส ซึ่งมีการกระตุ้นให้เกร็ดเลือดต่ำและเกิดลิ่มเลือด 2 คน ซึ่งได้รับการดูแลและหายเป็นปกติ
  • วัคซีนซิโนฟาร์ม พบรายงาน กรณีร้ายแรง 90 เหตุการณ์ คิดเป็น 6.10 ต่อ 100,000 โดส ขณะที่วัคซีนไฟเซอร์เพิ่งเริ่มฉีดไม่มีการรายงานเข้ามา 278 คน เสียชีวิตพบไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน

ไม่พงประสงค์

นพ.เฉวตสรร กล่าวถึงกรณีการเสียชีวิตหลังได้รับการฉีดวัคซีน มีรายงาน 334 คน สรุปแล้ว 278 คน ทุกกรณีไม่มีสาเหตุเกี่ยวกับวัคซีนแต่อย่างใด ขณะที่จำนวนที่เหลืออยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลและพิจารณาผลชันสูตรโดยละเอียดต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo