COVID-19

ไม่ต้องห่วง! ‘เชียงราย’ เผย 7 รายใหม่อยู่ใน LQ เปิดไทม์ไลน์ สาวหนีเข้าเมืองติดโควิด เที่ยวสิงห์ปาร์ค

 

เชียงราย เจอผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มอีก 7 คน ยืนยันไม่น่าเป็นห่วง ทั้งหมดกลับช่องทางปกติ  และอยู่ในสถานกักกันของรัฐ เปิดไทม์ไลน์ สาวหลบหนีเข้าเมือง ผู้ติดเชื้อโควิดอีก 1 ราย เดินทางเข้ามาพร้อมกับเคสราชบุรี มีไปเที่ยวสิงห์ปาร์ค และไปส่งเพื่อนที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง

วันนี้ (8 ธ.ค.) นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัด เชียงราย พร้อมด้วย นายแพทย์ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุข จังหวัดเชียงราย นายแพทย์ไชยเวช ธนไพศาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ แถลงข่าวสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 พื้นที่่ จังหวัดเชียงรายว่า ตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 8 ราย ทำให้ยอดรวมของผู้ติดเชื้อขณะนี้อยู่ที่ 34 ราย มาจากโรงแรม 1G1 จำนวน 23 คน ไนต์คลับฮอลลีวูด 2 คน โรงแรมอื่น 1 คน พบในจังหวัด เชียงราย 1 คน และสอบสวนโรคอีก 7 คน

ผู้ติดเชื้อ 7 รายที่พบล่าสุดเป็นหญิงอายุ 25 ปี อายุ 26 ปี 3 คน อายุ 28 ปี อายุ 30 ปี และอายุ 35 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่เข้ามาอยู่ในสถานที่กักกันของรัฐ

เชียงราย

ส่วนอีกรายเป็นหญิงอายุ 21 ปี ชาวตำบลเกาะช้าง อำเภอแม่สาย จังหวัด เชียงราย ซึ่งหลบหนีเข้ามาเมืองตามช่องทางธรรมชาติ ทั้งหมดส่งเข้ารักษาตัวยังโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์แล้ว

นายประจญ กล่าวว่าหญิงอายุ 21 ปี ที่พบถือเป็นรายที่ 27 โดยเป็นคนในพื้นที่ อำเภอแม่สาย ซึ่งได้ไปอาศัยอยู่ใน จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา แล้วลักลอบเข้ามาในประเทศพร้อมเคสที่ตรวจพบที่ราชบุรี ซึ่งเดินทางเข้ามาตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน และได้ไปกบดานอยุ่กับบ้านแฟน และญาติ ไม่ยอมแสดงตัวออกมา อาจจะเหมือนทำการทดสอบดูสถานการณ์ตัวเอง แต่มีการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา

จนกระทั่งทราบว่าเพื่อนที่จังหวัดราชบุรี ที่หลบหนีเข้าเมืองมาด้วยกันติดเชื้อในวันที่ 6 ธันวาคม จึงไปขอรับการตรวจที่โรงพยาบาลเอกชน ผลพบว่าติดเชื้อ จึงพาตัวไปตรวจซ้ำ ที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ซึ่งผลก็ยันยันว่าติดเชื้อ จึงรับตัวไว้รักษา

ทั้งหมดยังพบว่าเป็นการติดเชื้อจากนอกพื้นที่ มีเพียง 1 ราย ซึ่งเป็นชายอายุ 28 ปี ที่ติดเชื้อจากการสัมผัสกลุ่มผู้ติดเชื้อที่ลักลอบเข้ามา ซึ่งก็ถือว่า ยังไม่ได้เป็นการติดเชื้อจากในพื้นที่แม้แต่รายเดียว

นายแพทย์ทศเทพ กล่าวว่า กรณีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 7 ราย ไม่มีอะไรน่าห่วง เพราะเป็นที่มาแสดงตน ขอเข้าทางช่องทางปกติ เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม และอยู่ในสถานที่กักกันของรัฐมาโดยตลอด ก่อนผลตรวจพบว่าติดเชื้อ เนื่องจากหญิงสาวเหล่านี้ทำงานในจังหวัดท่าขี้เหล็ก ซึ่งเป็นพื้นที่ระบาด แต่ไม่ได้ทำงานในโรงแรม 1G1 แต่เป็นสถานบันเทิงแหล่งอื่นที่รูปแบบคล้ายกัน

ส่วนหญิงสาววัย 21 ปี ที่หลบหนีเข้าอาศัยอยู่กับญาติ และตรวจสอบไทม์ไลน์ พบว่ามีการเดินทางไปยังท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงด้วย เพื่อไปส่งเพื่อนเคสราชบุรี ซึ่งจากการสอบสวนโรคพบว่า มีกลุ่มใกล้ชิดที่เสี่ยงสูงอยู่ 8 ราย เสี่ยงต่ำอีก 8 ราย โดย 5 ราย ที่เสี่ยงสูงผลตรวจออกมา 2 ราย คือสามีของหญิงคนดังกล่าว และเพื่อนไม่พบว่ามีการติดเชื้อ ที่เหลือจะทราบผลภายในวันนี้ จึงให้ทั้งหมดกักตัวอยู่ที่บ้านของตนเองก่อน และให้เว้นระยะห่าง เพื่อไม่ให้มีการแพร่ยังบุคคลอื่น

เชียงราย

ไทม์ไลน์สาวหนีเข้าเมืองติดโควิด เชียงราย

ก่อนหน้านี้ นายแพทย์จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 (COVID-19) จากกรณีที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในประเทศไทย ล่าสุด (8 ธ.ค.) พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 19 ราย พบเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ จาก เมียนมา 1 ราย ไม่เข้ากักกัน

ผู้ป่วยรายนี้เป็น หญิงไทย อายุ 21 ปี เดินทางจาก จังหวัดท่าขี้เหล็ก เมียนมา เข้าประเทศไทย ตามเส้นทางธรรมชาติทาง จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2563  พร้อมเพื่อนซึ่งเป็นผู้ป่วยหญิงเคสที่ จังหวัดราชบุรี ซึ่งไทม์ไลน์ผู้ป่วยรายล่าสุดของเชียงราย มีดังนี้

29 พ.ย.63

  • 06.00 น. ผู้ป่วยเดินทางข้ามมายังฝั่งไทยกับเพื่อน (เคสราชบุรี) ตามเส้นทางธรรมชาติ ชาวเมียนมาเป็นผู้เดินนำทางมาส่ง
  • 07.00 น. ผู้ป่วยโทรหาแฟนให้ไปรับตนเองและเพื่อนที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง
  • 08.00 น. แฟนของผู้ป่วยเดินทางถึงสถานที่นัดพบและเดินทางต่อไปยังสนามบินเชียงรายเพื่อไปส่งเพื่อน (เคสราชบุรี) ขึ้นเครื่องไปกทม.
  • 09.00 น. เดินทางถึงสนามบินเชียงราย หลังจากนั้นผู้ป่วยและแฟนเดินทางกลับบ้านทันทีโดยไม่ได้ลงจากรถ
  • 10.30 น. ผู้ป่วยและแฟนเดินทางถึงบ้าน
  • 18.00 น. ผู้ป่วยและแฟนเดินทางไปเที่ยวงานสิงห์ปาร์ค โดยมี ก. และ ข. โดยสารไปด้วย และมีเพื่อนมาสมทบอีก 3 คนในภายหลังโดย ค. และ ง. มาคันเดียวกัน ส่วน จ. เดินทางมาจาก กทม. และได้ขับรถยนต์ส่วนตัวตามไปที่งาน ทั้ง 7 คนนั่งบริเวณโชนกลางของงาน ใกล้กับเคสของพะเยา
  • 24.00 น. เดินทางออกจากงานและกลับถึงบ้านเวลา 03.00 น.

30 พ.ย.-2 ธ.ค.63

  • ผู้ป่วยอาศัยอยู่แต่ในบ้านไม่ได้ออกไปไหน

3 ธ.ค.63

  • 14.00 น. ผู้ป่วยและแฟนเดินทางมาขอคิวตรวจโควิดที่โรงพยาบาลเอกชน ตามสิทธิ์ สปสช. เมื่อได้คิวแล้วก็เดินทางกลับบ้านทันที
  • 15.45 น. ผู้ป่วยและแฟนเดินทางมายังจุดตรวจ
  • 16.00 น. เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลทำการเก็บตัวอย่างเพื่อส่งตรวจ แต่ยังไม่ได้ผล
  • 16.10 น. ผู้ป่วยและแฟนเดินทางออกจาก รพ. และเมื่อถึงบ้านก็อยู่แต่ในบ้าน ไม่ได้ออกไปไหน

5 ธ.ค.63

  • 16.20 น. ผู้ป่วยและแฟนเดินทางมายังจุดบริการตรวจโควิด-19 รพ.เอกชน ในอำเภอแม่สาย เพื่อเข้ารับการตรวจอีกครั้ง โดยยินดีชำระเงินเองเนื่องจากไม่ต้องการรอผลตรวจนาน
  • 16.50 น. เจ้าหน้าที่การเงินโรงพยาบาลมาเก็บค่าบริการ
  • 17.00 น. เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเก็บตัวอย่างเพื่อส่งตรวจ
  • 17.10 น. เจ้าหน้าที่การเงินนำเงินทอนมาให้
  • 17.12 น. ผู้ป่วยและแฟนเดินทางออกจากโรงพยาบาล และเมื่อถึงบ้านก็อาศัยอยู่แต่ในบ้านไม่ได้ออกไปไหน

6 ธ.ค.63

  • รับแจ้งผลการตรวจว่าพบ SARS-COV-2
  • โรงพยาบาลแม่สายส่งตัวผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่ รพศ.ชร.
  • ทีมปฏิบัติการสอบสวนโรค สสจ.เชียงราย ดำเนินการสอบสวน และควบคุมโรครวมทั้งติดตามผู้สัมผัสทั้งหมด เพื่อเข้ารับการตรวจซ้ำ และกักตัวเพื่อสังเกตอาการเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 63 ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 9 คน ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ เป็นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเอกชนในอำเภอแม่สาย จำนวน 8 คน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo