ผู้เชี่ยวชาญชี้ รุ่นลูก “โอไมครอน JN.1” อาจระบาดทั่วโลก หากเกิดการกลายพันธุ์ส่วนโปรตีนหนาม เพิ่มขึ้นอีกเพียงหนึ่งตำแหน่ง
ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดี โพสต์เพจเฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics ระบุข้อมูล อะไรจะเกิดขึ้นหากโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย JN.1 (รุ่นลูกของ BA.2.86) เกิดการกลายพันธุ์ส่วนโปรตีนหนาม เพิ่มขึ้นอีกเพียงหนึ่งตำแหน่ง
องค์การอนามัยโลก (WHO) กำลังติดตาม BA.2.86 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ลูกผสมของโอไมครอนระหว่าง “BA.2” และ “XBB” สายพันธุ์ย่อยนี้ได้รับความสนใจเนื่องจากมีการกลายพันธุ์จำนวนมากซึ่งเกินกว่า 30 ตำแหน่งบนโปรตีนหนาม
จำนวนการกลายพันธุ์ที่มากมายบนโปรตีนหนามนี้ คล้ายคลึงกับการก้าวกระโดดที่พบในสายพันธุ์โอไมครอนที่ปรากฏขึ้นครั้งแรกในอดีต ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับศักยภาพในการแพร่เชื้อ การดื้อต่อวัคซีน ยา และแอนติบอดีสำเร็จรูป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ลูก หลานของ BA.2.86 ซึ่งยังมีการกลายพันธุ์ไปอย่างต่อเนื่อง เช่น โอไมครอน JN.1, JN.2, JN.3 ฯลฯ
โอไมครอน BA.2.86 กลายพันธุ์ต่อเนื่อง อาจเกิดเจ็บป่วยรุนแรง
แม้ว่า WHO ยังมิได้จัดให้โอไมครอน BA.2.86 เป็น Variant of Concern (VOC) แต่โปรไฟล์ทางพันธุกรรมที่ไม่เหมือนโอไมครอนสายพันธุ์ดั้งเดิม ทำให้ผู้เชี่ยวชาญตั้งชื่อ BA.2.86 อย่างไม่เป็นทางการว่า “Pirola” ซึ่งมาจากอักษรกรีก “Pi” รวมกับ “Rho” ที่เป็นสองอักษรกรีกที่ถัดจาก “โอไมครอน”
หลายฝ่ายเริ่มคลายกังวลเมื่อไม่พบข้อมูลทางคลินิกที่บ่งชี้ว่าการติดเชื้อโอไมครอน BA.2.86 และ EG.5.1 จะทำให้เกิดการเจ็บป่วยที่รุนแรง และดูเหมือนว่าทั้งสองสายพันธุ์ย่อยจะยังไม่สามารถแข่งขันกับโอไมครอนกลุ่มย่อย XBB* ที่เป็นสายพันธุ์หลักอยู่ในปัจจุบันได้ โดยเฉพาะกับกลุ่มของ “FLip” ที่มีการกลายพันธุ์คู่-พลิกขั้ว “L455F + F456L” เช่น โอไมครอน HK.3
กลุ่มโอไมครอนกลายพันธุ์คู่-พลิกขั้ว “L455F + F456L” พบแล้วทั่วโลก (จากฐานข้อมูลโควิดโลก “GISAID” ณ. เดือนพฤศจิกายน 2566) จำนวน 34,301 ราย และพบในประเทศไทย 42 ราย
ที่น่าสังเกตคือโอไมครอนสายพันธุ์ล่าสุดไม่ว่าจะเป็น XBB->EG.5.1->HV.1 หรือ BA.2->BA.2.86->JN.1,JN.2,JN.3 ล้วนมีแนวโน้มที่จะกลายพันธุ์ในลักษณะของกลายพันธุ์คู่-พลิกขั้ว (L455F + F456L) ด้วยกันทั้งสิ้น
การกลายพันธุ์คู่-พลิกขั้ว เป็นการวิวัฒนาการ “แบบเบนเข้า” หรือ “วิวัฒนาการเชิงบรรจบ (convergent evolution)” ที่ธรรมชาติกำหนดให้กับสิ่งมีชีวิต รวมถึงไวรัส ที่แม้ไวรัสจากต่างสายพันธุ์เช่น EG.5.1 และ BA.2.86 กลับมีวิวัฒนาการในลักษณะคล้ายคลึงกัน คือพยายามมีการกลายพันธุ์บนส่วนหนามสองตำแหน่งติดกัน(double mutation) คือ L455F และ F456L เหมือนกัน เนื่องจากไวรัสทั้งสองอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ถูกกดดันด้วยภูมิคุ้มกันจากวัคซีน และการติดเชื้อตามธรรมชาติในลักษณะเดียวกัน
โอไมครอน “HV.1 (XBB.1.9.2.5.1.6.1)” สืบเชื้อสายมาจากโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย XBB.1.9.2 โดยเป็นทายาทรุ่นลูกของโอไมครอน EG.5 พบการกลายพันธุ์ที่ส่วนหนามบริเวณ “F456L” ก่อให้เกิดการระบาดเป็นสายพันธุ์หลักในสหรัฐอเมริกาขณะนี้ โดยคิดเป็น 25.2% ของสายพันธุ์ที่ระบาดหมุนเวียนในสหรัฐอเมริกา (พฤศจิกายน 2566)
โอไมครอน JN.1 ลูก BA.2.86 อาจระบาดทั่วโลก หากกลายพันธุ์เพิ่มอีก 1 ตำแหน่ง
ช่วงเวลาใกล้เคียงกันในเดือนกันยายน 2566 ที่ผ่านมา นักวิจัยได้ตรวจพบรุ่นลูกของโอไมครอน BA.2.86 ในยุโรปที่มีการกลายพันธุ์สะสมเพื่อหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้มากขึ้นพร้อมไปกับการจับกับผิวเซลล์ได้อย่างมั่นคงขึ้น โดยมีตำแหน่งการกลายพันธุ์ที่ตำแหน่ง “L455S” เกิดเป็นสายพันธุ์ย่อยที่ถูกตั้งชื่อว่า “JN.1” พบระบาดมากในประเทศอังกฤษและฝรั่งเศส ยังไม่พบในประเทศไทย
ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า “รุ่นลูกของโอไมครอน JN.1” อาจเกิดการแพร่ระบาดกลายเป็นสายพันธุ์หลักทั่วโลกได้ในอนาคต “หากมีการกลายพันธุ์ ณ. ตำแหน่ง “F456L” เพิ่มเติมอีกเพียงหนึ่งตำแหน่ง”
ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ. รามาธิบดี กำลังติดตามโอมิครอน JN.1 และลูกหลานอย่างใกล้ชิด ขณะนี้พบโอไมครอน BA.2.86 และลูกหลาน (ในฐานข้อมูลโควิดโลกจีเสส) ระบาดทั่วโลกไปแล้วจำนวนกว่า 2,309 ตัวอย่างจาก 39 ประเทศ กล่าวคือ
ประเทศไทย จำนวน 2 ราย คิดเป็น 0.094% ของสายพันธุ์ที่ระบาดในไทย
อังกฤษ 498 ราย 2.027% , ฝรั่งเศส 314 ราย 1.607% , สวีเดน 234 ราย 3.486% , เดนมาร์ก 182 ราย 4.919% , สเปน 168 ราย 0.945% , แคนาดา 150 ราย 0.425% , สหรัฐ 135 ราย 0.119% , เนเธอร์แลนด์ 64 ราย 2.070% , ญี่ปุ่น 59 ราย 0.198% , แอฟริกาใต้ 55 ราย 8.871% , เบลเยียม 45 ราย 1.503% , ออสเตรเลีย 44 ราย 0.309% , เยอรมนี 41 ราย 1.391% , สิงคโปร์ 38 ราย 0.522% , ไอร์แลนด์ 34 ราย 1.339% , เกาหลีใต้ 31 ราย 0.106% , สวิตเซอร์แลนด์ 31 ราย 1.839% , อิสราเอล 30 ราย 0.900%
โปรตุเกส 27 ราย 1.583% , อิตาลี 24 ราย 0.394% , ฟินแลนด์ 21 ราย 0.986% , ไอซ์แลนด์ 18 ราย 2.922% , ออสเตรีย 15 ราย 0.514% , ลักเซมเบิร์ก 8 ราย 0.643% , นิวซีแลนด์ 7 ราย 0.161% , โครเอเชีย 5 ราย 0.452% , กรีซ 5 ราย 0.311% , นอร์เวย์ 5 ราย 0.923% , จีน 4 ราย 0.016% , สโลวีเนีย 4 ราย 0.354% , โปแลนด์ 3 ราย 0.676% , บัลแกเรีย 2 ราย 0.707% , บอตสวานา 1 ราย 3.448% , บราซิล 1 ราย 0.025% , ฮ่องกง 1 ราย 0.215% , มาเลเซีย 1 ราย 0.059% , ไต้หวัน 1 ราย 0.112% , ยูเครน 1 ราย 0.100%
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ศูนย์จีโนมฯ เผย 4 สาเหตุ ทำไม? โอไมครอน HK.3 กลุ่มกลายพันธุ์พลิกขั้ว น่ากังวลกว่า BA.2.86
- ทั่วโลกยกระดับ ติดตามใกล้ชิด ‘โอไมครอน BA.2.86’ กลายพันธุ์หนีวัคซีน หลบภูมิคุ้มกันได้สูงสุดในบรรดาโควิด 19
- ศูนย์จีโนมฯ เฉลย ‘โอไมครอน EG.5.1’ จะมาแทนที่ ‘XBB.1.16’ ในไทยได้หรือไม่?