หมอริท ชี้ โตโน่ ได้เงินบริจาคมากแค่ไหน หมอ-พยาบาล ก็เหนื่อยเท่าเดิม พร้อมร่ายยาวยกตัวอย่างถึงอาชีพของ หมอ-พยาบาล
ภารกิจเสร็จสิ้นลุล่วงไปได้อย่างดี ท่ามกลางกำลังใจมากมาย สำหรับนักร้อง-พระเอกหนุ่ม โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ หลังจากที่ว่ายน้ำข้ามฝั่งไทยด้วยระยะทางกว่า 15 กิโลเมตร ที่จุดองค์พญาศรีสัตตนาคราช เขตเทศบาลเมืองนครพนม ไปกลับระหว่าง วัดพระธาตุศรีโคตรบอง แขวงคำม่วน สปป.ลาว และว่ายกลับถึงฝั่งไทยอย่างสวัสดิภาพ กับยอดบริจาคที่พุ่งสูงหลักหลายสิบล้าน แต่ทว่าถึงภารกิจเสร็จสิ้นลงไปแล้ว ก็ยังคงมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตามมาอยู่
- เฮลั่นโขง! โตโน่ ทำสำเร็จ ยอดบริจาคพุ่ง 57 ล้านบาท ล่าสุด ว่ายน้ำกลับถึงฝั่งไทยแล้ว
- แห่โฟกัส นางรำชุดม่วง บวงสรวง โตโน่ ว่ายน้ำโขง สาวนครพนมแท้ ดีกรีนางเอกช่อง 7
- ถอดภาษากาย โตโน่ มองเฉียง เม้มริมฝีปาก ยกมือเช็ดจมูก สะท้อนความรู้สึกบางอย่าง?
หมอริท ฝากถึง โตโน่ เงินบริจาคมากแค่ไหน หมอ-พยาบาล ก็เหนื่อยเท่าเดิม
ล่าสุด (22 ต.ค.) หมอริท-เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช ได้ออกมาโพสต์ยินดีกับโตโน่ ผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว @MhorRitz พร้อมกับสะท้อนอีกแง่มุมว่า “ยินดีด้วยกับการ #ว่ายน้ำข้ามโขง ของพี่ #โตโน่ภาคิน ในวันนี้นะครับ ที่ปลอดภัย และได้รับเงินบริจาคจำนวนมาก อย่างแรกต้องขอขอบคุณในน้ำใจและความเสียสละของพี่ที่มีต่อบุคลากรทางการแพทย์ คนที่พร้อมจะเสียสละเพื่อคนอื่นแบบพี่ ไม่ได้หาได้ง่ายเลย นับถือใจจริง ๆ
ในบทสัมภาษณ์มีหลายครั้งที่พี่พูดว่า ที่พี่มาว่ายน้ำครั้งนี้ เพราะหมอและพยาบาลเค้าเหนื่อยกว่า เสี่ยงกว่า เลยอยากขออนุญาตฝากมุมมองไว้ซักนิดครับ เผื่อพี่อาจจะลืมมองเหตุผลพวกนี้นะครับ (ไหน ๆ คนก็สนใจโครงการพี่เยอะแล้ว) 1. ต่อให้พี่ว่ายน้ำข้ามโขงเป็น 10 รอบ ได้เงินบริจาคมากว่า 1000 ล้าน หมอ พยาบาล เค้าก็เหนื่อยเท่าเดิมครับ
ขอยกตัวอย่างในฝั่งของหมอนะครับ ระบบสุขภาพของประเทศไทยคือ ระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า แปลว่า คนไทยจะป่วยยังไง ก็มีการรักษารองรับ (ซึ่งจริง ๆดีกับคนไทยในบางมุมนะ เช่น คนจนมีสิทธิ์เข้าถึงการรักษา แต่ข้อเสียก็คือ คนไทยไม่ใส่ใจสุขภาพ เกิดปัญหา เช่น ติดเหล้า ติดบุหรี่ และเกิดปัญหาสุขภาพตามมา ทำให้คนต้องมาโรงพยาบาลกันเยอะ) ซึ่งทำให้หมอต้องทำงานหนัก แต่ยังได้ค่าตอบแทนเท่าเดิม
ซึ่งทุกวันนี้หมอไทยยังต้องทำงานเกินเวลาตามระเบียบกำหนด ทำให้เกิดภาวะสมองไหล หมอ ๆ ก็ออกนอกระบบโรงพยาบาลรัฐกันหมด หมอก็น้อยลง งานก็ยังหนัก ผลิตหมอเท่าไหร่ก็ไม่พอ ก็วนลูปแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ครับ ถึงบอกว่าเงินบริจาคเยอะแค่ไหน ก็ไม่ได้ช่วยให้หมอหายเหนื่อยครับ
2. พี่บอกว่าหมอพยาบาลเสี่ยง คำถามคือ แล้วใครปล่อยให้หมอพยาบาลทำงานภายใต้ความเสี่ยง? ถ้ารู้ว่าเค้าทำงานแบบเสี่ยงอยู่ ทำไมผู้มีอำนาจโดยตรงถึงมองไม่เห็นและไม่สามารถจัดการปัญหานั้นโดยเร่งด่วนได้ หรืองบประมาณไม่เพียงพอ แล้วถ้างบไม่พอจริง ๆ ทำไมไม่รายงานขึ้นไป ทำไมต้องรอเงินบริจาค?
ส่วนตัวมองว่า การบริจาคไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดีนะครับ แต่ที่มา หลักการ จุดประสงค์ของโครงการและการนำเงินไปใช้ต้องชัดเจน รวมถึงควรสนับสนุนการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุไปในตัวด้วยครับ ถ้าพี่สื่อสารจุดนี้ได้ด้วย คิดว่าคนไม่เห็นด้วยน่าจะน้อยลงนะครับ และทำให้โครงการของพี่ดูมีเหตุสมควรมากขึ้น
ขอบคุณ : @MhorRitz
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- งานไม่ใหญ่แน่นะวิ คืออะไร? ต้นฉบับมาจากไหน ตรงนี้มีคำตอบให้แล้ว
- เจสัน ยัง สุดภูมิใจ ล่าสุดได้เลื่อนขั้นแล้ว เผยสังกัดที่ไหน-ตำแหน่งอะไร
- อื้อหือ! จียอน พูดเอง ความแซ่บของ ฮั่น งานนี้เด็ดเกินคะแนนเต็ม