COVID-19

โควิดจีน: เซี่ยงไฮ้สะพรึง คาดปีใหม่ผู้ติดเชื้อพุ่ง 12 ล้านคน หลังผ่อนคลายมาตรการ

ส่งกำลังใจโควิดจีน หลังผ่อนคลายมาตรการ “หมอเฉลิมชัย” คาดช่วงเทศกาลปีใหม่ นครเซี่ยงไฮ้มีผู้ติดเชื้อแตะ 12 ล้านคน หรือ 50% ของประชากรทั้งหมดของเซี่ยงไฮ้

นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย เรื่อง นครเซี่ยงไฮ้อาจพบผู้ติดโควิดมากถึง 12 ล้านคนในช่วงปีใหม่นี้ โดยระบุว่า

โควิดจีน

โรงพยาบาลของนครเซี่ยงไฮ้แห่งหนึ่ง ได้แจ้งให้บุคลากรของตน เตรียมพร้อมที่จะรับมือกับสถานการณ์ผู้ป่วยโควิด ซึ่งสถานการณ์นี้จะหนักหน่วงมาก

เนื่องจากมีการผ่อนคลายมาตรการการควบคุมโรคโควิด คาดว่าจะมีประชากรราวครึ่งหนึ่งของ 25 ล้านคน ติดเชื้อโควิดในช่วงปีใหม่

ภายหลังจากที่ประเทศจีน ได้มีประชาชนส่วนหนึ่ง แต่ในหลากหลายเมือง และภูมิภาคของประเทศ ได้ออกมาประท้วง แสดงความไม่พอใจต่อมาตรการควบคุมโควิดเป็นศูนย์ ของทางการจีน

ทำให้รัฐบาลจีนต้องผ่อนคลายมาตรการดังกล่าวลง ซึ่งมีราคาที่ต้องจ่าย (Price to pay) เพื่อผ่อนคลายความไม่พอใจของผู้ประท้วง ก็คือ ประชาชนจีนจำนวนมาก จะติดเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด

 

แม้เชื้อไวรัสโอไมครอนจะไม่รุนแรง แต่เนื่องจากจีนมีพลเมืองมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก กว่า 1,400 ล้านคน
ผู้ติดเชื้อเมื่อคิดเป็นร้อยละเท่ากับประเทศอื่น แต่เมื่อนับเป็นจำนวนหัวแล้วก็จะมีผู้ติดเชื้อนับ 100 ล้านคนได้

shutterstock 2147679493 1

ตัวอย่างเช่น ในสหรัฐ มีประชากร 330 ล้านคน ก็ติดไปมากถึง 100 ล้านคน ซึ่งเมื่อมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก แม้อาการไม่รุนแรง เช่น เสียชีวิต 1% ก็อาจจะทำให้จีนมีผู้เสียชีวิตนับล้านคนได้เช่นเดียวกับสหรัฐ ที่มีผู้ติดเชื้อ 100 ล้านคน ก็เสียชีวิตไป มากถึง 1 ล้านคน

มาตรการควบคุมโรคที่เข้มของประเทศจีน ซึ่งสร้างความน่าทึ่งต่อชาวโลกมาแล้วว่า สามารถบริหารจัดการและทำได้ดีมาตลอดสามปีที่ผ่านมา คือมีผู้ติดเชื้อเพียง 300,000 คนเศษ และเสียชีวิตเพียง 5000 คนเศษนั้น ต้องนับว่ายอดเยี่ยมมากทีเดียว

อย่างไรก็ตาม ตลอดสามปีนั้น ก็ถือว่านานเกินไป จนผลกระทบทางลบที่เกิดขึ้นกับทางเศรษฐกิจ และการใช้ชีวิตในสังคมมีมาก และเนิ่นนาน

จนมีประชาชนส่วนหนึ่ง ที่ได้รับผลกระทบทางลบจากมาตรการดังกล่าว และตนเองมีความเสี่ยงที่จะมีอาการรุนแรงหรือเสียชีวิตน้อย จึงออกมาเรียกร้องและประท้วง

หมอเฉลิมชัย

ขณะที่ประชาชนอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งมีความเสี่ยงสูง ก็มีความวิตกกังวล และไม่เห็นด้วย กับการผ่อนคลายมาตรการดังกล่าวของทางการจีน

โรงพยาบาลนครเซี่ยงไฮ้ได้โพสต์ว่า คาดว่าขณะนี้มีผู้ติดเชื้อในนครเซี่ยงไฮ้แล้วกว่า 5 ล้านคน จากประชากร 25 ล้านคน แต่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีอาการหรืออาการเล็กน้อย

คาดว่าภายในสิ้นปีนี้ต่อต้นปีหน้า จะมีผู้ติดเชื้อสะสมในนครเซี่ยงไฮ้ราวครึ่งหนึ่งคือ 12.5 ล้านคน เพราะมีเทศกาลต่อเนื่องกัน ทั้งคริสต์มาส ปีใหม่ และตรุษจีน

เมื่อมาดูมิติของการฉีดวัคซีนของประเทศจีน พบว่าทำได้ดีคือ ฉีดครบสองเข็มในระดับ 90%

ส่วนเข็มสามหรือเข็มกระตุ้นฉีดได้ เพียง 57.9% (ในขณะที่ของไทยฉีดเข็ม 3 ได้ 47.14%) และประชากรวัยเกิน 80 ปีซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยง ฉีดได้ 42.3% จึงทำให้เกิดความกังวลว่า อาจจะมีการเสียชีวิตในกลุ่มสูงอายุได้เป็นจำนวนมาก

การผ่อนคลายมาตรการ จนมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น จะส่งผลให้เกิดความขาดแคลน ทั้งยา เวชภัณฑ์ เตียง และบุคลากรสาธารณสุข ซึ่งจะเกิดขึ้นในเกือบทุกภูมิภาค

shutterstock 1626528310

 

แต่คาดว่าอัตราการป่วยรุนแรงและเสียชีวิตนั้น จะไม่มากนัก น่าจะอยู่ในระดับ 0.1% ถึง 1% เพราะเป็นลักษณะประจำของไวรัสโอไมครอน

จึงอาจวิเคราะห์ได้ว่า การที่ประเทศจีนตัดสินใจผ่อนคลายในช่วงนี้ แม้ส่วนหนึ่งจะมาจากการประท้วง

แต่ก็น่าจะเป็นจังหวะเวลาที่จำเป็นจะต้องผ่อนคลาย จะทำให้มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก แต่การเสียชีวิตไม่น่าจะมากเหมือนประเทศอื่น ในช่วงที่มีไวรัสเดลต้าระบาด

แต่ด้วยเหตุที่จีนมีประชากรมากที่สุดในโลก อาจจะทำให้มีการเห็นตัวเลขรายงานผู้เสียชีวิต ถึงหลักล้านคนในปีหน้า

แต่เมื่อคำนวณเป็นร้อยละแล้ว ก็จะยังน้อยกว่าสหรัฐกว่า 4 เท่าตัว เพราะสหรัฐมีประชากรน้อยกว่าจีนสี่เท่า

ก็คงต้องให้กำลังใจประเทศจีน เช่นเดียวกับองค์การอนามัยโลก เสียชีวิตในกลุ่มสูงอายุที่ได้แถลงว่าพร้อมจะให้ความสนับสนุนจีนในทุก ๆ ด้าน เพื่อให้ผ่านเหตุการณ์นี้ไปด้วยดี

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo