COVID-19

โควิดขาขึ้น เข้าสู่ระลอกย่อยใหม่ชัดเจน ‘หมอเฉลิมชัย’ ชี้ผลจากมาตรการผ่อนคลาย ไวรัสกลายพันธุ์

“หมอเฉลิมชัย” เผยไทยโควิดขาขึ้น เขาสู่ระลอกย่อยใหม่ชัดเจน หลังผ่อนคลายมาตรการทางสาธารณสุข เกิดไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์ย่อยใหม่

นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย เรื่อง โควิดไทยเริ่มขาขึ้น เข้าสู่ระลอกย่อยใหม่แล้วชัดเจน สัปดาห์นี้ติดเชื้อเพิ่มอีก 24.18% โดยระบุว่า

shutterstock 2115280637

สถานการณ์โควิดของประเทศไทยอยู่ในทิศทางเดียวกับสถานการณ์โควิดของโลก กล่าวคือ กำลังเกิดระลอกใหม่

ทั้งนี้มีสาเหตุมาจากมาตรการผ่อนคลายทางสาธารณสุข เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และมีไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์ย่อยใหม่ด้วย

จากการติดตามสถานการณ์โควิดของประเทศไทย นับตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2565 ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนความเข้มของมาตรการสาธารณสุข จากโรคติดต่ออันตราย เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง

พบว่า ในเดือนแรก โควิดอยู่ในทิศทางขาลงต่อเนื่องกัน 4 สัปดาห์ จนเข้าสู่จุดต่ำสุด ในช่วงวันที่ 23-29 ตุลาคม 2565 ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อสัปดาห์ละ 2515 ราย และเสียชีวิต 33 ราย

แต่ในรายงานล่าสุดของ กรมควบคุมโรค เป็นตัวเลขของช่วงวันที่ 20-26 พฤศจิกายน 2565 พบการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงก่อนหน้าคือ 13-19 พฤศจิกายน 2565

LINE ALBUM รวมหมอโควิด ๒๒๐๖๐๑

ผู้ติดเชื้อแบบพีซีอาร์

  • เพิ่มขึ้นจาก 3957 ราย เป็น 4914 ราย หรือเพิ่มขึ้น 24.18%

เสียชีวิต

  • เพิ่มขึ้นจาก 69 รายต่อสัปดาห์ เป็น 74 ราย เพิ่มขึ้น 7.2%

มีอาการปอดอักเสบ

  • เพิ่มขึ้นจาก 432 เตียง เป็น 553 เตียง เพิ่มขึ้น 28%

ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ

  • เพิ่มขึ้นจาก 252 เตียง เป็น 319 เตียง เพิ่มขึ้น 26.5 %

และถ้านำตัวเลขล่าสุด ไปเปรียบเทียบกับจุดต่ำสุดเมื่อวันที่ 23-29 ตุลาคม 2565 พบว่า จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 95.39% ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 124.24%

จากตัวเลขดังกล่าว พอจะประเมินสถานการณ์โควิดของประเทศไทยในขณะนี้ได้ว่า มีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ เป็นเวลา 4 สัปดาห์ หรือหนึ่งเดือนเต็มแล้ว

จึงทำให้โควิดของไทย เริ่มเข้าสู่ช่วงขาขึ้น ขยับตัวเข้าสู่ระลอกใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเป็นระลอกเล็กหรือระลอกย่อย ในทิศทางเดียวกับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก

การมีวินัยในการป้องกันโรค เว้นระยะห่างทางสังคม ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์ และการใส่หน้ากากอนามัยในสถานที่เสี่ยงและกิจกรรมเสี่ยง จึงยังคงมีความจำเป็นมาก ตลอดจนการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มสามด้วย
เพื่อที่จะทำให้สถานการณ์โควิดของไทยอยู่ในสภาวะที่พอจะยอมรับได้ เพื่อให้มิติทางด้านเศรษฐกิจและสังคมจะได้เดินหน้าต่อไป

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ต้องมีความพอเหมาะพอดี ไม่กังวลมากเกินไป และเช่นเดียวกัน ต้องไม่ประมาทมากเกินไปด้วย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo