Lifestyle

กรมสุขภาพจิต ส่งทีมเยียวยาจิตใจ กรณีสูญเสียนักเรียนหญิง โรงเรียนสตรีพัทลุง

กรมสุขภาพจิต เผยกรณีการสูญเสียนักเรียนหญิงโรงเรียนสตรีพัทลุง สะท้อนปัญหา ส่งทีมสุขภาพจิตเยียวยาช่วยเหลือ

พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดี กรมสุขภาพจิต กล่าวถึงกรณีการสูญเสียนักเรียนหญิงโรงเรียนสตรีพัทลุง ว่า เป็นการสูญเสียที่น่าเสียใจ และน่าเป็นห่วงความรู้สึกของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ในกลุ่มเพื่อนสนิทของเด็ก ซึ่งจากข้อมูลของเนื้อข่าวดูเหมือนว่ามีความใกล้ชิด และได้พยายามช่วยเหลือดูแลกันระยะหนึ่งแล้ว

เด็กนักเรียน

แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ความรู้สึกอาลัยอาวรณ์ ความทุกข์ ความรู้สึกผิด ความรู้สึกโกรธและยอมรับสถานการณ์ไม่ได้ จะมีโอกาสเกิดขึ้นในจิตใจของกลุ่มเพื่อน ๆ ซึ่งเป็นธรรมชาติอย่างหนึ่งของการสูญเสีย

ในการดูแลเด็กๆกลุ่มนี้ที่สำคัญมาก คือ การได้มีผู้ที่คอยรับฟังความรู้สึกติดค้างในใจและความทุกข์อื่นๆที่เกิดขึ้น ซึ่งสมาชิกครอบครัว ผู้ใกล้ชิดหรือกลุ่มเพื่อนๆจะมีบทบาทืสำคัญในการช่วยดูแลความรู้สึกได้มากที่สุด

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่การสูญเสียปกติที่เป็นไปตามธรรมชาติ จึงเป็นไปได้ที่หลาย ๆ คนอาจจะต้องการความช่วยเหลือ ดูแลจากผู้เชี่ยวชาญ จิตแพทย์หรือทีมสุขภาพจิตเข้าไปช่วยดูแลปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นตามมา

ตัวอย่างเช่น ความรู้สึกผิด ความรู้สึกโกรธที่มาก ๆ หรืออารมณ์ด้านลบอื่นใดที่เกิดขึ้นมาก รวมถึง ปัญหาการกินไม่ได้ นอนไม่หลับ การคิดวนเวียน การเกิดภาพติดตาที่มีเหตุการณ์บางเรื่องที่ชวนให้สะเทือนใจ

ทั้งนี้ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญพร้อมลงไปช่วยเหลือ โดยได้มอบหมายให้ทีมสุขภาพจิต ของรพ.จิตเวชสงขลาราชนครินทร์ และศูนย์สุขภาพจิตทื่ 12 ประสาน รพ.พัทลุง ติดต่อถึงโรงเรียน เพื่อที่จะพยายามเข้าไปดูแลเด็กกลุ่มนี้ให้เร็วที่สุด

S 20676625
พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์

อีกหนึ่งกลุ่มที่น่าเป็นห่วง คือ กลุ่มคุณครู เนื่องจากด้วยสถานการณ์มีการพาดพิงถึงอย่างมาก ดูเหมือนว่าเกี่ยวข้องอยู่ในบริบทพอสมควร เป็นสภาพจิตใจที่น่าจะเกิดทั้งความเครียด ความวิตกกังวล ความรู้สึกด้านลบอื่น ๆ รวมถึงความสับสน

หากโรงเรียนมีความต้องการให้ทีมสุขภาพจิต เข้าไปช่วยดูแลก็มีความพร้อมและพยายามติดต่อโรงเรียนอยู่ด้วย

สำหรับการดูแลกลุ่มเพื่อน ๆ ที่ใกล้ชิดมาก ๆ แนะนำว่า ที่สำคัญต้องอยู่ใกล้ชิด เพื่อรับฟังความรู้สึก และเป็นการรับฟังที่พยายามทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากที่สุด พยายามระมัดระวังการที่เด็กจะได้รับข้อมูลเชิงลบจากสื่อต่าง ๆ

ปัจจุบันสิ่งที่เป็นห่วงมาก คือ สังคมโซเชียลมีเดียที่อาจจะไปเติมความคิด ที่บางครั้งชักนำเด็กไปในทิศทางลบได้มากยิ่งขึ้น เจ็บปวดมากขึ้น

ขณะที่วิธีการสังเกต จะต้องดูอารมณ์ด้านลบที่ถ่ายทอดออกมา การบ่นถึงความทุกข์ความเศร้าอยู่ในระดับที่รบกวนชีวิตประจำวันหรือไม่ กินอาหารไม่ได้ นอนไม่หลับหรือไม่

ในช่วงสัปดาห์แรกสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้ อาจจะมีการร้องไห้ คิดวนเวียน เป็นส่วนหนึ่งของการปรับตัว แต่ถ้ารบกวนการใช้ชีวิตเกินไปอาจจะต้องอาศัยยา หรือใช้กระบวนทางจิตวิทยา การบำบัดทางจิตใจ เข้าไปช่วยเหลือ

สัญญาณที่ค่อนข้างน่าเป็นห่วง คือ พฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เช่น ความโกรธมาก ๆ ถึงขั้นคิดร้ายต่อตนเองหรือผู้อื่น แสดงออกถึงความก้าวร้าวหรือเสียใจมาก ๆ ต้องให้ความใส่ใจ เข้าไปช่วยเหลือดูแล

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo