‘ลาว’ ทุ่ม 2 พันล้านดอลล์ สร้าง ‘โครงการพลังงานลม’ ใหญ่สุดในประเทศ มุ่งหน้าสู่ ‘พลังงานสะอาด’

โดย The Bangkok Insight Editorial Team 26 กุมภาพันธ์ 2567

รัฐบาลลาวอนุมัติการพัฒนาโครงการพลังงานลม ขนาด 1,200 เมกะวัตต์ มูลค่า 2,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะเป็นโครงการพลังงานลมขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ และถือเป็นหมุดหมายสำคัญในการส่งเสริมพลังงานสะอาด และการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ

รัฐบาลลาวลงนามข้อตกลงกับบริษัท สะหวัน วายู รีนิวเอเบิล เอนเนอร์จี จำกัด (SVARE) เพื่อดำเนินการพัฒนาโครงการดังกล่าวในแขวงสะหวันนะเขต ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากนครหลวงเวียงจันทน์ของลาวประมาณ 400 กิโลเมตร

โครงการนี้ ที่ใช้เงินลงทุนราว 2,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 72,000 ล้านบาท จะเป็นฟาร์มกังหันลมขนาดใหญ่ที่สุดของลาว ทั้งยังเป็นก้าวสำคัญของประเทศ ในการมุ่งหน้าสู่พลังงานสะอาด และการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยคาดว่าจะผลิตไฟฟ้าได้เพียงพอต่อความต้องการพลังงานของลาว และมีส่วนสนับสนุนความมั่นคงทางพลังงานของภูมิภาค รวมถึงเป็นตัวกระตุ้นพลังงานหมุนเวียนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้ชายแดนลาว-เวียดนาม

คาดว่าฟาร์มกังหันลมดังกล่าว จะเปิดดำเนินการได้ภายในต้นปี 2569 ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนของลาวอย่างมีนัยสำคัญ และสนับสนุนเป้าหมายในการบรรลุเป้าหมายพลังงานหมุนเวียนภายในปี 2573

การเคลื่อนไหวดังกล่าว ยังเกิดขึ้นหลังในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ลาวได้ลงนามโครงการพลังงานทดแทนหลายโครงการกับพันธมิตรด้านการพัฒนา ภายใต้นโยบายพลังงานที่มุ่งเน้นการส่งออก และคาดว่าจะกลายเป็นซัพพลายเออร์พลังงานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในไม่ช้า ผ่านการเพิ่มการส่งออกไฟฟ้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และเสริมสร้างการพัฒนาพลังงานสะอาดอื่น ๆ

ข้อมูลจากกระทรวงพลังงานและเหมืองแร่ของลาว ที่เผยแพร่เมื่อปลายปี 2566 แสดงให้เห็นว่า ปัจจุบัน ลาวมีโรงไฟฟ้า 94 แห่ง ซึ่งมีกำลังการผลิตติดตั้งรวมมากกว่า 11,600 เมกะวัตต์ รวมถึงโรงไฟฟ้าพลังน้ำ 81 แห่ง

ปัจจุบัน ประมาณ 80% ของไฟฟ้าที่ผลิตในลาวขายให้กับประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ ไทย จีน เมียนมา เวียดนาม กัมพูชา และสิงคโปร์ ซึ่งไทยและเวียดนามเป็นตลาดนำเข้าไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุด 2 แห่งของลาว