Entertainment

ลุกซ์ น้องใบเตย ตัดสินใจไม่ปั๊มหัวใจแฟน ถอนทุกคำบนบาน จับมือกันจนนาทีสุดท้าย

ลุกซ์ น้องใบเตย เปิดใจเรื่องสูญเสียคนรัก ตัดสินใจไม่ยื้อชีวิต ถอนทุกคำบนบาน จับมือกันจนนาทีสุดท้าย

หลังเจอมรสุมชีวิตลูกใหญ่แบบไม่ทันตั้งตัว สำหรับ ลุกซ์ ชาญวิทย์ น้องชายนักร้องลูกทุ่งสาว ใบเตย สุธีวัน หรือ ใบเตย อาร์สยาม ล่าสุด (7 มิ.ย.) เจ้าตัวเปิดใจครั้งแรกในรายการ คุยแซ่บShow กับการสูญเสียแฟนหนุ่มที่คบกันมา 12 ปี จากอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชน เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2566 และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2566

14 ลุกซ์ ชาญวิทย์ น้องใบเตย 4
ลุกซ์ น้องใบเตย

มันก็เหมือนมรสุมชีวิตเรื่องใบเตย ดีเจแมน แล้วมาเรื่องของลุกซ์เองอีกที่หนักมาก ๆ ที่สูญเสียคนรัก ?

ลุกซ์ : ใช่

จริง ๆ มันเกิดอะไรขึ้นกับแฟนเรา ?

ลุกซ์ : เกิดอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชน ช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 4 พฤษภาคม ปกติเขาจะกลับมาบ้านตอน 6 โมง เขาเป็นวิศวกรไฟฟ้า บางวันเขาเหนื่อย เขาจะหลับ 2-3 ทุ่ม ตื่นแล้วจะออกมาวิ่ง แล้วจะมีบางวันวิ่งเสร็จแล้วหิว 5 ทุ่ม เที่ยงคืน ไปกินบะหมี่แถวหมู่บ้านก็จะมี ซึ่งวันนั้นลุกซ์คุยกับเขา ลุกซ์หลับตอน 4 ทุ่มกว่า ๆ บอกฝันดีอะไรเรียบร้อยแล้ว ได้รับเมสเสจที่มาเห็นตอนรู้ว่าเขาเข้าโรงพยาบาลแล้ว เขาส่งมาตอน 23.59 ของวันที่ 3 บอกว่าวิ่งเสร็จแล้วนะ

หลังจากนั้น 00.40 เกือบตี 1 ญาติเขาโทร. มา พี่ลุกซ์ไปดูพี่หน่อย เขาอยู่โรงพยาบาลคุยไม่รู้เรื่องแล้ว ตอนแรกเราคิดว่ามิจฉาชีพหรือเปล่าที่โทร. ไปหาญาติ เพราะมันไม่ใช่เนเจอร์ที่เขาจะไปไหนเวลานั้น เราตกใจรีบแต่งตัวไปที่โรงพยาบาล สรุปคือเรื่องจริงเขาไม่ได้หมดสติเลย เขาโวยวายอยู่ในเตียง แต่เป็นการโวยวายที่ไม่ได้ลืมตา และไม่ได้โวยวายกับเราแล้ว

ภาพที่เห็นตอนนั้นเป็นยังไงบ้าง ?

ลุกซ์ : รับรู้ได้เลยมีอุบัติเหตุทางสมองเกิดขึ้น แกโดนมัดทั้งมือเท้าหมดเลย เพราะแกดิ้น แล้วพูดเรื่องงานทั้งหมดเลย เลือดก็มีไหลออกหู แต่ตรงสมองปิดแผลไว้แล้ว ที่เราตกใจเลยคือ ตอนนั้นคือรู้สึกว่าเขาไม่ได้อยู่กับลุกซ์แล้วตั้งแต่ตอนนั้น เพราะเราไม่ได้พูดกันด้วยความเข้าใจกันแล้ว เราไม่เข้าใจเขาแล้ว บอกเขาสิ่งที่เขาขอเกี่ยวกับงานว่าทำให้แล้วนะ ไม่ต้องเป็นห่วง เขาจะมีช่วงเย็นลง แล้วอยู่ดี ๆ ก็กลับขึ้นมาอีก

1 ลุกซ์ น้องใบเตย 2

คุณหมอบอกว่ายังไงบ้าง ?

ลุกซ์ : สมองกระทบกระเทือน วันแรกหมอบอกว่ายังสบายใจได้นะ เพราะว่าคนไข้ที่เป็นอาการเกี่ยวกับสมองแล้วยังโวยวายได้แบบนี้ แปลว่ายังโอเค แต่ถ้าหมดสติ หลับไปแปลว่าหนัก เราก็เชื่อหมอ ฟังที่หมอพูดเราก็มีกำลังใจ คืนนั้นก็อยู่กับแกถึงตี 4 แล้วแกถูกส่งตัวไปที่ห้องพักด้านบนแล้วเราไม่สามารถเข้าเยี่ยมได้แล้ว มาหาแกอีกทีตอนเที่ยงอีกวันวันนั้นไม่ได้ผ่า มาผ่าอีกวันนึง

พอผ่าคุณหมอบอกว่ามีโอกาสที่จะรอด 3 เปอร์เซ็นต์ ?

ลุกซ์ : หลังผ่าคุณหมอออกมาบอกว่าทำใจนะ สมองเขากระทบกระเทือนเยอะมาก เขาจะมีโอกาสกลับมาปกติแค่ 3% ตอนนั้นไม่ว่าหมอจะพูดอะไรหนูยังมีความหวังอยู่ 100% ว่าเขามา เรารู้แหละว่าวิทยาศาสตร์เขาพูดแบบนี้ แต่เราเชื่อปาฏิหาริย์ ลุกซ์มีความหวัง ไปเยี่ยมทุกวัน หลังจากนั้น 2-3 วันเลือดยังออกในสมองเยอะอยู่ หมอเลยผ่ารอบที่ 2 แต่พอหลังจากผ่ารอบแรกเสร็จแกก็หลับไปเลย หลังจากนั้นลุกซ์ไม่ได้ยินเสียงแกอีกเลย ผ่ารอบสองไปสักพักอาการก็ทรง ๆ ไม่ได้ดีขึ้น เท่าเดิม บางวันไม่ดี บางวันเท่าเดิม

จนถึงวันสุดท้ายวันที่ 18 พฤษภาคม ลุกซ์ไปเยี่ยมแกปกติโดยที่ไม่ได้รับรู้ว่าแกแย่ลงหรืออะไร ไปถึงปุ๊บพยาบาลบอกว่าเขาแย่ลงนะ ลุกซ์หันไปถามหมอแค่คำเดียววันนี้ใช่ไหม เขาก็พยักหน้า เขาบอกเรามาว่าให้ไปแจ้งคุณพ่อ คุณแม่แฟนนะ เดี๋ยวเขาจะต้องตัดสินใจเรื่องใช้เครื่องปั๊มหัวใจหรือเปล่า เพราะต้องเป็นพ่อ แม่ ที่ตัดสินใจ เราเลยกลับไปบอกพ่อกับแม่เขา ทุกคนเห็นตรงกันว่าปั๊มแน่นอนเพราะเราอยากให้โอกาสเขาได้ใช้ชีวิต พอ 6 โมงเย็น ได้กลับมาที่โรงพยาบาลอีกที ได้เจอหมอได้พูดคุย แล้วเห็นสภาพที่แย่ลงของเขามาก ๆ พ่อแม่เขาเลยตัดสินใจอีกแบบนึง คืนวันนั้นก็ค่อย ๆ ไป

14 ลุกซ์ ชาญวิทย์ น้องใบเตย 1
ลุกซ์ น้องใบเตย

ไปขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์จริงใช่ไหม ?

ลุกซ์ : ทำทุกทางที่เพื่อน ๆ หรือผู้ใหญ่ให้คำแนะนำให้ไป ก็ไปหมด ไปขอและทุกครั้งที่ขอ ขอให้กลับมา ไม่ว่าจะกลับมาเหมือนเดิม หรือไม่เหมือนเดิมก็ขอให้เขากลับมา

นี่คือแม่เขาทัก ?

ลุกซ์ : วันนั้นช่วงเย็นหัวใจแกเต้น 130 กว่า แต่พยาบาลบอกว่า สมอง ปอด การหายใจ ความดันไม่ดีแล้ว ตอนนี้มีแต่หัวใจ เราก็ยังสงสัยอยู่เลยทำไมหัวใจยังเต้น ๆ อยู่ จนหมดเวลาเยี่ยมตอน 2 ทุ่ม หัวใจไม่หล่น พยาบาลเลยบอกว่าลองให้ยาความดันดู เผื่อถ้าความดันกลับมา เขาอาจจะกลับมาได้ดีขึ้น เราก็กลับบ้านกันไป ลุกซ์ถึงบ้านไม่ถึง 15 นาทีได้รับโทรศัพท์ให้กลับไปอีก ภาพที่เจอหัวใจก็ยังเต้น 130 อยู่ แต่พยาบาลบอกตอนที่เรากลับบ้าน หัวใจหล่นลงมาเหลือหลักสิบ แต่พอเรากลับไปก็เป็น 130 จนคุณพ่อ คุณแม่ มาบอกเราว่าต้องให้เขาไปแล้ว ต้องปล่อยเขาไป เพราะเขาทรมาน ก็เลยหาทุกอย่างที่ทุกคนไปมา แล้วบอกว่า เราไม่เป็นอะไรแล้วนะ ที่เคยไปขอกันมา เราปล่อยเขาไปได้แล้ว ไม่เป็นไร เราโอเค เรายกเลิกทุกคำบนบานสานกล่าว ทุกคำขอทุกอย่าง ให้เขาไปเจอทางสบายที่เขาควรจะได้เป็น ควรจะได้ไปดีกว่า

แล้วพอไปถอนปุ๊บ ?

ลุกซ์ : พอถอนปุ๊บเริ่มลดลง แล้วทุกอย่างเลย เรื่องบนบานศาลกล่าว เรื่องเขาเป็นห่วง เรื่องงาน อย่างลุกซ์เองก็ได้พูดเรื่องครอบครัวลุกซ์ เรื่องหลาน เรื่องพี่เตย พี่แมน ไม่เป็นไรนะ พี่เตย พี่แมน ปลอดภัยแล้ว แล้วสุดท้ายสวดชินบัญชรกัน เกือบจะจบแล้วแกไปก่อน ลุกซ์นั่งจ้องเลข ลดลงไปเหมือนในหนังเลยจนเป็นกราฟนิ่ง

1 ลุกซ์ น้องใบเตย 1
ลุกซ์ น้องใบเตย

ความรู้สึกตอนนั้นที่เรานั่งจ้องเลขกับคนรักของเรา เรารู้สึกยังไง ?

ลุกซ์ : ตอนแรกเราคิดว่าเราทำใจได้ แต่พอมันติ๊ดปุ๊บลุกซ์กลายเป็นคนที่ทำใจไม่ได้อยู่ดี ๆ ก็ยากที่สุด หันไปหาแม่ หันไปหาพ่อ หันไปหาหมอ จริงเหรอ ทุกคนจะไม่ทำอะไรกันแล้วเหรอ ตอนนั้นหัวใจเราหล่นไปอยู่ที่พื้นเลย แล้วสักพักก็มีคนมากอดพาเราออกไปข้างนอก

ตอนนี้คดีความไปถึงไหนแล้ว ?

ลุกซ์ : ล่าสุดคุณตำรวจมา เขาไม่ได้มารายงานตัว รอหมายจับจากคุณตำรวจ หมายเรียกเพิ่งออกไปใบที่ 2 ถ้าเขาไม่มาก็จะเปลี่ยนเป็นหมายจับ

เรื่องเอกสารเป็นยังไงบ้าง ?

ลุกซ์ : ลุกซ์ต้องบอกว่าได้รับเกียรติจากคุณพ่อ คุณแม่ ขอบคุณทั้งครอบครัวเลยที่เอ็นดูลุกซ์ จริง ๆ ลุกซ์อยากทำอะไรมากกว่านี้เยอะ ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเดินเอกสารต่าง ๆ ในความรู้สึกเรา เรารักกันมา 12 ปี หลาย ๆ อย่างเราอยากจะทำแทนพ่อ แม่ เราอยากจะรับผิดชอบด้วยกัน แต่ว่าด้วยกฎหมายบ้านเรายังไม่ได้พร้อมตรงนี้ ก็คาดหวังแล้วกันว่าจะมีอะไรดี ๆ เกิดขึ้นบ้าง ลุกซ์อาจจะเป็นเคสตัวอย่างที่เป็นคู่รักที่เป็นแบบนี้ มันเป็นเรื่องจริง ลุกซ์เป็นกระบอกเสียงได้ว่าเราบริสุทธิ์ใจไม่แพ้ชาย หญิง คู่ไหน เราอยากช่วยพ่อกับแม่เต็มที่มาก ๆ แต่หลาย ๆ อย่างเรายังทำไม่ได้ ขอโอกาสให้พวกเราได้ทำแล้วกันนะครับ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo