ศูนย์ทดสอบฉลาดซื้อ สำรวจฉลากครีมนวดผม พบซิลิโคนในครีมนวดทุกตัวอย่าง ซึ่งจะสะสมทำให้ผมร่วงได้ เตือนผู้บริโภคศึกษาชื่อสารเคมี รู้เท่าทันฉลาก
ศูนย์ทดสอบฉลาดซื้อ และโครงการสร้างเสริมความเข้มแข็งระบบเฝ้าระวังสินค้าและบริการเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก สสส. ได้เปิดเผยผลสำรวจฉลากครีมนวดผม เนื่องจากในผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมมีการใช้สารเคมีที่มีผลกระทบต่อเส้นผม และหนังศีรษะหลายชนิด เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค
ทั้งนี้ ได้สุ่มเลือกผลิตภัณฑ์ครีมนวดผม จำนวน 12 ตัวอย่าง ในเดือนมิถุนายน 2565 จากห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาเก็ตชั้นนำทั่วไป ได้แก่ยี่ห้อ ซันซิล, เทรซาเม่, ลอรีอัล ปารีส, บู๊ทส์, รีจอยส์, โดฟ, เฮดแอนด์โชว์เดอร์, แพนทีน, วัตสัน, เฮอร์บัล เอสเซนส์,ซึบากิ,เคลียร์
ผลการสำรวจฉลากครีมนวดผม ทั้ง 12 ตัวอย่าง ดังนี้
- พบสารซิลิโคนทั้ง 12 ตัวอย่าง
- ไม่พบ พาราเบน ฟอร์มาดีไฮด์ และอิมิดาโซลิตินิล ยูเรีย
- พบเมทิลไอโซไทอะโซลิโนน (MIT) ใน 7 ตัวอย่าง คิดเป็น 58.33% ของตัวอย่างทั้งหมด
- พบพีน็อกซี่เอทานอล ใน 8 ตัวอย่าง คิดเป็น 66.67% ของตัวอย่างทั้งหมด
เมื่อคำนวณเปรียบเทียบราคาต่อปริมาณ 1 มิลลิลิตร พบว่า ยี่ห้อเคลียร์ แอนตี้แดนดรัฟ สกาล์ป แคร์ คอนดิชันเนอร์ ไอซ์คูล เมนทอล แพงสุดคือ 0.61 บาท ส่วนยี่ห้อซันซิล แดเมจ รีสโตร์เซรั่มคอนดิชันเนอร์ แอคทีฟ-อินฟิวส์ชั่น ถูกสุดคือ 0.16 บาท
นอกจากนี้ จาก 12 ตัวอย่าง มี 4 ตัวอย่างที่พบสารกันเสียทั้งเมทิลไอโซไทอะโซลิโนนและพีน็อกซี่เอทานอล ซึ่งเป็นการใช้สารเคมีกันเสียมากกว่า 1 ชนิดใน 1 ผลิตภัณฑ์ และมี 4 ตัวอย่างที่ระบุวันที่ผลิตแต่ไม่ระบุวันหมดอายุ
ทัศนีย์ แน่นอุดร บรรณาธิการบริหาร นิตยสารฉลาดซื้อ กล่าวว่า ปัจจุบันหลายปัจจัยแวดล้อมทำให้ผมเสียทั้งแสงแดด ฝุ่นควัน ความร้อนจากการเป่าและหนีบผม รวมถึงสารเคมีจากการทำสีผม ไฮไลต์ผม
ทั้งนี้ จากการสังเกตพบว่า ในผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมมีการใช้สารเคมีที่มีผลกระทบต่อเส้นผม และหนังศีรษะหลายชนิด และเนื่องจากผู้บริโภคต้องการดูแลเส้นผมมากขึ้น จึงส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ได้รับความนิยมมากขึ้น ตามไปด้วย
ในปี 2564 ตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมในประเทศไทย เติบโตถึง 5.6% มูลค่ารวม 30,000 ล้านบาท ในการตลาดระดับโลก ผลิตภัณฑ์ครีมนวดผมและทรีตเมนต์มีมูลค่าการขายเพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับปี 2563
ศูนย์ทดสอบฉลาดซื้อ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค มีคำแนะนำในการเลือกซื้อ เลือกใช้ครีมนวดผม ดังนี้
- การเลือกซื้อครีมนวดผม ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากภาษาไทย และมีข้อความตามที่กฎหมายกำหนด คือ ชื่อผลิตภัณฑ์ประเภทสารที่ใช้เป็นส่วนผสม วิธีใช้ ชื่อและสถานที่ตั้งผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า ครั้งที่ผลิต เดือนปีที่ผลิตและปริมาณสุทธิ เพื่อให้ได้ข้อมูลสำคัญที่เชื่อถือได้ และผู้บริโภคสามารถเปรียบเทียบปริมาณ และคุณภาพเทียบกับราคาได้
- เมื่อซื้อครีมนวดผมที่มีโปรโมชันลดราคาเยอะ ๆ ยิ่งควรสังเกตวันหมดอายุให้ดี เพราะหากหมดอายุไปแล้ว จะเสียเงินเปล่า และจะทำให้สารเคมีในครีมนวดผมมีอันตรายต่อเส้นผมและหนังศีรษะมากขึ้น
- การใช้ครีมนวดผม ไม่ควรชโลมครีมนวดผมที่หนังศีรษะ เพราะทำให้หนังศีรษะมัน ครีมนวดผมนั้นยังถูกออกแบบมาให้บำรุงเฉพาะเส้นผม การใช้ครีมนวดผมให้ได้ผลดีที่สุด คือการใช้บริเวณกลางเส้นผมจรดปลาย และเมื่อรู้ว่า ครีมนวดผมที่เลือกใช้มีส่วนผสมของซิลิโคน ยิ่งควรล้างออกให้สะอาดเพื่อป้องกันไม่ให้สารเคมีตกค้างสะสม
- หากระคายเคืองผิว หรือแพ้ คันจากการใช้ผลิตภัณฑ์ใดๆ นอกจากหยุดใช้และไปพบแพทย์แล้ว ควรศึกษาฉลาก ดูส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์นั้นให้ดี เพราะจะได้สามารถเลือกซื้อครีมนวดผมที่จะไม่มีส่วนผสมของสารเคมีที่แพ้อีกในครั้งหน้า
นอกจากนี้ฉลาดซื้อขอแนะนำว่า ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติใกล้ตัว ในครัว เช่น มะกรูด อัญชัน ไข่ไก่ โยเกิร์ต น้ำมันมะพร้าว เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำมาใช้บำรุงเส้นผม โดยที่ไม่มีสารเคมีตกค้างได้เช่นกัน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- กรุงเทพโพลล์เผย ร้านค้า 84.1% ยิ้มรับ ‘คนละครึ่ง’ ช่วยกระตุ้นยอดขาย ลุ้นต่อเฟส 6
- ขาเที่ยวรอเลย!! ททท. ต่อชง ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ เฟส 5 เข้าครม. หวังใช้ได้ถึงสงกรานต์
- มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเผยผลวิจัยทีวีดิจิทัล 4 ช่อง ‘โฆษณาเกินเวลา’