ปันปัน เต็มฟ้า เสียใจไม่ได้อยู่กับพ่อ ปุ๊ กรุงเกษม ช่วงลมหายใจสุดท้ายของชีวิต เผยที่ผ่านมาพยายามเข้มแข็งให้ท่านมั่นใจว่าดูแลตัวเองได้ เชื่อได้ไปเจอแม่ แหวน ฐิติมา บนสวรรค์แล้ว
หลังจากที่ ปันปัน-เต็มฟ้า กฤษณายุธ ลูกสาวของ แหวน-ฐิติมา สุตสุนทร นักร้องดังผู้ล่วงลับ ได้โพสต์แจ้งข่าวเศร้าสูญเสีย คุณพ่อบรรเจิด กฤษณายุธ หรือที่คนในวงการบันเทิงและวงการนักเขียนรู้จักกันในนาม ปุ๊ กรุงเกษม ไปอย่างกะทันหัน ท่ามกลางความเสียใจของคนใกล้ชิดทั้งคนในวงการและนอกวงการที่ทราบข่าว
ปันปัน เต็มฟ้า เสียใจพ่อด่วนจากไปก่อนวันเกิด เชื่อได้ไปเจอแม่ แหวน ฐิติมา บนสวรรค์แล้ว
โดยวานนี้ (6 พ.ค.) ปันปัน ได้เคลื่อนร่างคุณพ่อมาบำเพ็ญกุศล ณ วัดธาตุทอง พระอารามหลวง เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ก่อนให้สัมภาษณ์เปิดใจกับสื่อมวลชนถึงสาเหตุการเสียชีวิตของคุณพ่อ โดยว่า
“คุณพ่อมีอาการของโรคหัวใจเป็นพื้นอยู่แล้ว เคยทำบอลลูนไป 2 รอบ คุณพ่ออายุ 79 ปีแล้ว เลยเริ่มมีอาการอื่น ๆ เข้ามา เช่น เดินยาก อ่อนเพลีย หลาย ๆ อย่างค่ะ เมื่อวานคุณพ่อไปค่อนข้างไว อยู่ที่บ้านที่หัวหิน ก็ดูแลกันตามปกติ ตอนนั้นเรายังทำงานอยู่ที่ กรุงเทพฯ คุณพ่อบอกอยากจะไปทานอาหาร ก็เลยให้คนดูแลไปเอาอาหารมาให้ หลังจากนั้นก็เป็นอาการช็อก แต่อยู่บนเตียงนะคะ ไม่ได้ล้มอะไร เหมือนวูบไปเลย บนเตียง น้ำตาไหล เป็นอาการช็อก เรียกรถพยาบาลมารับ ก็ให้ออกซิเจน พอถึงโรงพยาบาลก็ปั้มหัวใจ ประมาณ 40 นาที”
“ปันมาทราบตอนที่พ่อขึ้นรถไปแล้ว ก็รออัปเดตอยู่ ระหว่างนั้นปันก็เตรียมตัวจะไปหัวหิน เพราะรู้ว่าอาการเริ่มไม่ดีแล้ว ก่อนหน้านี้เหมือนคุณพ่อมีอาการท้องเสีย ซึ่งมันก็เป็นสัญญาณไม่ค่อยดีเท่าไหร่ กับคนสูงอายุแล้วท้องเสียหนัก”
“ก่อนหน้านี้สุขภาพก็จะไม่เต็มร้อยอยู่แล้ว เพราะคุณพ่ออายุค่อนข้างมาก เดินค่อนข้างช้า ต้องมีไม้ช่วย พอมาเป็นอย่างนี้คุณหมอก็เลยวินิจฉัยว่าเป็นเพราะโรคเดิม คือโรคหัวใจ ที่ผ่านมาคุณพ่อก็พยายามที่จะออกกำลังกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์ พอมันเป็นในระยะเวลาที่ค่อนข้างนาน อายุมากแล้ว มันก็เลยอาจจะล้มเหลวข้างในด้วย”
“ปันเจอพ่อล่าสุด เมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ปันยังเอาข้าวแช่ไปทานด้วยกันอยู่เลย ท่านมาอยู่หัวหินได้ประมาณ 2 ปีแล้ว เราสร้างบ้านไว้ที่หัวหิน มีคนรู้จักอยู่ด้วย มันก็บรรยากาศดีกว่า เสี่ยงต่อโควิดน้อยกว่า ก็คุยกับคุณพ่อว่าที่หัวหินน่าจะสบายใจกว่า เพราะท่านก็เกษียณแล้ว ส่วนโรคหัวใจคุณพ่อรักษามาเป็นสิบปีแล้วค่ะ ตั้งแต่ปันยังเด็กเลย มีทำบอลลูน 2 รอบ แต่ไม่ได้บายพาสอะไรเพราะกลัวการผ่าตัดใหญ่ ที่ผ่านมาปันก็ไป ๆ มา ๆ เยี่ยมท่าน คนเห็นว่าปันไปหัวหินบ่อย จริง ๆ ก็คือไปเยี่ยมคุณพ่อเป็นหลักเลย”
“ต้องยอมรับว่ามีเตรียมใจไว้ เพราะคุณพ่ออายุมากแล้ว ก่อนหน้านี้เห็นท่านค่อนข้างที่จะอ่อนแรงมาตลอด เลยรู้สึกว่ามันต้องมีสักวันแหละที่วันนี้มันจะเกิดขึ้น แต่พอมันเกิดขึ้นจริง ๆ ก็เสียใจนะคะ พอเราทำงานยุ่งเราก็จะรู้สึกผิด ว่าเราน่าจะให้เวลามากกว่านี้ จริง ๆ แล้วช่วงที่ผ่านมาเราก็ทำเต็มที่เท่าที่เราจะทำได้ที่สุดแล้วในการบริหารอะไรต่าง ๆ”
“ก็มีความรู้สึกเสียใจตรงนั้นด้วย เพราะวันที่ 27 พฤษภาคม นี้ เป็นวันเกิดของคุณพ่อด้วย ตอนแรกแพลนกันอยู่เลยว่าจะไปหาแล้วก็ฉลองเบิร์ธเดย์กัน เพราะทุกเทศกาลถึงแม้คุณพ่อจะอยู่หัวหิน แต่เราก็พยายามจะไปฉลองด้วยกันให้ครบทุกเทศกาล อีกแป๊บเดียวก็จะถึงวันเกิดคุณพ่อแล้ว ก็เลยรู้สึกเสียใจตรงนี้ด้วย”
“ก่อนหน้านี้ก็ได้มีการให้ความมั่นใจคุณพ่ออยู่เรื่อย ๆ ว่าเราดูแลตัวเองได้ เราตั้งใจทำงานทุกอย่าง ทำโปรเจกต์อะไรก็มีการอัปเดตให้คุณพ่อรู้ตลอด คุณพ่อน่าจะไว้วางใจเราแล้วแหละว่า เราโอเค เราเข้มแข็ง ดูแลตัวเองได้ดี ในการลาเราก็บอกคุณพ่อไว้ตลอดให้ความมั่นใจว่าคุณพ่อไม่ต้องห่วง เราเข้มแข็ง สามารถไปต่อได้”
“คุณพ่อน่าจะเป็นห่วงเรื่องการใช้ชีวิตโดยรวม ถึงแม้เราอยู่ในวัยทำงานแต่คุณพ่อก็ยังมองเราเป็นเด็กอยู่ เวลามีอะไร เห็นเราเครียดเรื่องงานอะไรไปนิดนึงคุณพ่อก็จะเตือนแล้วว่า take it easy นะ อย่าไปเครียดกับมันมาก แต่เราก็อยากจะเร่งตัวเองด้วย อยากจะตั้งใจทำงานให้เราเก่งเร็ว ๆ เราคิดว่าเราอยากจะสตรองขึ้นมาให้ได้ เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าวันนี้มันต้องมาถึง”
“ก็บอกคุณพ่อว่าอยากให้คุณพ่อไปเจอกับคุณแม่ข้างบน อยากให้คุณพ่อมีความสุขเสียที ไม่ต้องมารู้สึกว่าตัวเองอ่อนเพลีย ได้อยู่สบาย ๆ แข็งแรงข้างบนกับคุณแม่ ความจริงกับคุณแม่คิดถึงทุกวันอยู่แล้ว ไม่มีวันไหนเลยที่รู้สึกไม่คิดถึงคุณแม่ ก็รู้สึกว่าคุณพ่อกับคุณแม่แต่งงานกันก่อนปันจะเกิด 12 ปี ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่พวกเขาจะได้กลับไปอยู่ด้วยกันแล้วสองคน เลยอยากจะให้ท่านได้เจอกันจริง ๆ และมีความสุข”
“หลังจากนี้เราก็ทำงานต่อไป อาจจะมีงานประจำด้วย แล้วก็มีโปรเจกต์ธุรกิจของตัวเอง เป็นธุรกิจเสื้อผ้า พยายามที่จะบาลานซ์ตัวเองไม่ให้เหนื่อยจนเกินไป มีเวลาทั้งทำงาน มีเวลาให้ตัวเอง มีเวลาให้เพื่อนด้วย ครอบครัวด้วย ถ้าสมมติงานเริ่มโอเคอีก 2-3 ปี ก็อาจจะเรียนปริญญาโท ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้ไป แต่ก็เป็นความคิดของเราเหมือนกัน (หลังจากนี้ตั้งใจจะทำอะไรเพื่อคุณพ่อบ้าง?) น่าจะเป็นการทำบุญให้ตลอด ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ก็จะทำร่วมกัน”
ขอบคุณคลิปจาก NineEntertain Official
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘นารา เครปกะเทย’ เคลียร์ครหา มอบ 1 แสน ให้สมาคมคนพิการฯ ยันไม่มีเจตนาบูลลี่
- ชีวิตล่าสุด ธีร์ ภูมิธนะวัชร์ หวนคืนวงการ หลังเคยป่วยหนัก ร่างกายซูบผอมเหลือแต่กระดูก
- ช็อก! อ้างข่าวกรอง ‘อัจฉริยะ’ โดนทีมสังหารล่าตัว หลังเปิดโปงมีคน ‘ขโมยศพแตงโม’