Environmental Sustainability

ผู้ประกอบการต้องปรับ รับการแข่งขัน ‘เศรษฐกิจสีเขียว’ สู่การแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมยั่งยืน

ผู้ประกอบการต้องปรับ รับการแข่งขัน และการเปลี่ยนผ่าน “เศรษฐกิจสีเขียว” สู่การแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

อุตุนิยมวิทยาโลก ระบุว่า อุณหภูมิโลกในเดือนกันยายน 2023 (พ.ศ.2566) ทำลายสถิติร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ สูงกว่าสถิติสูงสุดที่เคยมีมาอย่างมาก โดยร้อนกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของเดือนกันยายน ตั้งแต่ปี 1991-2020 ถึง 0.93 องศาเซลเซียส และสูงกว่าสถิติเดิมในปี 2020 กว่า 0.5 องศาเซลเซียส

โดยผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า เหตุที่อุณหภูมิสูงขึ้นเกิดจากการปล่อยก๊าซที่ทำให้โลกร้อนอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับปรากฏการณ์เอลนีโญก็มีส่วนทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นอย่างมากในปีนี้ด้วยเช่นกัน ขณะที่นักวิทยาศาสตร์บางส่วนระบุว่า อุณหภูมิปี 2023 กำลังอยู่บนเส้นทางของการกลายเป็นปีที่อุณหภูมิโลกสูงที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกสถิติมา

เศรษฐกิจสีเขียว

เปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียว แก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมยั่งยืน

อุณหภูมิที่สูงขึ้น ตอกย้ำให้ทุกประเทศต้องเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจสีเขียวมากขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ขณะที่ประเทศไทยได้ตั้งเป้าหมายมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายในปี 2065

ผ่านการดำเนินงาน เช่น สนับสนุนการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเชียว ทั้งด้านการผลิตและการบริโภคที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการสนับสนุนด้านการจัดหาเงินทุนและสิทธิประโยชน์สำหรับการลงทุนเพื่อช่วยเอื้อให้ภาคเอกชนสามารถปรับตัวสู่เศรษฐกิจสีเขียวได้อย่างราบรื่น

ดร.กิ่งกาญจน์ เกษศิริ ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่า  จากการพูดคุยกับผู้ประกอบการ ในโครงการ Business Liaison Program ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พบว่า ภาคการผลิตและธุรกิจขนส่ง ซึ่งเป็นส่วนที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงกว่าส่วนอื่นๆ ต่างปรับตัวรับกระแสเศรษฐกิจสีเขียวมากขึ้น

เศรษฐกิจสีเขียว

ผู้ประกอบการต้องปรับรับการแข่งขัน สู่เศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

รวมถึงคู่ค้าหลายประเทศเริ่มออกกฎหมายบังคับใช้เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น มาตรการ Carbon Border Adjustment Mechanism (CBAM) ของสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นแรงกดดันให้ธุรกิจหันมาปรับปรุงกระบวนการผลิตให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพื่อที่จะสามารถแข่งขันได้ในตลาดยุโรป นอกจากนี้ ต้นทุนด้านเชื้อเพลิงและพลังงานที่สูงขึ้น ทำให้ธุรกิจต้องปรับตัวไปใช้พลังงานทางเลือกมากขึ้นเพื่อลดต้นทุนดังกล่าวด้วย

ปัจจุบันหลายบริษัทประกาศเป้าหมายการลดคาร์บอนอย่างชัดเจน โดยเห็นการลงทุนติดตั้งแผงโซล่าเซลล์และสร้างโรงงานที่ใช้พลังงานแบบผสมผสาน (hybrid power plant) ภายในอาคารและโรงงานมากขึ้น และในระยะข้างหน้า ภาคธุรกิจมีแนวโน้มจะลงทุนสร้างระบบกักเก็บพลังงาน (energy storage) เพิ่มเติมหากต้นทุนแบตเตอรี่ถูกลง แต่บางแห่งพบอุปสรรคในการปรับตัว เช่น มีสัญญาซื้อไฟฟ้าระยะยาว ทำให้ไม่สามารถเปลี่ยนมาลงทุนพลังงานทางเลือกได้ทันที

เศรษฐกิจสีเขียว

สำหรับบางบริษัทที่ไม่ได้ลงทุนติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ แต่มีความใส่ใจในการลดปัญหาสิ่งแวดล้อม ก็เลือกซื้อไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานหมุนเวียน ซึ่งจะได้ใบรับรองเครดิตการผลิตพลังงานหมุนเวียน (REC: Renewable Energy Certificate) สำหรับใช้เป็นหลักฐานเพื่อจัดทำรายงานความยั่งยืนและการจัดอันดับของบริษัทชั้นนำต่างๆ

นอกจากนี้ บางบริษัทเริ่มเก็บข้อมูล carbon credit ในกิจกรรมดำเนินงานเท่าที่ทำได้ เพราะเชื่อว่าในอนาคตคู่ค้าจะให้ความสำคัญมากขึ้น รวมถึงเริ่มใช้สินค้าและอุปกรณ์ที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เช่น ชุดแต่งกายพนักงานที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล  เลือกผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นสินค้าพรีเมี่ยมสำหรับลูกค้า เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม การลงทุนเพื่อความยั่งยืนมักใช้เงินทุนสูงและใช้เวลานานกว่าจะถึงจุดคุ้มทุน ทำให้เห็นเฉพาะธุรกิจการผลิตขนาดใหญ่ที่ปรับตัวอย่างจริงจัง ขณะที่ธุรกิจ SME ที่ฟื้นตัวจากผลกระทบของ COVID-19 ช้ากว่าและมีเงินทุนน้อยกว่า ยังไม่พร้อมที่จะลงทุน

ส่วนธุรกิจบริการ เช่น โรงแรม ยังมองว่าไม่คุ้มค่าที่จะลงทุน เนื่องจากยังลูกค้ายังไม่พร้อมจ่ายค่าบริการที่สูงขึ้น หากโรงแรมเปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์ที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมที่มีต้นทุนสูงกว่า แต่โรงแรมหลายแห่งก็เริ่มปรับตัวให้ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้น เช่น คัดแยกขยะ รณรงค์ให้ลูกค้าไม่ต้องเปลี่ยนผ้าเช็ดตัวทุกวันเพื่อลดการใช้น้ำ เป็นต้น

Screenshot 2024 01 01 092115

เงินทุนอุปสรรคสำคัญของการปรับตัว

ดร.กิ่งกาญจน์ ระบุว่า หนึ่งในอุปสรรคสำคัญในการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียวคือเงินทุน เพราะแนวทางในการจัดการปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมทั้งการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Mitigation) และการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Adaptation) เช่น การจัดทำฐานข้อมูล การเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีสีเขียว จำเป็นต้องใช้เงินทุนสูง ภาคการเงินจึงเป็นกลไกสำคัญในการจัดสรรเงินทุนแก่ภาคธุรกิจเพื่อลงทุนปรับตัวสู่เศรษฐกิจสีเขียว

การแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมจำเป็นต้องลงมืออย่างจริงจังและได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพราะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทวีความรุนแรงขึ้นในทุกวันนี้เป็นผลที่สั่งสมมาจากในอดีต หากไม่เร่งปรับตัวและแก้ไขปัญหาตั้งแต่วันนี้ วิกฤตจะยิ่งรุนแรงขึ้นอีกในอนาคต จนอาจถึงจุดที่ระบบนิเวศเลวร้ายลงจนแก้ไขไม่ได้

ภาครัฐควรมีหน่วยงานที่ทำหน้าที่ดำเนินการเรื่องความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและมีนโยบายควบคุมดูแลด้านสิ่งแวดล้อมในระยะยาวอย่างชัดเจน ภาคธุรกิจต้องตระหนักถึงความสำคัญและเร่งด่วนของการลงทุนเพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจสีเขียว ขณะเดียวกัน ภาคการเงินต้องพร้อมสนับสนุนเงินลงทุน เพื่อช่วยขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจและสังคมไทยไปสู่ความยั่งยืนได้อย่างทันการณ์

อ่านขาวเพิ่มเติม

Avatar photo