จับตาคดีพ่อ “ไวท์ ณวัชร์” ทนายความค่อนข้างมั่นใจมากว่าจะเป็นฝ่ายชนะ เพราะพยานและหลักฐานที่อยู่ในมือ โดยเฉพาะพยานบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์
จากกรณีนักแสดงหนุ่มชื่อดัง “ไวท์-ณวัชร์ พุ่มโพธิงาม” ได้ออกมาโพสต์อินสตาแกรม @ww.nawat เล่าเหตุการณ์ของคุณพ่อและคุณแม่ระหว่างขับรถกลับจากไปทำธุระ อยู่ ๆ ก็ถูกรถยนต์คันหนึ่งขับปาดหน้าและไล่กันมากับรถของพ่อ กระทั่งเกิดการชนท้ายและมีปากเสียงกัน จากนั้นคุณแม่ก็ถูกคู่กรณีทำร้ายร่างกาย และโยนทรัพย์สินลงสะพาน ซึ่งทางครอบครัวของไวท์ พร้อมด้วยทนายความ ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บางกรวย ยืนยันดำเนินคดีกับคู่กรณีให้ถึงที่สุด
จับตาคดีพ่อ “ไวท์ ณวัชร์” ไปถึงไหนแล้ว ทนายมั่นใจฝั่งไหนชนะ?!
ล่าสุด ทนายความของครอบครัวหนุ่มไวท์ ได้ออกมาเผยความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องคดีความว่า “เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 จำเลย จำเป็นต้องมาศาล ซึ่งเขาได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและขอสู้คดี หลังจากที่ทางอัยการยื่นฟ้องไป 3 ข้อหาคือ ขับรถประมาทหวาดเสียว ทำร้ายร่างกาย และทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งวันนี้ฝ่ายคู่กรณียังไม่มีการยื่นเอกสารว่าเป็นผู้ป่วยจิตเวช คาดว่าอาจจะยื่นในนัดหน้า ซึ่งในนัดนั้นจะได้รู้แนวทางการต่อสู้คดีของอีกฝ่ายว่าจะงัดข้อไหนมาต่อสู้บ้าง”
“นัดหน้าคือนัดตรวจพยานหลักฐาน วันที่ 29 มีนาคม 2565 เวลา 9.00 น. ซึ่งจำเลยต้องมาแต่โจทก์ไม่มาก็ได้ นอกจากนี้ในวันที่ 16 มกราคม 2565 ทางคุณพ่อของไวท์ ต้องเข้ารายงานตัวกับอัยการ ในกรณีที่ฝ่ายคู่กรณีร้องทุกข์กล่าวโทษ ในข้อหาทำร้ายร่างกาย แต่อัยการยังไม่มีคำสั่งฟ้อง โดยทางตนมีแนวทางต่อสู้คดีอยู่แล้ว เพราะทุกอย่างมันชัดเจนมาก”
“ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายได้เผชิญหน้ากันอีกครั้ง ไม่ได้ทักทาย และไม่ได้ปฏิสัมพันธ์อะไรต่อกันเลย ที่สำคัญยังไม่มีการขอโทษ หรือขอไกล่เกลี่ย ไม่น่าเชื่อว่าเขายังคิดอยู่ว่าไม่ได้กระทำความผิด แต่อย่างไรก็ตามแนวทางการต่อสู้คดีก็ค่อนข้างมั่นใจมากว่าจะเป็นฝ่ายชนะ เพราะพยานและหลักฐานที่อยู่ในมือ โดยเฉพาะพยานบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ เรียกว่าเป็นประจักต์พยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุที่เข้ามาให้การด้วย อีกทั้งทุกคนที่ปรากฏอยู่ในคลิปวิดีโอก็เข้ามาให้การกับพนักงานสอบสวนทุกคน”
“ส่วนของโทษทั้ง 3 ข้อหาที่ฟ้องไป มีโทษจำคุกทุกข้อหา แต่ถึงแม้อีกฝ่ายจะมีคดีเดิมลักษณะเดียวกันติดตัวมาก่อน แต่หากเขายังไม่เคยต้องโทษจำคุกอยู่ในเรือนจำ ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าศาลอาจตัดสินจำคุกแบบรอลงอาญา แต่ถ้าต่อสู้คดีจนถึงที่สุดแล้วแพ้ ทางศาลอาจจะตัดสินจำคุกแบบไม่รอลงอาญาได้ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลอยู่ที่ดุลยพินิจของศาลว่าจะตัดสินแบบใด”
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘จิ๊ก เนาวรัตน์’ เล่านาทีแต่งหน้า ‘ต้อย เศรษฐา’ เผยยังไม่ทิ้งอารมณ์ขันในวาระสุดท้าย
- ‘แทค ภรัณยู’ ขึ้นเขียงฝังมุก บอก 3 เม็ดสวย ๆ แฟนคลับแห่ถล่มคอมเมนท์ ขอดูรีวิวรัว ๆ
- ลูกสาว ‘สรพงศ์’ เผยคำพูดสุดท้าย ‘ต้อย เศรษฐา’ หลังได้คุยกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว