มิจฉาชีพทำทียืนอยู่แถวตู้ ATM อ้างกดเงินไม่เป็น หลอกเหยื่อให้กดเงินจากบัญชีม้า สุดท้ายเป็นแพะรับบาป
เตือนภัยประชาชนที่ไปทำธุรกรรมการเงินต่างๆ ที่ธนาคาร หรือตู้ ATM ทั้งหลาย ขณะนี้มีแก๊งบัญชีม้าจะยืนอยู่แถวตู้ ATM พอมีเหยื่อมา คนร้ายจะยื่นบัตร ATM ให้เราช่วยกดเงิน โดยแจ้งว่ากดไม่เป็น และให้เราเป็นคนกดเงินให้ โดยคนร้ายจะยืนรออยู่ข้างนอก เมื่อเราเข้าไปกด ใบหน้าเราจะถูกกล้องจับว่าเป็นคนกดเงินบัญชีม้า และพอคนร้ายได้เงินมันก็เดินจากไป แต่อีกไม่ถึงอาทิตย์ เหยื่อกลับถูกออกหมายเรียก ในฐานะคนกดบัญชีม้า และกลายเป็นผู้รับผิดแทน โดยขั้นตอนการหลอกลวง มีดังนี้
- แก๊งบัญชีม้าจะยืนอยู่แถวตู้ ATM
- มิจฉาชีพจะยื่นบัตร ATM ให้เหยื่อช่วยกดเงินให้ โดยอ้างว่า กดไม่เป็น
- เมื่อเหยื่อเข้าไปกด กล้องจะจับหน้าเหยื่อว่ากดเงินจากบัญชีม้า
- เมื่อมิจฉาชีพได้เงิน ก็เดินจากไป
- เวลาผ่านไปไม่ถึงอาทิตย์ เหยื่อถูกออกหมายเรียกในฐานะ “คนกดเงินบัญชีม้า”
สำหรับ “บัญชีม้า” เป็นบัญชีเงินฝากธนาคารของบุคคลอื่น ที่นำมาใช้เป็นช่องทางการทำธุรกรรมทางการเงิน เช่น การถ่ายโอนเงิน การรับเงินการโอนเงิน ซึ่งเงินที่ได้มาจากการกระทำผิด จุดประสงค์การเปิดบัญชีม้าคือ เพื่อป้องกันไม่ให้มีพยานหลักฐานเชื่อมโยงมาถึงตัวผู้กระทำผิดได้
ค่าจ้างราคา 800 บาท จนถึง 20,000 บาท
การเปิดบัญชีม้าในปัจจุบันเป็นการจ้างให้บุคคลอื่นมาเปิดบัญชีแทน หรือรับซื้อบัญชีเงินฝากธนาคารของบุคคลทั่วไป มีการขายบัญชีเงินฝากธนาคารอย่างเปิดเผย ตั้งแต่ราคา 800 บาท จนถึง 20,000 บาท โดยผู้ที่จะขายบัญชีม้าจะต้องมีการส่งมอบเอกสาร เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ซิมการ์ดโทรศัพท์ เพื่อให้สามารถนำข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของบัญชีไปผูกกับ mobile banking และทำธุรกรรมออนไลน์ได้ทันที
ปัจจุบันบัญชีม้าถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้นในการกระทำความผิดที่เกี่ยวกับการฉ้อโกง การพนัน ยาเสพติด และความผิดอื่นๆ กรณีที่พบเห็นมากที่สุด คือ การหลอกให้กู้ยืมเงินผ่านแอปพลิเคชันเงินกู้ต่างๆ และผ่านช่องทางแอปพลิเคชันไลน์ รวมไปถึงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่โทรศัพท์มาหลอกลวง หว่านล้อมให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ และทำการโอนเงินไปยังบัญชีม้าของมิจฉาชีพ
โทษหนัก ทั้งปรับและจำคุก
พระราชกำหนด มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ระบุว่า เจ้าของบัญชีม้า หรือเบอร์ม้า ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงผู้ที่เป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ บัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนเลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 – 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 200,000 – 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขอบคุณข้อมูล สมาคมธนาคารแห่งประเทศไทย , สืบนครบาล IDMB
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘เศรษฐา’ สั่งเร่งรัดโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 สร้างเชื่อมั่นนักลงทุน!
- เตือนแล้วนะ! รับจ้างเปิด ‘บัญชีม้า’ โทษอ่วม โดนปรับ-จำคุก
- ข้อมูลมั่ว! กรมการปกครอง แจงชุดปฏิบัติการไม่ได้เลี้ยงฉลอง