Environmental Sustainability

ก้าวเดิน ‘GC’ จากโรดแมป Net Zero Emission ภายในปี 2593 สู่การลงมือทำ

GC เดินหน้าลงมือทำ มุ่งสู่เป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ในปี 2593 ขับเคลื่อนทั้งซัพพลายเชน มุ่งประหยัดพลังงาน ใช้พลังงานหมุนเวียน เพิ่มพื้นที่สีเขียว พัฒนาผลิตภัณฑ์ชีวภาพ พลาสติกรีไซเคิล

บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC จัดงานประชุมระดับโลก GC Sustainable Living Symposium 2023: We are GEN S การรวมตัวครั้งสำคัญของ GEN S คน GEN ใหม่หัวใจยั่งยืน เพื่อเปลี่ยนจากโลกที่กำลังจะอยู่ไม่ได้ ให้เป็นโลกที่ดีขึ้น

Net Zero Emission

หนึ่งในกิจกรรมน่าสนใจในงานดังกล่าว ได้แก่ Act Now การลงมือทำขององค์กร เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และก้าวสู่การปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) โดย ดร.ชญาน์ จันทวสุ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานความยั่งยืนองค์กร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ได้ร่วมเผยถึงการดำเนินงานของ GC ในการมุ่งสู่เป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero emissions) ในปี 2593

ดร.ชญาน์ กล่าวว่า GC มีโรดแมพตั้งเป้าลดการปลดปล่อยตาร์บอนให้เป็นศูนย์ภายในปี 2593 เริ่มจากปี 2573 จะลดการปล่อยคาร์บอนให้ได้ 20% หรือประมาณ 6 แสนตันเป็นหมุดหมายแรก

ที่ผ่านมา GC จัดทำโครงการกว่า 100 กว่าโครงการ ไม่ว่าจะเป็นโครงการประหยัดพลังงาน โดยใช้เทคโนโลยีมาใช้ปรับกระบวนการต่าง ๆ การนำพลังงานสีเขียว พลังงานหมุนเวียนมาใช้มากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายแรกได้ในปี 2573

GC 2

ในส่วนของการเพิ่มพื้นที่สีเขียว ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ การเปลี่ยนพื้นที่ภูเขาขยะ ที่ย่านอ่อนนุช เป็นสวนสาธารณะ ด้วยการผนึกความร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร ในการปลูกต้นไม้ สร้างป่าทดแทนขยะ ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะสามารถทำโครงการนี้ให้สำเร็จ เพื่อขยายผลไปยังพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป

นอกจากนี้ GC ยังร่วมมือกับ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการดูแลชายหาด การปลูกป่าโกงกาง ป่าชายเลน ที่สามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่าต้นไม้ปกตินับ 10 เท่า โดยวางเป้าหมายดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 1.3 ล้านตันภายในปี 2573

นอกจากการขับเคลื่อนในองค์กรแล้ว บริษัทยังขยายผลไปถึงซัพพลายเชน คู่ค้าและลูกค้า ด้วยการปลูกฝังเรื่องความยั่งยืน เรื่องของคาร์บอนต่ำ แช่น Allnex ในการนำความคิดด้านความยั่งยืนมาใช้ในผลิตภัณฑ์ ลดการปลดปล่อยคาร์บอน รวมถึงการนำไบโอพลาสติกที่ GC เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุด ไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อเพิ่มมูลค่า เป็นต้น

ดร.ชญาน์ กล่าวว่า การนำไบโอพลาสติกมาพัฒนาเพิ่มมูลค่า ยังเป็นการช่วยเกษตรกรอีกทางหนึ่งเนื่องจากไบโอพลาสติกผลิตจากผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร จึงมีการนำความรู้เรื่องคาร์บอนฟุตพริ้นท์ต่ำให้เกษตรกรดำเนินการไปในทิศทางเดียวกัน

รีไซเคิล

อีกโครงการสำคัญคือ การใช้ทรัพยากรใหม่ ๆ อย่างเช่น การนำเอาขวด Pet มารีไซเคิลแล้วนำกลับมาบรรจุอาหารได้ซ้ำอีก ซึ่งขณะนี้ คณะกรรมการอาหารและยาให้การรับรองแล้ว ช่วยให้เรามีความหวังมากขึ้นว่าจะสามารถนำวัสดุที่รีไซเคิลมาเพิ่มคุณค่าได้มากขึ้น  หากสามารถต่อยอดไปถึงการแยกขยะในครัวเรือน นำกลับมารีไซเคิลได้มากขึ้น จะทำให้ผลิตภัณฑ์รีไซเคิลมีราคาถูกลง และใช้แพร่หลายมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยคาร์บอน สิ่งสำคัญคือความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ตั้งแต่ระดับบุคคลที่ต้องคิดว่าจะทำอย่างไรในการช่วยลดการปล่อยคาร์บอนในกิจวัตรประจำวัน ไปจนถึงระดับชุมชน องค์กร หน่วยงานและประเทศ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo