สยามพารากอน ชวนสัมผัสสุดยอดประสบการณ์ “Interactive Digital Art” สร้างสรรค์โดยศิลปินดิจิทัลอาร์ตชื่อดัง “มิเกล เชอวาลิเยร์” บนพื้นที่ SCBX NEXT TECH
สยามพารากอน สร้างปรากฏการณ์ศิลปะครั้งยิ่งใหญ่ โดยได้รับเกียรติจากศิลปินดิจิตัลอาร์ตระดับโลก มิเกล เชอวาลิเยร์ (Miguel Chevalier) ผู้บุกเบิกและคลุกคลีกับงานดิจิทัลอาร์ตมากว่า 40 ปี ร่วม CO-CREATION สร้างประสบการณ์อินเตอร์แอคทีฟในรูปแบบ Art Tech อันน่าตื่นตาตื่นใจ ออกแบบผลงาน
สุดพิเศษเพื่อนำเสนอบนพื้นที่โซน SCBX NEXT TECH พร้อมให้เกียรติร่วมแบ่งปันและแลกเปลี่ยนประสบการณ์อันล้ำค่าแก่คนรุ่นใหม่และผู้สนใจดิจิทัลอาร์ต เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และสร้างแรงบันดาลใจ
ในการเป็นศิลปินดิจิทัลแห่งอนาคต ในกิจกรรม “Digital Art Talk With Miguel Chevalier” ในวันพุธที่ 20 กันยายน 2566 เวลา 13.00 -15.00 น. ณ SCBX NEXT TECH ชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามพารากอน
SCBX NEXT TECH เป็นเทคคอมมูนิตี้แห่งโลกอนาคต
อมัจจ์ สมบูรณ์เจริญ นักยุทธศาสตร์ด้านนวัตกรรมธุรกิจ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า “SCBX NEXT TECH” เป็นเทคคอมมูนิตี้แห่งโลกอนาคต บนชั้น 4 ของศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยความร่วมมือระหว่าง SCBX และพาร์ทเนอร์ระดับโลกอีกมากมาย เพื่อให้เป็น Co – Creation Community
พร้อมเปิดพื้นที่ให้เป็นแหล่งเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของทั้งนักเรียน นักศึกษา คนรุ่นใหม่ ตลอดจนผู้สนใจได้เข้าร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ พัฒนาตนเอง เพื่อ “Smarter , Better , Richer” โดยตั้งเป้าหมายให้เป็นหนึ่งในเดสติเนชั่นที่ผู้คนที่สนใจในด้านเทคทุกแขนงจากทั่วโลกต้องการมาเยือน
หนึ่งในแขนงเทคโนโลยีที่มีความสำคัญและได้รับความนิยมจากผู้คนทั่วโลกได้แก่ Digital Arts สยามพารากอนได้รับเกียรติจาก มร.มิเกล เชอวาลิเยร์ (Miguel Chevalier) ศิลปินดิจิตัลอาร์ตระดับโลก มาร่วมสร้างสรรค์สุดยอด Interactive Digital Art ที่เป็นครั้งแรกสำหรับเขาที่เกิดขึ้นบนกำแพงจอ LED
เนื่องจากที่ผ่านมาผลงานของคุณมิเกล จะเป็น Projection Mapping บนพื้นหรือผนังอาคาร ซึ่งรับรองว่าจะสร้างความตื่นตาตื่นใจ และเติมเต็มประสบการณ์ใหม่ๆ ให้แก่ผู้ชมได้อย่างแน่นอน
Interactive Digital Art จากศิลปินดิจิตัลอาร์ตชาวฝรั่งเศส
มร.มิเกล เชอวาลิเยร์ ศิลปินดิจิตัลอาร์ตชาวฝรั่งเศส กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับสยามพิวรรธน์อีกครั้ง ซึ่งการร่วมงานในครั้งนี้นับว่าพิเศษเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นครั้งแรกของผม ที่จะนำเสนอผลงานบนกำแพงจอ LED และจอทรงกลม ซึ่งออกแบบมาสำหรับสยามพารากอนโดยเฉพาะ
โดยได้สร้างสรรค์และพัฒนาต่อยอดผลงานใหม่ขึ้น 2 ชิ้น คือ Vortex และ Kinetic Waves สองผลงานดิจิทัลอาร์ตที่ไม่เพียงมาพร้อมภาพเสมือน (Virtual Paintings) ที่มีรูปทรง เส้นสาย และสีสันสดใสเท่านั้น หากแต่ยังเชื้อเชิญให้ผู้ชมมีส่วนร่วมไปกับการสร้างสรรรค์และดัดแปลงผลงานขึ้นใหม่ ก่อให้เกิดสุดยอดประสบการณ์การชม Art Tech แบบอินเตอร์แอคทีฟชนิดเรียลไทม์
2 ผลงานศิลปะรูปแบบใหม่
ผลงาน Vortex เป็นงานศิลปะในรูปแบบ Generative Art ที่ใช้พลังของคอมพิวเตอร์ในการสร้างสรรค์ผลงานอย่างไม่สิ้นสุดแล้วทำภาพที่ออกมาจะไม่เคยเหมือนกัน โดย Vortex ถือเป็นความท้าทายครั้งใหม่ เพราะเป็นครั้งแรกที่ผมนำเสนอผลงานบนหน้าจอ LED ทรงกลมขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกับ คลอด มิเชลลี (Claude Micheli) นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์เป็นเวลาหลายปีในการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีความพิเศษนี้ขึ้น
ขณะที่ผลงานชุด Kinetic Waves เป็นงานศิลปะในรูปแบบ Interactive Virtual Reality ก็มีความท้าทายที่แตกต่างกันไป นั่นคือการสร้างปฏิสัมพันธ์ที่มีความลื่นไหล เชื้อเชิญให้ผู้ชมมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์และดัดแปลงภาพเสมือนจริงขึ้นใหม่ ผ่านการเคลื่อนไหวของร่างกาย ซึ่งการสรรหาพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับผลงาน
ดิจิทัลอาร์ตที่เปิดโอกาสให้ผู้ชมมีส่วนร่วมเช่นนี้ คือความท้าทายหลักของผลงานชิ้นนี้ และสถานที่ที่เป็นเอกลักษณ์อย่าง SCBX NEXT TECH ก็ช่วยขยายขอบเขตความเป็นไปได้ของการนำเสนอศิลปะให้สามารถเข้าถึงผู้ชมได้อย่างยอดเยี่ยม
สำหรับรูปแบบของ Vortex ซึ่งนำเสนอผ่านจอทรงกลมเป็นครั้งแรกนี้ มีลักษณะเป็นเส้นแสงที่ลื่นไหลและหมุนวนไหลเวียนอย่างต่อเนื่องตลอดวงแหวน จนดูเหมือนจะหลุดออกมาจากหน้าจอ เพื่อแผ่พลังงานที่สว่างไสวและมีชีวิตชีวา ศิลปกรรมที่เคลื่อนไหวนี้ เชื้อเชิญให้ใคร่ครวญถึงความงดงามและความซับซ้อนของกระแสที่มองไม่เห็น ซึ่งกำหนดทิศทางโลกของเรา ขณะเดียวกันก็ย้ำเตือนให้ตระหนักถึงที่ทางของเรา ซึ่งอยู่ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงอันไม่มีวันสิ้นสุด
ขณะที่ Kinetic Waves คือการผสมผสานระหว่างศิลปกรรมที่เคลื่อนไหวได้ (Kinetic Art) และศิลปะลวงตา (Optical Art หรือ Op’art) โดยศิลปินได้สร้างภาพเสมือนจากรูปทรงเรขาคณิต (Virtual Geometric Grids) ที่แตกต่างกันถึง 32 แบบ จัดเรียงและให้สีโทนสว่างที่ตัดกัน พร้อมเอฟเฟกต์ที่ทำให้รู้สึกถึงความลึกและความนูน องค์ประกอบที่ดูเหมือนเคลื่อนไหวตลอดเวลานี้ ก่อให้เกิดภาพลวงตาขึ้น และเมื่อผสานกับการนำเสนอแบบ Interactive ภาพความเคลื่อนไหวก็ชวนให้ตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น
ความพิเศษยิ่งไปกว่านั้นซึ่งจะเปิดประสบการณ์ใหม่ของการชมอาร์ตเทคให้แก่ผู้ชมก็คือ การมีส่วนร่วมในกระบวนการสร้างสรรค์และดัดแปลงผลงานผ่านการเคลื่อนไหวของผู้ชมทั่วบริเวณตั้งแต่บันไดทางเดินไปจนถึงหน้าจอชั้น 5 ทำให้ผลงาน Digital Art ชิ้นนี้ ผู้ชมได้ร่วม Co-create กับผลงานของศิลปินระดับโลก ที่เกิดขึ้นเป็นมิติภาพที่แตกต่างกันตลอดเวลา
ประสบการณ์แปลกใหม่ทางด้านศิลปะ
มร.มิเกล กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลงานดิจิตัลอาร์ตเสมือนจริงที่จัดแสดง ณ SCBX NEXT TECH นี้ จะมอบประสบการณ์แปลกใหม่ทางด้านศิลปะที่ผู้คนไม่เคยสัมผัสมาก่อน เป็นงานที่เปี่ยมด้วยสีสันสดใสและความสนุกสนาน ช่วยสร้างอารมณ์ร่วมในเชิงบวก และนำพาผู้ชมไปสู่โลกแห่งเวทมนตร์ที่แสนมหัศจรรย์ ผ่านการมีส่วนร่วมอันน่าตื่นตาตื่นใจด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ซึ่งเป็นปฏิสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เปิดโอกาสให้ผู้ชมได้สนุกไปกับรูปแบบอันไม่จำกัดของโลกศิลปะ
ทั้งนี้ที่ผ่านมา มร.มิเกล เคยสร้างปรากฏการณ์และความตื่นตาตื่นใจกับผลงานดิจิทัลอาร์ตระดับโลกมาแล้วมากมาย อาทิ META-NATURE AI ในปี 2023 ที่ประเทศเกาหลีใต้, A L’INFINI ปี 2023 ประเทศฝรั่งเศส, Digi EXTRA-NATURAL 2023 ณ ประเทศเยอรมนี และ DIGITAL MOIRÉS 2022 ประเทศลักเซมเบิร์ก
รวมถึง Magic Carpets ในงาน “Bangkok Illumination by MIGUEL CHEVALIER” เมื่อปี 2018 ณ ไอคอนสยาม ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และความน่าสนใจของผลงานโดยมิเกลในครั้งใหม่นี้ ถือเป็นความท้าทายใหม่ที่ได้จัดแสดงผลงาน ณ SCBX NEXT TECH ชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามพารากอน
ร่วมสัมผัสผลงานอินเตอร์แอคทีฟเหนือระดับครั้งแรกของโลก สร้างสรรค์โดยศิลปินดิจิตัลอาร์ตชื่อดัง “มิเกล เชอวาลิเยร์” บนพื้นที่ SCBX NEXT TECH ชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามพารากอนติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : SIAMPARAGON และ SCBXNextTech
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สยามพาsากอน ปักหมุด ‘LUXURY WATCH DESTINATION’ ศูนย์รวมแบรนด์นาฬิการะดับโลก มากสุดในไทย
- ‘สยามพาsากอน’ เปิด ‘SCBX NEXT TECH’ สัมผัสจิตวิญญาณ “มิเกล เชอวาลิเยร์” ศิลปินดิจิทัลอาร์ตระดับโลก
- สุดยอดศูนย์การค้าแห่งปี ‘สยามพิวรรธน์’ คว้า 3 รางวัลใหญ่ระดับโลกจาก Retail Asia