Entertainment

ลูก ๆ เปิดใจสูญเสีย เมฆ วินัย ภรรยาเคลียร์ ขายสมบัติจนหมดตัว ใช้เงินรักษาเกือบ 30 ล้าน

เอ๋ อรชัญญาช์ ภรรยา เมฆ วินัย ควงลูก ๆ เปิดใจที่แรก! หลังสูญเสียสามี เคลียร์ขายสมบัติหมดตัวเกือบ 30 ล้าน! 

เปิดใจครั้งแรก เอ๋ อรชัญญาช์ ภรรยา เมฆ วินัย วันนี้ควง น้องมาร์ค-น้องแมม-น้องเมิร์ช เปิดใจหลังสูญเสียเสาหลักของครอบครัวจากไปไม่มีวันกลับ พร้อมเล่าวิญญาณพี่เมฆมาหาหลังจากไปได้ 2 วัน หมดเงินค่ารักษาสามีไปเกือบ 30 ล้านบาท เดินหน้าเคลียร์หนี้สินสามีเกือบ 10 ล้านบาทให้หมดภายในสิ้นปีนี้ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ช่องOne31 ที่มี บูม สุภาพรและ หนิง ปณิตา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

13 ภรรยาลูก ๆ เปิดใจสูญเสีย เมฆ วินัย 2
เปิดใจหลังสูญเสียเสาหลัก เมฆ วินัย

วันนี้ดีกว่าเมื่อวานมั้ย ?

เอ๋ : ต้องดีกว่าเมื่อวานอยู่แล้วค่ะ เพราะว่ามันย้อนเวลากลับไปไม่ได้ เราต้องอยู่กับปัจจุบัน ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด เด็ก ๆ เขาก็เรียนรู้กับทุก ๆ เหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต เชื่อว่าลูกเอ๋ทุกคนจะผ่านไปได้และเรียนรู้กับมัน

ญาติเล่าให้ฟังว่าทุกคลิป เอ๋จะร้องไห้หนักมาก พอเอ๋แอบเห็นน้อง ๆ แอบร้องไห้ ก็จะบอกว่าเราอ่อนแอไม่ได้แล้ว ?

เอ๋ : จริง ๆ ไม่มีใครทำใจได้ เพราะมันปุบปับ พอเราเสียใจมันก็ดิ่ง เราก็โฟกัสแต่ความเสียใจ โฟกัสแต่ความสูญเสีย ร้องไห้ฟูมฟายของเราคนเดียว โดยเราไม่รู้ว่าความรู้สึกลูก ๆ ก็ดิ่งเหมือนกัน แต่คนรอบตัวมาบอก อย่างน้องพี่เมฆที่อยู่กระบี่ เขาเห็นอาการของหลาน เขาบอกว่าโฟกัสลูกหน่อย ลูกไม่กินข้าวเลย ต่อหน้าเจ๊ไม่ร้อง แต่เขาแอบไปร้องตลอดเวลา ทั้งคู่เลย ข้าวไม่ทาน เรารู้ว่าเขาเสียใจแต่เขาเข้มแข็งต่อหน้าเรา ทุกวันเวลาที่ผ่านมาเราอยู่ด้วยความอดทน เข้มแข็ง สำคัญคือพี่เมฆทำให้เห็นว่ามันต้องเข้มแข็งแค่ไหน มันถึงจะผ่านไปได้ สุดท้ายพอกลับมาโฟกัสว่าลูกเราเริ่มมีความเปลี่ยนไป มีความเศร้า เราก็ต้องมาสะกดจิตตัวเองว่ามึงอย่าร้องนะ อย่าเสียใจต่อหน้าลูกนะ บ้านพังแน่ๆ พอเราโฟกัสที่ลูก ความเสียใจเลยจางลง มีแค่ความคิดถึง

ทำไมเราถึงไปร้องไห้ ?

น้อมแมม : ไม่อยากให้แม่ร้องไห้

มาร์ค : คิดถึงป่ะป๊าวันแรกวันที่สอง พอถึงวันที่สามก็เลิกร้องไห้ ก็ทำใจ ไม่อยากให้แม่เครียด

น้องมาร์ค น้องแมม คิดถึงคุณพ่อมาก ?

เอ๋ : ช่วงแรกเปิดมือถือไม่ได้เลย เปิดมาก็เจอข่าวในนั้น แม้แต่มาร์ค พอวันแรกเพื่อนรู้ก็ทักมา เขาก็รับรู้ น้องแมมก็เหมือนกัน ทักอะไรมาก็รับรู้ ก็จะมีความรู้สึก เขาเคยใกล้ชิดกับพ่อ พี่เมฆเป็นพ่อที่ดีมาก ใกล้ชิดลูก

แม่ได้สอนยังไงเรื่องความเข้มแข็ง ?

มาร์ค : ตอนกลางคืน วันที่สองที่เรามานอนร้องไห้กัน หม่าม๊าบอกว่าป่ะป๊าไปแล้ว หนี้เราก็ต้องเคลียร์เพื่อให้ป่ะป๊าสบายใจ

แมม : ป่ะป๊าไม่อยากให้เศร้านาน ไม่อยากให้หม่าม๊าร้องไห้ พยายามไม่ร้องไห้ต่อหน้าหม่าม๊า

เอ๋ : เอ๋ไม่ได้ห้ามลูกร้องไห้นะ เอ๋บอกเสมอว่าถ้าอยากร้อง ร้องกับหม่าม๊าเลย แต่เมื่อไหร่ที่เราร้องจนพอแล้ว ก็ต้องก้าวต่อไป ไม่มีหรอกคนไม่เสียใจ เสียใจได้แต่อย่าเสียใจนาน และใช้ชีวิตให้ได้อย่างที่ป่ะป๊ามองอยู่ ลูกคนเล็กก็เข้าใจนะ วันเผาที่เอ๋ร้องไห้โฮ เขาบอกว่าป่ะป๊าไปแล้วเหรอ ไม่ต้องเสียใจนะ เมิร์ชจะดูแลเอง

13 ภรรยาลูก ๆ เปิดใจสูญเสีย เมฆ วินัย 4
เปิดใจหลังสูญเสียเสาหลัก เมฆ วินัย

เหตุการณ์วันที่เกิดความสูญเสีย พี่เมฆเข้าโรงพยาบาลกี่วัน ?

เอ๋ : พี่เมฆเข้าโรงพยาบาล 3 รอบ ย้อนกลับไปก่อนเสียชีวิต 3 สัปดาห์ เข้าไปเพราะว่าพี่เมฆเสียเลือดเยอะ ขาดเกลือแร่ ขาดน้ำ แต่วันที่เข้าไป เขาฝันว่ามีคนบอกให้ลอกผิวหนังออกให้หมด เขาถูไม่รู้ตัว ทั้งที่เขาหลับ พอตีหนึ่งเราไปดูเขา เขาลอกผิวตัวเองหมดเลยทั้งตัว แขนขาหมดเลย แล้วเลือดก็เต็มเตียงหมดเลย เราก็เรียกพยาบาลเข้ามา พยาบาลถามว่าเขาเจ็บมั้ย เขาบอกว่าไม่เจ็บ เขากลัวเราว่าเขา เขาบอกว่าเขาฝัน ไม่ตั้งใจ เขาบอกว่าให้เอาออกให้หมดหายแล้ว เขาก็เลยถู ๆ แล้วสายน้ำเกลือ สายเลือดหลุดหมดเลย พยาบาลก็เข้ามาทำแผล เราก็พาเขาไปอาบน้ำ แล้วก็รู้ว่าเขาไม่เจ็บจริง ๆ ตอนอาบน้ำเขาไม่ร้องอะไรเลย เขาเฉย ๆ เหมือนคนอาบน้ำปกติค่ะ

เหมือนเป็นอะไรบางอย่างมั้ย ?

เอ๋ : ตอนแรกก็ตกใจ แต่ไม่อยากคิดมากกว่า

ก่อนพี่เมฆเสีย คุณหมอขอเจาะคอด้วย ?

เอ๋ : เกิดจากเขามีอาการหายใจแล้วเริ่มติดขัด มีอาการชักเกร็ง พอชักเกร็ง มีอาการบ่อย ๆ คุณหมอบอกว่าจะมีปัญหาต่อการหมุนเวียนระบบเลือด พอระบบหายใจไม่ดีก็ส่งผลต่ออวัยวะข้างในหมดเลย ก็ขออนุญาตเจาะ เราก็ถามว่าเจาะแล้วฟื้นขึ้นมาจะเป็นยังไง เขาก็บอกว่ามันแค่ชั่วคราวเพื่อให้เขาหายใจได้เฉย ๆ เราเลยอนุญาตให้เจาะ เจาะตอนบ่าย เย็นเริ่มความดันตก หัวใจเต้นช้า

สาเหตุการเสียชีวิตคืออะไร ?

เอ๋ : น่าจะมาจากการติดเชื้อจากการที่เขาลอกผิวออกทั้งตัว แล้วเชื้ออาจเข้าไปตรงไหนไม่รู้ หรืออีกอย่างคือคนเราพอไม่มีหนังหุ้ม ความร้อนมันเก็บไม่ได้ นี่ก็เป็นความรู้ใหม่ เหมือนคนถูกไฟเผา เบิร์นทั้งตัว พอไม่มีหนัง เราเป็นสัตว์เลือดอุ่น อุณหภูมิในร่างกายต้องอุ่นเข้าไว้ พอไม่มีหนังอุณหภูมิก็เลยเย็น พี่เมฆอุณหภูมิในร่างกายอยู่ที่ 36 องศา ซึ่งเราก็ไม่รู้จุดไหนเพราะผิวลอกทั้งตัว

ไม่มีโอกาสคุยกับพี่เมฆ ?

เอ๋ : หลังวันที่ 18 ไปก็ไม่ได้คุยแล้ว เพราะเขาไม่มีสติแล้ว เขาเข้าไอซียูตั้งแต่วันที่ 18 แน่นอนก็กังวล แต่ลูกเราก็ยังต้องเรียนอยู่ เราต้องไปส่งลูกที่โรงเรียนทุกวัน ส่งลูกเสร็จก็แวะไปหาพี่เขาที่ไอซียู ตกเย็นก็ไปรับลูก มันเป็นลูปอย่างนี้ ทำให้เราไม่มีเวลากังวล คิดว่าเดี๋ยวก็ดีขึ้น

ตอนหมอโทรมาแจ้ง ?

เอ๋ : แจ้งหลายเวลามากค่ะ มีเอฟเฟกต์ทีก็เรียกเราไปคุย ตอนเรื่องหายใจก็เรียกไปคุยว่าจะเจาะ รอบสองก็เรียกไปคุยว่าความดันกับหัวใจเต้นอ่อน ตอนหลังเราก็ไปนั่งเฝ้าจนเขาไป

13 ภรรยาลูก ๆ เปิดใจสูญเสีย เมฆ วินัย 1

จัดการกับความรู้สึกอย่างไร ?

เอ๋ : ก็เผชิญกับมันเลย ใด ๆ ก็ตามเราก็ต้องเผชิญกับความเป็นจริง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องยอมรับสถานการณ์ก่อน และยอมรับให้ได้ว่าไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ ต่อให้ทำดีแค่ไหนก็ถูกนินทาอยู่ดี ต่อให้ทำถูกแค่ไหน คนจะมองว่าผิดก็ผิดอยู่ดี ทำใจดีกว่า เราจะได้สบายใจ

เสียพี่เมฆไปประมาณ 7 วัน เขามาหามั้ย ?

เอ๋ : เขาไม่ได้มาหาพี่ตรง ๆ เขาไปหาคนรอบตัว พี่สัมผัสเขาได้แค่คืนแรกที่จากไป พี่ก็ไม่รู้อุปทานหรือเปล่า แต่หลับตาก็ได้กลิ่น ลืมตากลิ่นก็หายไป แล้วทำให้ไม่ได้นอน พี่ไม่ได้นอนตั้งแต่เข้าไอซียู นอนไม่หลับ มันดึงร่างกายเรามากนะ พอคืนที่สองเราก็ได้ยินเสียงเขาบอกว่านอนกับลูกได้แล้ว คืนที่ลูกฟูมฟาย เราก็คุยกับลูก เราได้ยินเสียงเขาบอกว่าพาลูกนอนได้แล้ว เหมือนเสียงที่เขาเคยเตือนเวลาเราเครียด จากนั้นมาเราก็นอนหลับได้ทุกคืนโดยที่เราไม่เคยเจอเขา ไม่เคยได้กลิ่น ไม่เคยอะไรอีกเลย แต่คนรอบตัว อย่างพี่กวาง กมลชนก เขามางานศพ แล้วเล่าให้ฟังว่าเรื่องแปลกมาก มหัศจรรย์มาก วันที่พี่เมฆเสีย พี่เมฆเสีย 23.49 ประมาณเที่ยงคืนพี่กวางเขาดูมือถืออยู่ อยู่ ๆ รูปพี่กวางกับพี่เมฆ ที่ถ่ายละครด้วยกันก็เด้งขึ้นมา เขาบอกว่ารูปนี้สวยเว้ย เขาก็เซฟไว้ เช้ามาพี่น็อตก็บอกว่าพี่เมฆเสียแล้วนะ เขาถามว่าเวลาไหน พอรู้ก็ตกใจ ว่าเป็นไปได้ไง ก็บอกว่าเขาคงคิดถึงคนที่เคยร่วมงานด้วย พี่กวางบอกว่าไม่รู้เอ๋เชื่อมั้ยนะ ซึ่งเอ๋เชื่อ เพราะมีคนมาบอกเอ๋แบบนี้ตลอดเวลา

ครูน้องเมิร์ชก็มาบอกเหมือนกัน ?

เอ๋ : ครูเขามางานศพคืนแรก ครูบอกว่ามีเรื่องจะเล่าให้ฟัง ครูเล่าให้ฟังเป็นฟิลิปปินส์วันที่พี่เมฆเข้าโรงพยาบาลคือวันที่ 18 วันที่ 19 น้องเมิร์ชเรียนมาปีนึงแล้ว เขาไม่เคยทำอะไรด้วยตัวเองได้ วันที่ 19 อยู่ ๆ น้องเมิร์ชจัดกระเป๋าเก็บของมีระเบียบมาก ครูเลยถามว่าทำไมเมิร์ชเก็บกระเป๋ารูดซิปเองได้ เขาบอกว่าป่ะป๊าช่วยอยู่ ครูทุกคนก็อึ้งไป คิดว่าเขาคิดเองไปหรือเปล่า แต่พฤติกรรมเขาเปลี่ยน ครูบอกว่าปกติน้องทำเองไม่ได้ ซึ่งอยู่ที่บ้านเขาก็ไม่เคยมานั่งเก็บของเรียง ๆ นอกจากพี่เมฆบอก

พี่เมฆรักษาตัวเอง 5 ปีกว่า หมดเงินเก็บไป 20 กว่าล้าน ?

เอ๋ : จริง ๆ ก่อนพี่เมฆเสียชีวิต เรามีธุรกิจอยู่แล้ว มีอาหารเสริม ขายคอลลาเจน ส่วนโรงงานผลิตเรารับผลิตทุกอย่างจนจบกระบวนการ บริษัททำเกี่ยวกับพวกอาหารแร่ธาตุสกัด เราก็ทำอีก รีวิวอะไรเราก็รับทุกอย่าง ก็เมเนทไป เราตั้งใจปลดหนี้ให้ได้หมดภายในปีนี้อยากให้เขาไปอย่างสะอาดที่สุด ไม่ได้ไปแล้วคาเป็นหนี้ อยากให้ไปหมดหนี้ ครอบครัวไม่ได้เดือดร้อน ถ้าเขาฟังอยู่ก็อยากบอกว่าครอบครัวไม่ได้เดือดร้อน เขาไม่ได้ทิ้งภาระเอาไว้ แต่ทำให้ครอบครัวเติบโตได้ด้วยพลังที่เราจะก้าวต่อไป

26 มีนาคม เพื่อน ๆ ศิลปินก็จัดคอนเสิร์ตช่วยพี่เมฆให้พี่เอ๋เอาไปใช้หนี้ให้เบาลง วันนั้นเบ็ดเสร็จได้เท่าไหร่ ?

เอ๋ : ประมาณ 1.1 ล้านค่ะ

13 ภรรยาลูก ๆ เปิดใจสูญเสีย เมฆ วินัย 3

ที่บอกว่าจะใช้หนี้ให้หมดภายในปีนี้ ประมาณเท่าไหร่ ?

เอ๋ : เกือบ 8 ล้าน แต่ว่ามีผู้ใหญ่ เพื่อนสนิทพี่เมฆที่เขาไม่เอา ประมาณล้านกว่าที่เขาไม่รับ มันก็เหลือประมาณ 6 ล้านกว่า รายได้ที่มาทั้งหมดก็จะเริ่มนั่งไล่เคลียร์ อันไหนที่มีดอกเบี้ยจะเคลียร์ก่อน คนที่เราหยิบยืมมา ที่เป็นเจ้าหนี้เรา ตอนนี้ไม่อยากให้มานั่งดราม่าเรื่องเจ้าหนี้ว่าไม่รับเงิน เพราะตอนเขาช่วย บางคนติดขัด แต่เขาก็ช่วย เพราะเขาคิดว่ายังหมุนได้ แต่พี่เมฆหมุนไม่ได้แล้ว ณ วันนั้นเขาคิดว่าพี่เมฆจะกลับมาได้ ซึ่งเอ๋บอกเจ้าหนี้ทุกคนเลย ไม่ผิดเลยถ้าไม่ยกหนี้ให้ เอ๋รู้ดีแก่ใจ เพราะเอ๋เป็นทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ในสองสถานการณ์ เรารู้ดีว่าเมื่อเรามีเราใช้หนี้ไปเถอะ เพราะเราหยิบยืมเขามา เขารักเราเขาถึงให้ วันนี้เรารักเขาเราถึงคืนให้เช่นกัน แต่ส่วนของลูกกับครอบครัวเอ๋จะหาใหม่ และเอ๋มั่นใจว่าเอ๋หาได้

เจ้าหนี้ที่ยกหนี้ให้คือพี่หนุ่ม คงกระพัน ?

เอ๋ : ค่ะ แล้วก็เพื่อนพี่เมฆที่สนิทที่กระบี่ พี่เก๋ แล้วก็ ป๋าโก๋ ช่อง 7

หลังจากนี้วางแผนชีวิตยังไงบ้าง ?

เอ๋ : เอ๋คงไม่ได้ลดคุณภาพชีวิตของลูก ลูกเคยเรียนอะไรจะให้เรียนอย่างนั้น อยากเรียนอะไรเพิ่มเติมให้ปรึกษากัน เอ๋จะทำให้ดีที่สุด จะทำฝันของพ่อเขาให้เป็นจริงค่ะ ก่อนพ่อเขาจากไปเขาจะถามตลอดว่าลูกอยากเป็นอะไร มาร์คเขาชัดเจนอยากเป็นนักร้อง แบมอยากเป็นนักแสดง เอ๋ในฐานะจบม.กรุงเทพ ศิลปะการแสดงก็จะหาคอนเนกชั่นให้เขาได้เรียนโค้ชติ้งก่อน ให้เขาทำตามความฝันของเขา ส่วนเรามีหน้าที่หาเงินให้เขาเรียน ให้เขาได้ทำอะไรก็ตามให้สมกับที่เขาเป็นลูกวินัย ไกรบุตรค่ะ

ภูมิใจในตัวแม่มั้ย ?

น้องแมม : ภูมิใจค่ะ

มาร์ค : มาร์คก็ภูมิใจที่สุดครับ

เอ๋ : ตอนนี้เราทำทุกอย่างที่ได้เงินเพื่อไปเคลียร์หนี้ เราทำหมด ถ้าอยากช่วย ช่วยเราซื้อสินค้าดีกว่า เราไม่เปิดรับบริจาคนะคะ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/

Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight

Twitter: https://twitter.com/BangkokInsight

Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/

Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg

Avatar photo