Lifestyle

ส่อง 5 แนวทาง ผลักดันไทยขึ้นแท่น ‘ศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ’

บอร์ด Medical Hub ไฟเขียว 5 แนวทาง ผลักดันประเทศไทย สู่การเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ เช็ครายละเอียดที่นี่

นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการเพื่อพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) ครั้งที่ 1/2565 โดยที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบแนวทางสนับสนุนให้ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และสุขภาพ 5 เรื่อง

ศูนย์กลางสุขภาพ

ไฟเขียว 5 แนวทาง ปั้นไทยศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ

1. แนวทางการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจสุขภาพอันดามัน (Andaman Wellness Corridor : AWC)

มีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจระหว่างการระบาดและหลังการระบาดของโรคโควิด 19 ในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา และระนอง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความพร้อมและมีศักยภาพสูง เช่น การรักษาโรคสลับซับซ้อน การผ่าตัดแปลงเพศ สปาและแหล่งน้ำพุร้อนระดับโลก การดูแลนักท่องเที่ยวทางทะเล เป็นต้น

ทั้งนี้ ได้มอบหมาย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำยุทธศาสตร์ด้านบริการทางการแพทย์ ด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ ด้านบริการวิชาการและงานวิจัย และด้านบริการส่งเสริมสุขภาพ เสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบต่อไป

พร้อมกับการจัดตั้งคณะกรรมการ อนุกรรมการ และคณะทำงานขับเคลื่อนในระดับประเทศและระดับพื้นที่ เพื่อพัฒนาต้นแบบพื้นที่นำร่อง

นพ.โสภณ เมฆธน
นพ.โสภณ เมฆธน

2. แนวทางการพัฒนาต้นแบบ Wellness Industry ด้วยนวัตกรรมสีเขียว (Green Medicine) และเศรษฐกิจสร้างสรรค์

เป็นการยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการแพทย์โดยใช้พืชกัญชา กัญชง และสมุนไพรเศรษฐกิจ และนำความคิดสร้างสรรค์มาสร้างเศรษฐกิจใหม่ โดยจัดหลักสูตรการอบรมเพื่อพัฒนาคน สร้างโรงพยาบาลต้นแบบที่ใช้นวัตกรรมสีเขียว และสร้างวิถีวัฒนธรรมผ่านคน ประสบการณ์ และเรื่องราว เพื่อดึงนักท่องเที่ยว

3. แนวทางการพัฒนาการเป็นศูนย์กลางกัญชาโลกในรูปแบบโลกเสมือนจริง (Metaverse)

มอบหมายให้ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สำนักงานเขตสุขภาพที่ 8 สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) พัฒนาต้นแบบธุรกิจ Cannabis Digital Asset ที่ช่วยให้ประชาชนเข้าถึงธุรกิจกัญชาและกัญชงได้อย่างครบวงจรด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลของโลกเสมือนจริง

สธ.

4. ปักหมุดบริการรักษาพยาบาลเฉพาะทางขั้นสูง (World Class Super Center) ได้แก่ จัดตั้งโรงพยาบาลเฉพาะทางขั้นสูงเพื่อการรักษาโรคมะเร็ง นำร่องในอมตะซิตี้ จังหวัดชลบุรี

ในการดำเนินงาน มอบหมายให้จัดทำรายละเอียดเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี พร้อมทั้งเตรียมการจัดตั้งโรงพยาบาลศูนย์มะเร็งอุดรธานีที่เป็นความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ

5. ปักหมุดให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการเรียนการสอนทางการแพทย์ โดยการเพิ่มกำลังการผลิตแพทย์รองรับนโยบาย Medical Hub ทั้งหลักสูตรแพทยศาสตร์นานาชาติ และหลักสูตรการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก

สำหรับขั้นตอนการดำเนินการหลังจากนี้ บอร์ด Medical Hub จะมีการติดตามความก้าวหน้าของการดำเนินงานทั้ง 5 เรื่องเป็นระยะ เพื่อให้เป็นไปตามแผนที่กำหนด และหากมีปัญหาติดขัดตรงจุดใดจะได้สามารถแก้ไขได้ทันท่วงที

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังรับทราบ 2 ประเด็นสำคัญที่จะเสนอคณะรัฐมนตรี ได้แก่

  • ขอความเห็นชอบแผนการดำเนินงานและกรอบงบประมาณการจัดงาน Expo 2025 Osaka Kansai จำนวน 999,460,861 บาท
  • ขอแก้ไขมติคณะรัฐมนตรีในการตรวจลงตราเพื่อการรักษาพยาบาล ระยะเวลา 1 ปี (Medical Treatment Visa) รหัส Non-MT ให้คงอัตราค่าธรรมเนียมจาก 6,000 บาท เป็น 5,000 บาท

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo