POLITICS-GENERAL

คุก ‘จตุพร’ 1 ปี 12 เดือน นำม็อบบุกบ้านสี่เสาปี 50

ศาลอาญาพิพากษาจำคุก “จตุพร” 1 ปี 12 เดือน นำม็อบบุกบ้านสี่เสาปี 50 เจ้าตัวยื่นประกันชั้นอุทธรณ์หลักทรัพย์ 2 เเสน 

ที่ห้องพิจารณา 913 ที่ศาลอาญา ศาลนัดพร้อมคดีชุมนุมปิดล้อมบ้านสี่เสาเทเวศร์ ที่พัก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี (สำนวนที่ 2) คดีหมายเลขดำที่ อ.2799/2557 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และนายศราวุธ หลงเส็ง ผู้ชุมนุม นปช. เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ และต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138 วรรคสอง, 215 และ 216 กรณีเมื่อวันที่ 22 ก.ค.2550 แกนนำและแนวร่วม นปช. นำขบวนผู้ชุมนุมหลายพันคนจากเวทีปราศรัยเคลื่อนที่สนามหลวง ไปยังบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม เพื่อเรียกร้องกดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง โดยมีการใช้อิฐตัวหนอนกระถางต้นไม้ ไม้เสาธง และมีดดาบเป็นอาวุธ ในการประทุษร้าย ต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานตำรวจ

คุก

สำหรับสำนวนคดีที่ 2 นี้ อัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2557 ภายหลังจากนายจตุพรซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) พ้นสมัยประชุมสภา ซึ่งคดีนี้เบื้องต้นนายจตุพร จำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี แต่ระหว่างการพิจารณานายจตุพร ขอกลับคำให้การเดิมเป็นรับสารภาพ ส่วนนายศราวุธ จำเลยที่ 2 ให้การปฏิเสธมาโดยตลอด

ในช่วงเช้าวันนี้ นายจตุพรและนายศราวุธ จำเลยทั้งสองพร้อมทนายความ เดินทางมาฟังคำพิพากษา ขณะที่มีผู้ติดตามจำนวนหนึ่งมาให้กำลังใจ

ทั้งนี้ก่อนเข้าฟังคำพิพากษา นายจตุพร กล่าวว่า ไม่มกังวล เพราะยังไงก็จำคุกอยู่แล้ว ในสำนวนแรกสารภาพในชั้นฎีกาซึ่งทำไม่ได้ และได้เคยโทรศัพท์ขอกราบอโหสิกรรมกับ พล.อ.เปรมตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ นี่คือโลกแห่งความเป็นเป็นจริงมนุษย์เรามีทั้งเรื่องที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เพราะฉะนั้นคดีนี้จำเลยเหลือ 7 คน แต่ว่าคดีขาดอายุความไป 5 เหลืออยู่ 2 คน รอคดีแรกให้ยุติ ถึงจะพิจารณาสำนวน 2 ไม่สู้คดีอยู่แล้ว ยอมรับความจริง น้อมรับคำพิพากษาของศาล และก็จะยื่นอุทธรณ์และใช้หลักทรัพย์เดิม 300,000 บาท

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์และจำเลย แล้วเห็นว่า ในส่วนของนายจตุพร จำเลยที่ 1 รับฟังข้อเท็จจริงโดยปราศจากข้อสงสัยว่ากระทำผิดตามฟ้องจริง ฐานเป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำผิดฯ ตามมาตรา 138 วรรคสองมาตรา 86 มาตรา 215 วรรคแรก และมาตรา 216 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรม ฐานมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อควาวุ่นวายในบ้านเมืองฯ จำคุก 3 ปี ฐานเป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำผิดต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน จำคุก 1 ปี

นายจตุพรให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี 6 เดือน และจำคุก 6 เดือนตามลำดับ รวมจำคุกนายจตุพร จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 1 ปี 12 เดือน ส่วนนายศราวุธ จำเลย 2 นั้น ไม่ปรากฎว่าโจทก์มีประจักษ์พยานมาเบิกความยืนยันว่า จำเลยที่ 2 ขับรถกระบะพุ่งชนเจ้าหน้าที่ตำรวจและแผงเหล็กกั้น มีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเบิกความว่า ไม่สามารถจดจำใบหน้าผู้กระทำผิดได้ พยานหลักฐานโจทก์จึงไม่มีน้ำหนักให้รับฟังได้ว่า จำเลยที่ 2 กระทำผิดตามฟ้อง พิพากษายกฟ้อง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo