COVID-19

สะพรึง!! กรมวิทย์ฯ พบโอไมครอนสายพันธุ์ลูกผสม XBB กระจายทุกเขตสุขภาพ XBB.1.16 มากสุด

กรมวิทย์ฯ เผยสัดส่วนโอไมครอนสายพันธุ์ลูกผสม XBB ในประเทศไทย พบผู้ติดเชื้อกระจายทุกเขตสุขภาพแล้ว สายพันธุ์ XBB.1.16 มากสุด

นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อัพเดทสถานการณ์การเฝ้าระวังสายพันธุ์โควิด 19 และสายพันธุ์ที่เฝ้าติดตามในประเทศไทย โดย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ร่วมกับ เครือข่ายห้องปฏิบัติการ ติดตามการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์เชื้อไวรัส SARS-CoV-2 อย่างต่อเนื่อง

shutterstock 2021762051

 

นายแพทย์ศุภกิจ กล่าวว่า สองสัปดาห์ก่อนองค์การอนามัยโลก (WHO) ปรับชนิดสายพันธุ์ที่ติดตามใกล้ชิดโดยเพิ่ม XBB.1.16 เป็นสายพันธุ์ที่เฝ้าระวัง หรือ Variants of Interest (VOI)

ล่าสุด ต้นเดือนพฤษภาคม 2566 องค์การอนามัยโลกปรับเพิ่ม XBB.1.9.2 เป็นสายพันธุ์ที่ต้องจับตามอง หรือ Variants under monitoring (VUM) โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. VOI 2 สายพันธุ์ ได้แก่ XBB.1.5 และ XBB.1.16

2. VUM 7 สายพันธุ์ ได้แก่ BA.2.75, CH.1.1, BQ.1, XBB, XBB.1.9.1, XBB.1.9.2 และ XBF

สัดส่วนสายพันธุ์

สถานการณ์สายพันธุ์เชื้อ SARS-CoV-2 ทั่วโลกอ้างอิงจากฐานข้อมูลกลาง GISAID ในรอบสัปดาห์ 10-16 เมษายน 2566 พบสัดส่วนของสายพันธุ์แตกต่างจากรอบ 1 เดือนก่อนหน้า ดังนี้

  • XBB.1.5 รายงานจาก 106 ประเทศ คิดเป็น 46.7% ลดลงจาก 49.3%
  • XBB.1.16 รายงานจาก 40 ประเทศ คิดเป็น 5.7% เพิ่มจาก 2%
  • XBB, XBB.1.9.1 และ XBB.1.9.2 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
  • BA.2.75, CH.1.1, BQ.1 และ XBF มีแนวโน้มลดลง

สถานการณ์ล่าสุดในไทยรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ 1-7 พฤษภาคม 2566 มีการถอดรหัสพันธุกรรมเชื้อก่อโรคโควิด 19 จำนวน 372 ราย พบเป็นสายพันธุ์ลูกผสม 323 ราย คิดเป็น 86.8% โดยพบผู้ติดเชื้อกระจายทุกเขตสุขภาพ

ตามเขตสุขภสพ

สัดส่วนสายพันธุ์ที่ตรวจในสัปดาห์นี้ พบสายพันธุ์ลูกผสม XBB มากกว่า 74 % ในทุกเขตสุขภาพ ยกเว้นเขตสุขภาพที่ 5 ซึ่งมีตัวอย่างส่งตรวจน้อย พบมากที่สุดเป็นสายพันธุ์ลูกผสม XBB.1.16 คิดเป็น 27.7 % รองลงมาคือสายพันธุ์ XBB.1.5 คิดเป็น 22.0 % ในขณะที่ BN.1 ซึ่งเคยเป็นสายพันธุ์หลักในไทยตั้งแต่ช่วงสิ้นปี 2565 มีสัดส่วนลดลง

นายแพทย์ศุภกิจ กล่าวต่อว่า ตามที่ WHO ได้ประกาศยุติภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขโลก ของโรคโควิด 19 ที่ใช้มานานกว่า 3 ปี หลังพบตัวเลขผู้เสียชีวิตลดลง และผู้คนกลับมาใช้ชีวิตปกติ

อย่างไรก็ตาม WHO ยังย้ำว่า แม้สถานการณ์ฉุกเฉินจะจบลง แต่ก็จะยังคงเฝ้าระวังเชื้อก่อโรคโควิด 19 สายพันธุ์ใหม่ที่เป็นอันตรายต่อสถานการณ์สาธารณสุขโลกต่อไป รวมทั้งประเทศไทยเองยังคงมีมาตรการรับมือโควิด 19 เช่นเดิม

นพ.ศุภกิจ
นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์

สำหรับประชาชนแนะนำให้ระมัดระวังในการปฏิบัติตัว การล้างมือ สวมหน้ากากอนามัยหากต้องไปร่วมกิจกรรมที่มีคนจำนวนมากหรือไปในที่สาธารณะ และการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ยังมีความจำเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเปราะบางหรือกลุ่มเสี่ยง 608 จะช่วยลดอาการหนักและเสียชีวิตได้

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ประสานขอให้โรงพยาบาลทั่วประเทศ ส่งตัวอย่างผู้ป่วยโควิด 19 ทั่วประเทศ ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาตรวจสายพันธุ์เพิ่มขึ้น ขอให้ความมั่นใจ ว่ากรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และเครือข่าย จะยังคงเฝ้าระวังติดตามการกลายพันธุ์ของเชื้อ SARS-CoV-2 อย่างต่อเนื่อง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo