วัดนครอินทร์ ตั้งอยู่เลขที่ 269 หมู่ที่ 6 ถนนพิบูลสงคราม ตำบลสวนใหญ่ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย เดิม วัดนครอินทร์ เป็นวัดร้างมีสภาพเก่าแก่และทรุดโทรมมาก ตามคำบอกเล่าและหลักฐานทางโบราณวัตถุ สันนิษฐานได้ว่าวัดนี้สร้างขึ้นมาราวสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย แรกเริ่มเดิมทีเป็นเพียงที่พักสงฆ์ ที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของคลองบางขุนเทียน มีหลักฐานที่ยังปรากฏอยู่ คือ กุฏิสงฆ์ และศาลาท่าน้ำริมคลองบางขุนเทียน ซึ่งผุพังเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา
นอกจากนี้ ยังได้พบพระพุทธรูปศิลาแลงปางนาคปรก และพระพุทธรูปหินแกะสลักตามแบบสุโขทัยและอยุธยา โดยพระพุทธรูปศิลาแลงปางนาคปรกนั้น ปัจจุบันประดิษฐานไว้ภายในวิหารด้านข้างอุโบสถ สภาพแวดล้อมโดยทั่วไปของวัดนครอินทร์ในอดีต จากคำบอกเล่ากล่าวกันว่าสมัยก่อนบริเวณวัดนครอินทร์นั้น พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นสวนที่เต็มไปด้วยผลไม้นานาชนิด เช่น ส้มโอ, กล้วย, มะม่วง, มะนาว, ทุเรียน และต้นไม้ใหญ่มากมายอาทิ เช่น ต้นยางป่า, ต้นไทร และต้นโพธิ์ ทำให้บริเวณวัดมีความสงบร่มรื่น
จากการศึกษาข้อมูลเอกสาร ตามประวัติศาสตร์ก่อนการเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 ในสมัยของพระเจ้าเอกทัศน์ บริเวณซึ่งเป็นสถานที่ตั้งวัดนครอินทร์ในปัจจุบันนี้ สันนิษฐานว่าเคยเป็นที่ตั้งค่ายทหารเพื่อรับทัพของข้าศึก เช่นเดียวกับบริเวณวัดเขมาภิรตาราม และวัดบางขวาง ซึ่งเป็นที่ตั้งของกองทหารจากกธนบุรีบางส่วน ค่ายวัดเขมาภิรตารามและค่ายวัดบางขวาง ถือเป็นปราการด่านสำคัญ
แหล่งข้อมูลบางแหล่งกล่าวว่า นายอินทร์ และนางนคร เป็นผู้ถวายที่ดินและดำเนินการสร้างวัดนครอินทร์ เดิมวัดนี้มีชื่อว่า วัดบางขุนเทียน เนื่องจากตั้งอยู่ริมคลองบางขุนเทียน ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น วัดใหม่นครอินทร์ (และต่อมาเรียกว่า “วัดนครอินทร์”) เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้บริจาคที่ดินให้สร้างวัด ในขณะที่แหล่งข้อมูลบางแหล่งระบุว่า ผู้สร้างวัดนครอินทร์เป็นชาวมอญชื่อมะโดดหรือมะซอนซึ่งเข้ามารับราชการในช่วงต้นสมัยสมเด็จ
พระเจ้าตากสินมหาราช เป็นนายกองรามัญ กรมอาษาทะมาตย์ กล่าวขานกันว่าเป็นทหารคู่พระทัยอีกคนหนึ่งของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น นายมะโดด ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น แล้วเลื่อนเป็นเจ้าพระยารามจตุรงค์ หรือบางแห่งก็เรียกว่าพระยารามัญวงษ์ จากหลักฐานทางโบราณวัตถุ สันนิษฐานกันว่าวัดนครอินทร์น่าจะสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย แรกเริ่มเดิมทีคงเป็นเพียงที่พักสงฆ์ที่ตั้งอยู่ทางฝั่งเหนือของคลองบางขุนเทียน
มีหลักฐานที่ยังปรากฏอยู่คือ กุฏิสงฆ์และศาลาท่าน้ำริมคลองบางขุนเทียนซึ่งผุพังเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา ยังพบพระพุทธรูปศิลาแลงปางนาคปรกและพระพุทธรูปหินแกะสลักตามแบบสุโขทัยและอยุธยา โดยพระพุทธรูปศิลาแลงปางนาคปรกนั้นในปัจจุบันประดิษฐานอยู่ภายในวิหารด้านข้างอุโบสถ วัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2360 เขตวิสุงคามสีมากว้าง 27 เมตร ยาว 41 เมตร และได้ผูกพัทธสีมาเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2370
อุโบสถสร้างเมื่อ พ.ศ. 2376 เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ภายในมีพระประธานเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 80 นิ้ว สูง 130 นิ้ว สร้างเมื่อ พ.ศ. 2376 เล่ากันว่าได้สร้างขึ้นจากองค์เดิมที่เป็นพระพุทธรูปศิลาแลงที่ได้อัญเชิญมาจากกรุงศรีอยุธยา พร้อมกับชาวมอญที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในเขตชุมชนตลาดขวัญและตลาดแก้ว ในสมัยสมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์ ชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อดำ ด้วยเหตุที่ครั้งหนึ่งชาวบ้านเผาสวนแล้วไฟเกิดลามมาไหม้ ถึงกระนั้นองค์พระก็ยังคงสมบูรณ์เหมือนเดิมทุกประการ มีเพียงรอยดำอยู่บ้างเท่านั้น
ศาลาการเปรียญสร้างเมื่อ พ.ศ. 2370 เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กทรงไทย 2 ชั้น หอสวดมนต์สร้างเมื่อ พ.ศ. 2475 เป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ 2 ชั้น กุฏิสงฆ์เป็นอาคารไม้และและอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก วิหารสร้างเมื่อ พ.ศ. 2376 ศาลาบำเพ็ญกุศลสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ศุกร์ (สุข) ละวัด ท่องแดน ‘นรก-สวรรค์’ วัดป่าหลักร้อย
- ศุกร์ (สุข) ละวัด : วัดท่าไม้ วัดดังสายมู!!
- ศุกร์ (สุข) ละวัด กราบ ‘หลวงพ่อบุษราคัม’ วัดกำแพงบางจาก