‘ทาสเหมียวมือใหม่’ ต้องจ่ายเท่าไหร่? มาหาคำตอบไปพร้อมกันเลย!!
ช่วงหลายปีที่ผ่านมา กระแสที่เริ่มก่อตัวขึ้นอย่าง Pet Humanization เริ่มมีให้เห็นมากขึ้น และเห็นได้ชัดในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่ทุกคนต้องเก็บตัวอยู่กับบ้าน การเลี้ยงสัตว์เป็นเพื่อนคลายเหงา จึงเป็นทางเลือกที่สำคัญ
การได้เห็นสัตว์เลี้ยงตัวโปรดวิ่งเล่น หรือเข้ามาอ้อน ทำให้เจ้าของผ่อนคลาย ลดความเหนื่อยล้า เมื่อได้อยู่กับสัตว์เลี้ยงนานๆ ทำให้เกิดความผูกพัน และไม่ได้มองเป็นเพียงสัตว์เลี้ยง แต่เป็นเสมือนสมาชิกคนในครอบครัวไปแล้ว
หลายคนยอมตกเป็นทาสแมว
และ ‘แมว’ ก็เป็นตัวเลือกต้นๆ ที่ผู้คนเทใจหามาดูแล ด้วยความน่ารัก ขนฟูนุ่มมือ หน้าตาแป๋วแหว๋ว ขี้อ้อน ทำให้หลายคน ตกเป็น ‘ทาสเมว’ โดยไม่รู้ตัว
ข้อมูลจาก Morgan Stanley Research ระบุว่า 70% ของเจ้าของสัตว์เลี้ยงในปัจจุบันให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงของตัวเองเสมือนเป็นสมาชิกในครอบครัว 66% มีความรักความผูกพันกับสัตว์เลี้ยงมาก ขณะที่ 37% ของเจ้าของยอมที่จะจ่ายเงินสำหรับสิ่งของที่ต้องการนำมาให้กับสัตว์เลี้ยงของตนเอง
ความผูกพันที่มีต่อสัตว์เลี่ยง ทำให้เจ้าของยอมควักจ่ายสำหรับสินค้าและบริการ เพื่อให้สัตว์เลี้ยงมีความสุข เพราะนั่นคือความสุขของเจ้าของด้วย
ดังนั้น จึงเกิดมีสินค้าและการบริการรูปแบบใหม่ๆ อย่างมากมาย อาทิ ในกลุ่มสินค้า เช่น ของเล่น อาหาร วิตามิน กลุ่มการบริการ เช่น โรงแรมสัตว์เลี้ยง ศูนย์กายภาพบำบัด หรือบริษัทรับจัดฌาปนกิจ ในคราวที่สัตว์เลี้ยงกลับ ‘ดาวแมว’ และปัจจุบันในบางวัดมีฌาปนสถานสำรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะเลยทีเดียว
‘ทาสเหมียวมือใหม่’ ต้องจ่ายเท่าไหร่?
คำถามคือ หากเราคิดจะเป็น ‘ทาสเมว’ เราจะต้องเตรียมงบประมาณไว้เท่าไหร่?
เสี้ยงน้องแมวสักตัว ต้องใช้เงินเท่าไหร่ มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง เจ้าของต้องรู้ ในที่นี้จะเน้นค่าใช้จ่ายหลักๆ ที่จำเป็น และอยู่ในระดับธรรมดาเท่านั้น
- ค่าอาหารเม็ด ราคาอาหารเม็ดมีตั้งแต่เกรดทั่วไป เกรดพรีเมี่ยม จนถึงเกรดโฮลิสติก ซึ่งเกรดโฮลิสติกจะมีราคาสูงกว่านี้มากเพราะใช้วัตถุดิบเทียบเท่าอาหารคน และก็มีอยู่หลากหลายแบรนด์ เริ่มต้นที่เดือนละประมาณ 300 บาท หรือประมาณ 4,000 บาทต่อปี
ค่าอาหารเปียก อาหารเปียกก็มีหลายเกรด หลากหลายแบรนด์เช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่เจ้าของก็จะให้สลับอาหารเม็ด สับเปลี่ยนรสชาติ ตกปีละ 2,000 บาท
- ค่าวัคซีน การฉีดวัคซีนแมวจำเป็นมาก เพราะจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโรคต่างๆ เช่น โรคพิษสุนัขบ้า ไข้หัดแมว โดยหากเป็นแมวเด็ก ในช่วงปีแรกอาจจะต้องจ่ายค่าวัคซีนที่ต้องฉีดตามอายุและค่าตรวจสุขภาพ รวมประมาณ 3,000 บาท แต่เมื่อพ้นวัยเด็กจะเสียค่าฉีดวัคซีนปีละประมาณ 1,500 บาท ไม่รวมค่าหยอดยากำจัดเห็บหมัด ที่ต้องหยอดทุก 3 เดือน
- ค่าทรายแมว เป็นสิ่งสำคัญมากเช่นกัน เพราะนอกจากจะหมายถึงสุขอนามัยของแมวแล้ว ยังเกี่ยวเนื่องกับสุขอนามัยของเจ้าของผู้เลี้ยง รวมไปถึงกลิ่นที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
เริ่มจากกะบะทรายก่อน หากจะประหยัดก็หาถาด กะละมังที่ใช้แล้วภายในบ้านมาใช้แทน หรือจะซื้อราคาถูกจากตลาดก็ราคา 50-100 บาท ส่วนทรายแมวก็จำเป็นต้องเปลี่ยนเมื่อใช้ไประยะหนึ่ง ซึ่งจะตกราว 2,000 บาทต่อปี
- วิตามิน , ขนม เพื่อสุขภาพที่ดีของน้องแมว เจ้าของอาจจะหาวิตามินเพื่อบำรุงน้อง เช่น วิตามินบำรุงร่างกาย วิตามินบำรุงขน บำรุงฟัน รวมไปถึงขนมเพื่อให้เป็นรางวัล คร่าวๆ ราว 2,200 บาท
- ของเล่น และ อุปกรณ์อื่นๆ เช่น แปรงขนแมว กรรไกรตัดเล็บ อุปกรณ์อาบน้ำ ซึ่งอุปกรณ์หลายๆ อย่าง จะสามารถใช้ระยะยาวได้หลายปี ค่าใช่จ่ายส่วนนี้ จะอยู่ที่ 2,000 – 2,500 บาทต่อปี
อย่างที่บอกแล้วว่า ทั้งหมดนี้จะเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นและเป็นราคาเริ่มต้นเท่านั้น ซึ่งจะตกราว 14,200 บาทต่อปี ซึ่งไม่ร่วมค่าทำหมัน ค่ารักษาพยาบาล ฯลฯ หรือหากเจ้าของน้องแมวอยากได้อะไรเสริมก็ต้องเพิ่มงบขึ้นไปอีก
อ้อ! และยังไม่รวมค่าตัวน้องแมว ที่อาจจะมีตั้งแต่หลักพัน ไปจนถึงหลักหมื่น และเรื่อยไปจนถึงหลักแสนบาท ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และความหายาก
พิจารณาให้ดีก่อนจะเป็นทาสเหมียวมือใหม่
แต่ก่อนจะเลี้ยงน้องแมว เราต้องคิดก่อนว่าเรารักและต้องการดูแลน้องไปจนตลอดชีวิตได้ไหม? ศึกษาสายพันธุ์แมวที่เราต้องการเลี้ยงก่อน เพื่อให้เข้าใจลักษณะนิสัย เพราะอาจจะเกิดปัญหาตามมาในภายหลัง
ที่สำคัญ ต้องคำนึงของเศรษฐกิจของเราว่าพร้อมจะดูแลน้องหรือไม่ หากพิจารณาแล้วว่าผ่าน ก็จัดเลย!!
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- อัพเทรนด์ ‘โซเชียลมีเดีย 2566’ มีอะไรใหม่ใน Facebook , Tiktok , Instagram และ Twitter
- เพิ่มอัตรา ‘ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง’ เต็มเพดาน ควบคู่กฎหมายผังเมือง ดัดหลังแลนด์ลอร์ด-เพิ่มรายได้ให้ กทม.
- พร้อมไหม ที่จะใช้ ‘รถยนต์ไฟฟ้า?’ หลากหลายมาตรการภาครัฐ ปักหมุดศูนย์กลางการผลิตของภูมิภาค
