“บิ๊กต่อ–บิ๊กโจ๊ก” น้อมรับคำสั่ง ช่วยราชการสำนักนายกฯ ชั่วคราว ส่วนจะได้กลับมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อีกหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. กล่าวภายหลังนายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้ไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี ว่า ตอนที่ตนเองกลับมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็เห็นคำสั่งแล้ว ซึ่งตนเองก็รับตามคำสั่งตามที่นายกฯ สั่งการในฐานะผู้บังคับบัญชา โดยวันนี้ (21 มี.ค.) จะมีการไปรายงานตัว เพราะคำสั่งมีผลตั้งแต่วันนี้
ผบ.ตร. กล่าวว่า ส่วนเมื่อช่วงเช้าที่ไปพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี ไม่ได้มีการส่งสัญญานอะไร และตนเองไม่เคยมองเป็นภาพลบ ซึ่งท่านนายกได้แจ้งว่าจะมีคำสั่ง ก็ยอมรับตามคำสั่งนายกฯ ตนเองไม่ได้มีความขัดแย้ง ซึ่งก็ได้พูดมาเสมอ และก็ไม่ได้ทุกข์ใดๆ ไม่ได้เดือดร้อน ตนเองเป็น ผบ.ตร.ก็คือเป็น ผบ.ตร. ซึ่งหากนายกรัฐมนตรีเห็นว่าตนเองปฏิบัติงานไม่ผ่าน และในคำสั่งที่ได้อ่านคร่าวๆและได้ให้ไปลงบันทึกประจำวันไว้นั้น เพราะเนื่องจากมีเหตุขัดแย้งกันเยอะ และเราไม่สามารถที่จะบริหารให้ได้ และเนื่องจากเป็นระดับสูง ดังนั้นก็จะให้ พล.ต.ต.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผบ.ตร. มาเป็นรักษาการเข้ามาดู ซึ่งไม่มีส่วนได้เสีย
“ทั้งนี้ที่คนคิดว่าตนเอง และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.มีปัญหากัน ที่ผ่านมาตนเองก็ยืนยันมาตั้งแต่แรกว่าเราไม่ได้มีปัญหาความขัดแย้งกันเลย หลังจากนี้ก็จะทำตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีอย่างเดียว ท่านสั่งยังไงก็ทำตามอย่างนั้น โดยย้ำว่าคำสั่งดังกล่าวเป็นเรื่องการบริหารความขัดแย้งเพื่อให้การสอบสวนเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมรวมทั้งหมด เพื่อดูในภาพรวม ตนก็ยังเป็น ผบ.ตร.อยู่แต่ไปช่วยราชการเฉยๆ และยืนยันว่าในหนังสือคำสั่งไม่มีการระบุถึงความขัดแย้งจนนำไปสู่การย้าย ไม่เกี่ยวเลย” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าว
ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามในคำสั่งให้ตนเอง และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ไปปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรีเป็นเวลา 60 วันนั้น ได้รับทราบคำสั่งดังกล่าวแล้ว และคาดว่าเป็นเรื่องจริง เนื่องจากเห็นกระแสข่าวจากหลายแห่ง และทราบว่าโฆษกรัฐบาลได้แถลงข่าวถึงเรื่องดังกล่าวแล้ว
อย่างไรก็ตาม ยังไม่เห็นเนื้อหาว่าให้ไปปฏิบัติหน้าที่อะไร แต่ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาเมื่อผู้บังคับบัญชามีคำสั่งมาก็พร้อมปฏิบัติหน้าที่ และหากหนังสือคำสั่งดังกล่าวมีผลทันที วันนี้ตนเองและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็ไม่สามารถเข้าร่วมประชุมกับนายกรัฐมนตรีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ เนื่องจากถือว่าต้องไปช่วยราชการแล้ว
รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ส่วนมูลเหตุคำสั่งย้ายทั้ง 2 คนนั้น ยังไม่ทราบว่าด้วยเหตุผลใด ต้องดูรายละเอียดอีกครั้ง แต่จะเกิดจากความขัดแย้งระหว่างตนเองกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือไม่นั้นก็ไม่ยืนยัน เนื่องจากการประชุมร่วมกันระหว่างนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และตนเอง เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาก็ไม่เห็นสัญญาณบ่งชี้ใดๆ นายกรัฐมนตรีกำชับเพียงเรื่องการทำงานอย่างเดียว ขณะที่การพูดคุยกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เมื่อคืนวานนี้ (19 มี.ค.) ก็เป็นไปโดยปกติ ส่วนการสั่งย้ายคู่จะเป็นการมองว่าเป็นคู่ขัดแย้งหรือไม่นั้น วันนี้ผู้บัญชาการแห่งชาติก็ได้แถลงแล้ว และตั้งแต่มีคำสั่งมาก็ยังไม่ได้คุยกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพราะประชุมมาโดยตลอด
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวยอมรับว่า ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ได้รับคำสั่งให้ไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี แต่จะได้กลับมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อีกหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา พร้อมยืนยันว่าการไปทำงานที่จังหวัดเชียงใหม่ไม่ล้มเหลว เพราะตนเองไปทำงาน และงานก็สำเร็จเรียบร้อยด้วยดี และยืนยันอีกว่าไม่รู้สึกโดดเดี่ยว เพราะตนเองเคยไปมาแล้ว และแม้ว่าอยู่ที่ไหนตัวเองก็ต้องตั้งใจทำงาน ผมไม่กังวลใจ ไม่เป็นไร พร้อมทุกสถานการณ์
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘บิ๊กต่าย’ คือใคร? หลัง ‘นายกรัฐมนตรี’ สั่งนั่งรักษาการ ‘ผบ.ตร.’
- ‘บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก’ ควงคู่แถลงสยบรอยร้าว หลัง ‘นายกรัฐมนตรี ‘สั่งจบปัญหาเด็ดขาด!
- ‘นายกฯ’ ขอบคุณ ‘King Power’ ช่วยต่อยอด-ยกระดับสินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่นไทย
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- Twitter: https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg