COVID-19

CDC สหรัฐ ชี้ความแตกต่างระหว่าง ‘โอไมครอน BA.2.87.1 VS JN.1’

CDC สหรัฐ เผยความแตกต่างระหว่างโอไมครอน BA.2.87.1 ที่สุ่มเสี่ยงจะระบาดในอนาคต กับโอไมครอน JN.1 สายพันธุ์หลักที่ระบาดในปัจจุบัน

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) แถลงว่า จากการสุ่มถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมของโควิด-19 ทั่วโลก ทำให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจพบสายพันธุ์ย่อยของ SARS-CoV-2 ที่มีการเปลี่ยนแปลงในส่วนโปรตีนหนามมากกว่า 30 ตำแหน่ง เมื่อเทียบกับโอไมครอน XBB.1.5 โดยถูกเรียกขานว่า โอไมครอน BA.2.87.1  อันเป็นสายพันธุ์ที่มีวิวัฒนาการก้าวกระโดดจากโอไมครอน BA.2 ก้าวข้ามแยกสายพันธุ์จากโอไมครอน XBB และ JN.1 ที่กำลังแพร่ระบาดเป็นสายพันธุ์หลักในปัจจุบัน

CDC สหรัฐ

โอไมครอน BA.2.87.1 ไม่สามารถแพร่ระบาดอย่างมีประสิทธิภาพในพื้นที่ที่มีโอไมครอน JN.1 เป็นสายพันธุ์หลัก แต่อาจมีการแพร่ระบาดได้ดีในภูมิภาคที่มีความชุกของโอไมครอน JN.1 ต่ำ ซึ่งในพื้นนั้นอาจช่วยส่งเสริมให้โอไมครอน BA.2.87.1 เกิดการกลายพันธุ์ที่เพิ่มความสามารถในการหลีกเลี่ยงภูมิคุ้มกัน และการแพร่ระบาดที่ดีขึ้น

แม้จะสุ่มพบจากผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพียง 9 คนในแอฟริกาใต้ตั้งแต่เดือนกันยายน 2023 โดยขณะนี้ไม่มีรายงานผู้ป่วยในสหรัฐ หรือนอกแอฟริกาใต้ รวมทั้งประเทศไทย แต่การเปลี่ยนแปลงอย่างมากบนโปรตีนส่วนหนามทำให้เกิดความสุ่มเสี่ยง ที่สายพันธุ์ใหม่นี้จะมีการกลายพันธุ์ต่อไป และจะสามารถหลุดรอดจากภูมิคุ้มกันที่ได้รับจากวัคซีน หรือการติดเชื้อตามธรรมชาติได้

11 1

CDC สหรัฐ ได้เฝ้าติดตามสายพันธุ์ใหม่นี้อย่างระมัดระวังและใกล้ชิด โดยศูนย์ควบคุมฯ คาดหวังว่า วัคซีนโอไมครอนสายพันธุ์เดียว XBB.1.5 หรือที่เรียกว่า วัคซีนโมโนวาเลนต์ ที่อาศัยโอไมครอน XBB.1.5 เป็นต้นแบบหรือสารตั้งต้น (monovalent XBB.1.5-containing vaccines) และการรักษาด้วยยาต้านไวรัสโควิด-19 ที่มีอยู่ในปัจจุบันจะยังคงมีประสิทธิภาพสู้กับโอไมครอน BA.2.87.1 ได้

ในขณะที่งานวิจัยล่าสุดจากทีมวิจัยจีน ได้แสดงให้เห็นว่าวัคซีนโควิด 3 สายพันธุ์ (trivalent covid-19 vaccine: XBB.1.5+BA.5+เดลตา) ที่ได้รับอนุมัติให้ใช้ได้เป็นกรณีฉุกเฉินในจีน อาจใช้เป็นวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้สามารถสู้กับไวรัสโคโรนา 2019 อย่างครอบคลุม (broad spectrum) ตั้งแต่สายพันธุ์ดั้งเดิม (อู่ฮั่น) จนถึงโอไมครอนสายพันธุ์หลักในปัจจุบัน JN.1 และโอไมครอน BA.2.87.1 ที่สุ่มเสี่ยงจะเกิดการระบาดขึ้นในอนาคต

33

โอไมครอน BA.2.87.1 แตกต่างจากโอไมครอน JN.1 อย่างไร

โอไมครอน BA.2.87.1 เข้าสู่เซลล์มนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่หลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้น้อยกว่า JN.1 ซึ่งบ่งชี้ถึงความจำเป็นที่ โอไมครอน BA.2.87.1 ยังจะต้องมีการกลายพันธุ์ เพื่อปรับตัวเพื่อให้มีความสามารถในการแพร่ระบาดในมนุษย์

โอไมครอน BA.2.87.1 จับกับผิวเซลล์ (ACE2) ทั้งในมนุษย์และสัตว์ได้ดีเพื่อเข้าสู่เซลล์ โดยมีประสิทธิภาพที่โดดเด่นในการจับและการหลอมรวมเซลล์ (cell fusion) แม้ว่าโอไมครอน BA.2.87.1 จะมีประสิทธิภาพน้อยกว่าในการเข้าสู่เซลล์ปอดมนุษย์ (Calu-3) เมื่อเปรียบเทียบกับโอไมครอน JN.1 บ่งชี้ว่า โอไมครอน BA.2.87.1 เพิ่งก้าวข้ามจากสัตว์มาสู่คนเมื่อเทียบกับโอไมครอน JN.1

222

ส่วนผิวเซลล์ที่เรียกว่า TMPRSS2 มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเข้าสู่เซลล์ปอดของโอไมครอน BA.2.87.1 ซึ่งแตกต่างจากโอไมครอนสายพันธุ์อื่น ที่ลดความจำเป็นที่ต้องจับกับ TMPRSS2 เพื่อเข้าสู่เซลล์

แอนติบอดีสำเร็จรูป (monoclonal antibody) สำหรับการรักษาโรคโควิด-19 พบว่ามีถึงห้าชนิดที่สามารถจับและทำลาย BA.2.81.7 ในหลอดทดลองได้คือ Casirivimab, Tixagevimab, Amubarvimab, Regdanvimab, และ Sotrovimab ในขณะที่โอไมครอน JN.1 จะดื้อต่อแอนติบอดีสำเร็จรูปเกือบทั้งหมด

การศึกษาสรุปว่า BA.2.87.1 มีความสามารถในลดการหลีกเลี่ยงภูมิคุ้มกันแอนติบอดีที่ด้อยกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับ โอไมครอน JN.1 ซึ่งชี้ให้เห็นว่าโอไมครอน BA.2.87.1 ไม่สามารถแพร่กระจายอย่างมีประสิทธิภาพในพื้นที่ที่มีโอไมครอน JN.1 เป็นสายพันธุ์หลัก แต่อาจสามารถแพร่ระบาดได้ดีในภูมิภาคที่มีความชุกของโอไมครอน JN.1 ต่ำ ซึ่งในพื้นนั้นอาจช่วยส่งเสริมให้โอไมครอน BA.2.87.1 เกิดการกลายพันธุ์ที่เพิ่มความสามารถในการหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันและเสริมการแพร่ระบาดให้ดีขึ้น

 

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yx

Avatar photo