นัดวันชี้แจง! หนุ่ม กรรชัย โดนร้องกสทช. ทำผิด พรบ.คุ้มครองเด็ก มาตรา 27 เหตุเปิดหน้าพ่อเลี้ยงขืนใจลูกวัย 11 ปี ยันเจตนาไม่ได้ช่วยในหน้าที่สื่อ แต่เป็นหน้าที่ของคน
ถ้าให้พูดถึงตัวพ่อทรงอิทธิพลแห่งวงการบันเทิงไทย เชื่อว่าต้องชื่อของ หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย ติดโผด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะไม่ว่าจะเป็นงานด้านไหนในวงการบันเทิง เจ้าตัวก็แทบจะผ่านบทบาทการทำงานมาแล้วทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นงานแสดง พิธีกรรายการต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งงานข่าว เจ้าตัวก็สามารถโชว์ศักยภาพทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดีจนกลายเป็นที่ยอมรับ แถมยังขึ้นแท่นเป็นขวัญใจชาวไทยทั้งประเทศไปแล้ว
นัดวันชี้แจง! หนุ่ม กรรชัย ยันทำเพราะผมเป็นคน หลังโดนร้องกสทช. เหตุเปิดหน้าพ่อเลี้ยง
แต่นอกจากเสียงชื่นชม แน่นอนว่าต้องมีอีกส่วนที่เห็นต่าง อย่างกรณีที่เพิ่งเกิดขึ้นแบบสด ๆ ร้อน ๆ ถึงขั้นมีการร้องไปยัง กสทช. ว่าเจ้าตัวทำผิด พรบ.คุ้มครองเด็ก มาตรา 27 หลังนำเสนอข่าวพ่อเลี้ยงขืนใจลูกวัย 11 ปี ซ้ำยังถูกกล่าวหาว่าหากินกับข่าวเด็กอีกด้วย ซึ่งล่าสุด (12 ม.ค.) หนุ่ม กรรชัย เปิดใจในรายการ แฉ ทางช่อง GMM25 โดยระบุว่า มีนักวิชาการท่านหนึ่งที่ได้ดูเทปวันนั้นร้องไปยัง กสทช. ว่าเปิดหน้าพ่อเลี้ยง เปิดหน้าย่า
ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเริ่มจาก มีครอบครัวหนึ่ง มาร้องขอความเป็นธรรมกับตน เหตุจากคุณย่าต้องการตามตัวหลานอายุ 11 ปีที่หายไป ซึ่งตนก็อึดอัดเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของเด็กด้วย ตนมีการปรึกษากับทางอัยการ เจ้าหน้าที่ แล้วเขาบอกว่าเรื่องแบบนี้ทำได้เพราะคือเหตุเร่งด่วน เด็กอยู่ในอันตรายขั้นสูง พ่อเลี้ยงพาหนีไปต้องตามหา และหลังจากที่เจอตัวเด็ก ตนก็ได้ลบคลิปรายการในวันนั้นออกจากแพลตฟอร์มโซเชียลทั้งหมด
บางคนจะมองว่ากระทำของตนเองนั้นไม่ใช่หน้าที่สื่อ แต่ตนไม่ได้ช่วยในหน้าที่ของสื่อ แต่การช่วยเด็กครั้งนี้ ถือว่าช่วยในหน้าที่ของคน ถือว่าตนเป็นคน ตนต้องช่วย ดูที่เจตนาดีกว่าไหม นอนกอดกฎหมาย สุดท้ายหาเด็กเจอไหม บอกเป็นหน้าที่ตำรวจ ทุกวันนี้บางเรื่องตำรวจขยับหรือเปล่า บางทีต้องร้องสื่อ ให้สื่อช่วยกดดัน
อยากให้เข้าใจบริบทของตนด้วย แต่เมื่อคุณไปร้องแล้ว ตนก็ยินดีทำตามข้อกฎหมาย และชี้แจงว่าเรื่องอะไรเกิดขึ้น และทางกสทช. มีการนัดวันเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวจะเข้าไปชี้แจงเท่านั้นเอง แต่ที่วันนี้อยากมาชี้แจง เผื่อมีใครรู้จักอาจารย์ที่ร้องก็ฝากบอกท่านด้วย ไม่รู้ท่านได้ดูเรื่องราวที่เกิดขึ้นหรือเปล่า หรือเห็นจากไหนเลยไปร้อง ตนไปดูเฟซบุ๊กอาจารย์คนด่าเต็มเลย บางคนบอกให้ลากตนเข้าคุก มันเป็นนักธุรกิจในคราบสื่อ พูดเหมือนตนเป็นโจร
ยืนยันตนไม่จำเป็นต้องหาผลประโยชน์กับเด็ก ถ้าเอาเรื่องนี้มาออกแล้วรายการตนจะดังขึ้นมามากกว่านั้นใช่ไหม หรือยังไง มันก็ไม่ใช่ไง ในเมื่อเขาร้อง ก็ยินดีไม่ว่ากัน มันคือการทำหน้าที่ของการเป็นคนคนนึงที่ใช้โอกาสที่ได้รับในทางที่ควร แต่บางทีเจอคนโพสต์เฟซบุ๊ก ลงรูปปืนบอกเจอกู คือมีคนส่งมาให้ดู ตนก็ไม่ได้ไปร้อง หรือไปตีโพยตีพาย เรื่องบางเรื่องก็เข้าใจว่ามีทั้งคนได้และเสียผลประโยชน์ ยังไงก็ต้องมีคนเห็นต่างอยู่แล้ว
อย่างกรณีที่เอาตำรวจไปจับคนในรายการ ตนไม่ได้เป็นคนให้ตำรวจมาจับ แต่ตำรวจออกหมายจับมาแล้ว แล้วมีตำรวจมาถึงที่ ทีมงานก็ถามว่าเอายังไง ก็เลยให้ตำรวจมารอก่อน แล้วก็เป็นไปตามนั้น ตนไม่ได้เรียกตำรวจมาจับ ไม่งั้นรายการจะเป็นยังไง ถ้าให้ตำรวจมาล็อกกลางรายการ วันนั้นคาดว่าทางทนายกับผู้เสียหายน่าจะเป็นคนเรียกตำรวจ เพราะมีหมายจับ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เปิดใจ ‘ป๋าเทพ’ แจงไลฟ์เรื่องของแพง ชี้ส่วนตัวก็ได้รับผลกระทบ วอนนายกฯ ช่วยดูแลหน่อย
- ‘หม่ำ จ๊กมก’ ตอบอย่างฮา! หลังนั่งแท่นผู้บริหารเวิร์คพอยท์ คนสงสัยเป็นได้ไง?
- อย่าคิดไปไกล! ‘ดาด้า’ เบรกแทบไม่ทัน ลูกชายเมาท์มุมสวีทหลังแต่ง ว่าด้วยเรื่องทับตัวกัน
