เอ็มมี่ แม็กซิม ร่ำไห้ลูกโดนล้อ ต่อยกับเพื่อน แม่นมใหญ่เท่าหัวเด็ก ปิดตำนาน 700 CC

โดย The Bangkok Insight Editorial Team 15 กุมภาพันธ์ 2567

เอ็มมี่ แม็กซิม ร่ำไห้ลูกโดนล้อ แม่นมใหญ่เท่าหัวเด็ก สงสารต่อยกับเพื่อนเพราะปกป้องแม่ ปิดตำนาน 700 CC ตัดสินใจเอาออกแล้ว

ปิดตำนานเอ็มมี่นม 700 CC. เป็นนิวเอ็มมี่ สำหรับสาว เอ็มมี่ แม็กซิม หรือ เอ็มมี่ อมลวรรณ ศิริกิตติรัตน์ หลังอยู่กับหน้าอกไซส์ 700 cc มานานเป็น 10 ปี กระทั่งล่าสุด เจ้าตัวได้ตัดสินใจเตรียมขึ้นเขียงผ่าเต้าเอาซิลิโคนออกแล้ว โดยเอ็มมี่เปิดใจว่า

“ถ้าพูดถึงประโยชน์ของเขา ตอนที่เอ็มมี่ทำ 700 cc บอกตรง ๆ ก็ใจหาย ทำมา 10 กว่าปีแล้ว แล้ว 700 cc ทำให้คนได้รู้จักเอ็มมี่ แม็กซิม หนึ่งมีชื่อ เอ็มมี่ แม็กซิม สองเขาช่วยเราทำมาหากิน เพราะเมื่อก่อนเราเป็นสายเซ็กซี่ เราต้องใช้เรือนร่างทำมาหากิน แล้วเรายังเด็กแค่ 24-25 ก็ไม่ได้คิดอะไร มั่นใจในตัวเองว่ากูต้องนมใหญ่ไว้ก่อน ประโยชน์ของมันคือช่วยทำมาหากิน ทำงาน ทำเงินได้เยอะมากในช่วงนั้น เอาตรง ๆ ก็เลี้ยงครอบครัวได้ เลี้ยงตัวเองได้ มันเลยทำให้รู้สึกใจหายแหละ ที่จะไม่มี 700 cc แล้ว”

“ปัญหาคือเริ่มรู้สึกปวดหลังมากขึ้น พอปวดมาก ๆ ก็ปวดมาที่ต้นคอ ที่หัว เลยไปปรึกษา แล้วหลายคนก็บอกว่าแฟนเขาเป็นเหมือนกัน ด้วยความที่ตัวเล็กแล้วทำหน้าอกใหญ่ มันปวดจนรู้สึกทรมาน ทรมานกับอาชีพใหม่ของเราด้วย เพราะตอนนี้เราหันมาทำธุรกิจเต็มตัว ดังนั้นเลยรู้สึกว่าในเมื่อเลือกที่จะไม่ใช้เรือนร่างแล้ว เราใช้สมองในการทำงานแล้ว ทำไมเรายังต้องมีเขาอยู่ เลยตัดสินใจเอาออกดีกว่า”

“ความคิดที่จะเอาหน้าอกออก มันมีมา 2-3 ปีแล้ว ตั้งแต่ลูกเริ่มโต ตอนน้องอิจิ อายุ 15 ปี เขาโดนเพื่อนล้อด้วย ว่าแม่มึงนมใหญ่ แล้วความที่ลูกรักเรา เขาก็มีเรื่องชกต่อยกับคนอื่นตลอด ก็สงสารลูก เลยตัดปัญหาตรงนี้ แล้วพอมาเรื่องสุขภาพของเรา ก็เลยโอเค ทั้งสุขภาพด้วย ทั้งเรื่องลูกด้วย แล้วเราก็มีวุฒิภาวะ ความคิดเราก็เปลี่ยนแปลงไป ก็เลยเอาออกเลยก็ได้ เพื่อลูก เพื่อครอบครัว เราคิดแบบนี้”

“ลูกรู้ค่ะ อธิบายให้ลูกฟังหมดแล้ว เราจะไม่เล่าเรื่องนี้ เพราะมันจะร้องไห้นะ (เสียงสั่น) ถามว่าลูกนอยด์ไหม เวลาเพื่อนล้อ ว่าแม่นมใหญ่กว่าหัวเด็ก คืออิจิเขาเป็นเด็กที่มีความอดทนสูงมากนะ สมมติมีคนมาล้อ 10 คน ว่าแม่มึงนมใหญ่ แม่มึงถ่ายโป๊ ก็จะมีเรื่องชกต่อยกันสัก 5-6 คนค่ะ เราเลยรู้สึกสงสารลูก เอาออกก็ได้วะ จริง ๆ น้องอิจิเขาเข้าใจ แต่ความที่เขารักแม่ และเห็นว่าทำไมต้องมาล้อแม่เขา นั่นแหละมันคือสิ่งที่ลูกเขาทนไม่ได้ ถ้าพูดถึงในหน้าที่การงาน เขาเข้าใจทุกอย่าง ว่าหม่ามี๊ต้องทำงานหนัก ต้องทุ่มเท ไม่ว่าจะใช้เรือนร่างในการทำมาหากิน เขาเข้าใจ แต่สิ่งที่น้องทนไม่ได้ คือทำไมต้องมาล้อบ่อย ๆ (เสียงสั่น) ทำไมต้องเอาปมด้อยมาล้อเขา แล้วเราก็รู้สึกว่าเออสงสารลูก (ร้องไห้)”

“ไม่อยากให้ลูกมีเรื่อง ไม่อยากให้คนอื่นมาล้อลูกเราค่ะ เราก็บอกเขาว่าลูกอดทนนะ หม่ามี๊ไม่แคร์ ใครจะว่ายังไงหม่ามี๊ไม่สนใจ มีแค่ความรู้สึกลูกมากกว่า วันนี้เขารู้ว่าเอ็มมี่ต้องผ่าตัด เขาก็บอกว่าปลอดภัยนะมี๊ จริง ๆ มี๊ไม่ต้องทำเพื่อนหนูก็ได้ แต่เราก็บอกว่ามันคงหมดเวลาของมี๊แล้วด้วย มี๊แก่แล้ว จะ 40 แล้ว คงต้องใช้สมองในการทำมาหากิน เอาจริง ๆ ก็คือสงสารลูก สงสารสุขภาพตัวเอง และแฟนก็ค่อนข้างขี้หึงด้วย หวงด้วย ก็ทำให้เขาสบายใจ”

“ก็ต้องยอมรับตรงนี้ให้ได้ คือเต๋า (สามี) เขาเป็นคนขี้หวง ถ้าวันนี้เราเป็นผู้หญิงนมเล็ก ๆ ธรรมดาทั่วไป ก็อาจจะทำให้เขาใช้ชีวิตง่ายขึ้นก็ได้ ถ้าเขาชอบใหญ่ ๆ ไม่เป็นไร เดี๋ยวซื้อของปลอมให้ แต่เราก็มีปรึกษาเขา เขาก็บอกแม่ไม่ต้องเปลี่ยนก็ได้นะ แต่บางทีก็คิดว่านมใหญ่ไป ทำให้แม่ปวดหัว คือเขาก็เป็นห่วงสุขภาพเรา ใจก็ไม่อยากให้เมียเปลี่ยนหรอก อยากได้แบบนี้แหละ แต่ก็เรื่องสุขภาพ สุดท้ายก็ต้องเอาชีวิตไว้ก่อน”

“สำหรับตัวเราคิดว่าไม่น่าเปลี่ยนนะ เราก็ทำทุกอย่างเหมือนเดิม แค่อาจจะดูหน้าอกเล็กลง ต้องถามว่าเต๋าเขาโอเคหรือเปล่า หนูโอเค เอาตัวเองเป็นหลัก ถ้าสุขภาพไม่ดี ที่บ้านก็แย่นะ 700 cc กับลูกไม่โดนล้อ ก็เลือกลูกไม่โดนล้อ (ต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่ไหม?) ไม่จำเป็น เพราะเสื้อผ้าตัวเล็กอยู่แล้วค่ะ เป็นคนผอม”

“เริ่มต้นเลยต้องเปลี่ยนจากบนผิวหนัง มาเป็นใต้กล้ามเนื้อ ส่วนเรื่องไซส์เรามาดูกันอีกทีว่าไซส์ไหนเหมาะกับเรามากที่สุด แต่เขาเลือกเป็นซิลิโคนไข่มุกให้ จับแล้วเป็นธรรมชาติ เลยรู้สึกว่าน่าสนใจ”

“เอาตรง ๆ ไหม บางทีเราซื้อเสื้อผ้ามา เพราะเห็นผู้หญิงคนนี้ใส่ แต่ผู้หญิงคนนี้ไม่มีนม ใส่แล้วสวยมาก พอเอ็มมี่มีนมใส่แล้วมันไม่สวยเหมือนเขา ถึงเราจะชอบนมใหญ่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องไปโฟกัสอะไรขนาดนั้น ว่าต้องนมใหญ่แบบนี้ไปตลอดชีวิต เอาตรง ๆ คือทำใจมาแล้ว เราชอบจริง แต่ดูความเหมาะสม ดูอายุ เอ็มมี่เลือกความเหมาะสมมากกว่าค่ะ”

“ก็มีการดูดวงมาก่อน เขาบอกว่าเปลี่ยนเลยลูก ครั้งนี้ก็ปังแน่นอน เพราะการจ้างงาน บางทีเขาก็ไม่ได้จ้างที่หน้าอกอย่างเดียว คนไม่มีหน้าอกงานล้นก็มี ดังนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับชีวิตตอนนี้ เอ็มมี่ก็ยอมรับในสิ่งมันจะเกิดขึ้นค่ะ”

“มันมีแค่ช่วงหนึ่งนะ ที่บอกว่าเอ็มมี่นมใหญ่แต่ไร้สมอง มันเป็นช่วงวัยรุ่น เพราะตอนนั้นทำอะไรก็ไม่คิด เอาแต่ใจตัวเอง แต่พอวันนี้เราเริ่มจะลดไซส์ แค่จะลดไซส์เราก็มีสมองแล้ว แล้วเอ็มมี่ก็รู้สึกภูมิใจ กับสิ่งที่มันจะเกิดเกิดขึ้นในตอนนี้ เอ็มมี่มาดู ๆ แล้ว บางทีเคยเหมือนกันนะ มีผู้จัดการขายงาน บางทีเขาอยากจะได้นักแสดงตัวนี้ รูปร่างหน้าตาเราได้ แต่นมเราใหญ่เกินไป ก็ชวดงานนั้น มันเป็นสิ่งที่เราไม่เคยพูด บางคนเขาก็มองว่าน้องเอ็มมี่ดูล้นเกินไป หมายถึงหน้าอกเรามันล้น ไม่ใช่สมองค่ะ (หัวเราะ) ก็มีชวดงานไปเหมือนกัน คือจะบอกว่าบางทีชีวิตใหม่ที่มันเกิดขึ้นกับเอ็มมี่ นมเล็กก็อาจจะทำให้เอ็มมี่หาเงินได้ด้วย”

“ถามว่าเสียใจ ก็เฟลแป๊บเดียว เพราะว่ามันก็มีงานอื่นเข้ามา แต่มันก็จะเป็นสายเซ็กซี่ตลอด อย่างเช่นล้างรถ แต่ว่าบางทีเราอยากอยู่จอแก้ว หนูอยากเล่นละคร หนูอยากกลับมาอยู่ในพื้นที่ที่หนูเคยอยู่ เคยมา หนูอยากมาตรงนั้นมากกว่า ผู้ใหญ่หลายคนก็บอกถ้านมเล็กกว่านี้เจ๋งเลย ก็ลองดู ชีวิตใหม่อาจจะดีขึ้นก็ได้”

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/

Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight

Twitter: https://twitter.com/BangkokInsight

Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/

Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg