ศูนย์จีโนมฯ สรุป การป้องกันและรักษา ‘โอไมครอน’ ในไทย พร้อมจับตา CH.1.1 ที่กำลังเพิ่มจำนวน เข้าแทนที่อย่างช้าๆ
ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดี โพสต์เพจเฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics เกี่ยวกับการป้องกันและรักษาโควิด19 ตระกูลโอไมครอน ดังนี้
การป้องกันและรักษาโควิด-19 ตระกูลโอไมครอนที่ระบาดในประเทศไทย
ตระกูลโอไมครอน BA.5*
จากฐานข้อมูลรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมโควิดโลก “GISAID” พบสายพันธุ์ดั้งเดิม BA.5 ในประเทศไทยประมาณ 46.2 % และเริ่มลดจำนวนลงโดยมี BA.5 รุ่นเหลน เช่น BQ.1, BQ.1.1 และ BA.2.75 รุ่นหลาน เช่น CH.1.1 เพิ่มจำนวนเข้ามาแทนที่อย่างช้าๆ
ตระกูลโอไมคsอน BA.2*
สายพันธุ์ดั้งเดิม BA.2 ไม่พบแล้ว พบรุ่นลูกที่กลายพันธุ์มาคือ BA.2.75 จากฐานข้อมูลโควิดโลก “GISAID”พบ BA.2.75* ในประเทศไทยประมาณ 46.2 % และเริ่มลดจำนวนลงโดยมีรุ่นหลาน เช่น CH.1.1 เพิ่มจำนวนมาแทนที่
ตระกูลโอไมคsอนสายพันธุ์ลูกผสม XBB*
พบในประเทศไทยไม่มาก เป็นจำนวนตัวเลขหลักสิบ
- ความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด (relative growth advantage) ของโอไมคsอนสายพันธุ์สำคัญในประเทศไทย
โอไมคsอนตระกูล BA.5* มีความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด (relative growth advantage) เหนือกว่าสายพันธุ์อื่นที่ระบาดในประเทศไทยเพียง 1%
โอไมคsอนตระกูล BA.2.75* มีความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด (relative growth advantage) เหนือกว่าสายพันธุ์อื่นที่ระบาดในประเทศไทยถึง 58% ดังนั้นคาดว่าจะระบาดมาแทนที่ตระกูล BA.5* ในไม่ช้า
โอไมคsอนสายพันธุ์ย่อยอุบัติใหม่ BQ.1.1 อันเป็นเหลนของ BA.5 มีความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด (relative growth advantage) เหนือกว่าสายพันธุ์อื่นที่ระบาดในประเทศประมาณ 45% จึงอาจไม่สามารถระบาดมาแทนที่โอไมคsอนตระกูล BA.2.75* เช่น CH.1.1 ซึ่งมีความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาดสูงกว่าถึง 51%
การใช้วัคซีนต่อต้านโอไมคsอน สายพันธุ์ที่ระบาดในประเทศไทย
จากการทดสอบในห้องปฏิบัติการพบว่าวัคซีนรุ่นแรก และรุ่นที่สองที่ใช้ไวรัสสองสายพันธุ์ (bivalent booster vaccine) เป็นตัวกระตุ้นภูมิต่อสู้กับ BA.2.75 ได้ในระดับหนึ่ง ในขณะที่วัคซีนมีประสิทธิภาพในการยับยั้งไวรัสโอไมคsอนสายพันธุ์ย่อยอุบัติใหม่ (BQ.1.1, XBB.1) ไม่ดีนัก
- ยาฉีดแอนติบอดีออกฤทธิ์ยาวแบบผสม (Long Acting Antibodies /LAAB) ที่มีชื่อว่า “อีวูชีลด์” (Evusheld) ข้อมูลจากห้องปฏิบัติการพบว่าสามารถเข้าจับและยับยั้งการเพิ่มจำนวนของ BA.5/BA.2.75 ในเซลล์ได้ดี แต่เข้าจับและยับยั้งการเพิ่มจำนวนของโอไมคsอนสายพันธุ์ย่อยอุบัติใหม่ เช่น XBB* และ BQ.1*ในเซลล์ได้ไม่ดี
- ยาเม็ดต้านไวรัส” เช่น ยาโมลนูพิราเวียร์ (Molnupiravir), ยาแพกซ์โลวิด (Paxlovid: nirmatrelvir/ritonavir), ยา(ฉีด)เรมเดซิเวียร์ (remdesivir) ขณะนี้ยังใช้รักษาการติดเชื้อโควิดได้ดี มีขอบเขตในการออกฤทธิ์กว้างครอบคลุมเชื้อได้ทุกสายพันธุ์ (board-spectrum anti-SARS-CoV-2) ยังไม่พบโควิดสายพันธุ์ใดทั้งสายพันธุ์ดั้งเดิมและสายพันธุ์ใหม่ดื้อต่อยาต้านไวรัสเหล่านี้
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกกังวลว่าจะเกิดเชื้อดื้อยาในไม่ช้าเมื่อมีการใช้ยาต้านไวรัสโควิด-19 กันมากขึ้น เพราะลักษณะการใช้ยาในปัจจุบันต่อโควิด-19 ยังเป็นการใช้ยาตัวเดียวในการรักษา (monotherapy)
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘หมอยง’ เฉลยแล้ว เราต้องใส่ ‘หน้ากากอนามัย’ ป้องกันโควิด อีกนานแค่ไหน? เช็กเลย!!
- ศูนย์จีโนมฯ ย้ำ เร่งสร้าง ‘ปราการด่านที่ 4’ สู้โควิด ‘ยาต้านไวรัสค็อกเทล’ หลังไวรัสกลายพันธุ์ต่อเนื่อง
- หมอยง เป็นห่วง โควิดขาขึ้น ‘ไวรัสกลายพันธุ์หนีภูมิ’ แอนติบอดี ‘LAAB’ ที่มีอยู่ควรรีบใช้ ก่อนจะใช้ไม่ได้ผล