Technology

เจาะลึกทำความเข้าใจกับ ChatGPT และ AI ‘ประโยชน์กับความเสี่ยง’

เวลานี้คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “ChatGPT” กำลังเป็นหัวข้อมาแรง ที่ทำให้ผู้คนหันมาให้ความสนใจกับปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มากขึ้น

อีกทั้งยังเป็นประเด็นถกเถียง ถึงข้อดีและความเสี่ยงของการที่ AI จะเข้ามาเปลี่ยนวิถีชีวิตในการทำงานร่วมกับเครื่องจักร และการสื่อสารระหว่างกันของพวกเราอีกด้วย

ChatGPT

เมื่อเร็วๆนี้ AMCHAM Education committee และ Digital Economy committee ได้มีการจัดอภิปรายขึ้น ซึ่งรวบรวมผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ทั้ง 4 ท่าน มาร่วมเจาะลึกถึงเทคโนโลยีนี้ และไขข้อสงสัยเกี่ยวกับความหมาย และความเกี่ยวข้องของ AI ที่มีต่อภาคส่วนธุรกิจและการศึกษา

ปัญญาประดิษฐ์ (AI) คืออะไร ?

ดร.พิณนรี ธีร์มกร อาจารย์ประจำสาขาวิชาการจัดการ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า AI คือสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อให้มีความคล้ายคลึงกับความสามารถ และพฤติกรรมของมนุษย์

ถึงแม้ว่า AI จะถูกคิดค้นขึ้นตั้งแต่ปี 2485 แต่กลับเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในปี 2564 เนื่องจากระบบคอมพิวเตอร์สามารถกักเก็บข้อมูลจำนวนมหาศาลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ในปัจจุบัน AI มีความสามารถในการเรียนรู้ วิเคราะห์ และคาดการณ์ ความสนใจของมนุษย์ได้อย่างน่าทึ่ง อย่างที่เห็นได้ชัดบนแพลตฟอร์มต่างๆ อาทิเช่น Netflix, Meta (Facebook) และ Instagram เป็นต้น

นอกจากนั้น AI ยังเป็นเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ที่เข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงในหลากหลายอุตสาหกรรม อย่างที่เรารู้จักกันในชื่อ ChatGPT 

Banner AI.TH

ทำความรู้จักคอนเซ็ปต์หลักของ AI

ดร.พิณนรี กล่าวเสริมว่า machine learning, deep learning และ data science คือ 3 คอนเซ็ปต์หลักของ AI โดย machine learning ถือเป็น AI ประเภทหนึ่ง ที่ระบบสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง จากข้อมูลตัวอย่างที่ได้รับก่อนหน้า โดยไม่จำเป็นใช้โปรแกรมในการป้อนคำสั่งทุกครั้ง

อย่างไรก็ตาม การจัดเตรียมข้อมูล ยังจำเป็นต้องใช้ feature engineering ในการช่วยป้อนรายละเอียดเชิงลึก และเพื่อให้แน่ใจว่า ชุดข้อมูลสามารถเข้ากันได้กับอัลกอริธึม machine learning อย่างมีประสิทธิภาพ

machine learning ประเภทหนึ่ง คือ deep learning ที่มีการเลียนแบบระบบประสาทของมนุษย์ผ่านเครือข่ายประสาท (neural network) ที่เชื่อมกันอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเราสามารถป้อนข้อมูลดิบ (raw data) เข้าสู่ระบบได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้ feature engineering เข้ามาช่วย อีกทั้งคำตอบที่ได้รับยังมีความถูกต้องกว่า machine learning ธรรมดาอีกด้วย

อันดับสุดท้าย data science เป็นการดึงเอาข้อมูลความรู้และความเข้าใจ มาประยุกต์ใช้กับเทคนิคสถิติพื้นฐาน machine learning หรือ deep learning เพื่อให้ได้ผลลัพท์ที่เจาะลึกของdata science

เจาะลึกทำความเข้าใจกับ ChatGPT

ChatGPT หนึ่งในปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ได้แทรกซึมเข้าสู่ทุกวงการธุรกิจ อาทิเช่น การคมนาคม การค้า การแพทย์ และ การคลัง เป็นต้น ในขณะนี้นั้นคือ โมเดลภาษาปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย OpenAI ผ่านการป้อนข้อมูลจำนวนมหาศาลจากโลกอินเตอร์เน็ตเข้าไป

ChatGPT เปรียบเสมือนกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่สามารถพูดคุยผ่านตัวอักษร (chatbot) และให้คำตอบตามที่เราต้องการได้ภายในเวลาอันสั้นไม่กี่นาที อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้นโดย ChatGPT อยู่เสมอ เนื่องจากอาจเกิดการเข้าใจผิด และอคติของคำตอบที่เกิดจากการป้อนข้อมูลในตอนต้นได้

แม้ว่า AI และ ChatGPT จะถูกพัฒนาประสิทธิภาพ และแทรกซึมเข้าสู่ภาคธุรกิจ และการศึกษาในทิศทางที่ดี แต่ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีนี้ กลับส่งผลให้ผู้คนบางส่วนรู้สึกกังวลถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในด้านการจ้างงาน และระบบการศึกษา

shutterstock 2240464447

“คน” จะถูกแทนที่การทำงานด้วย “AI” จริงหรือ?

การแทนที่การทำงานของคน การปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน และทักษะเพิ่มเติมที่จำเป็นต้องมีเพื่อความอยู่รอดในยุคสมัยใหม่ของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ล้วนเป็นความกังวลหลักของผู้คนจำนวนมาก ในช่วงเวลาที่ AI ได้แทรกซึมเข้าสู่ภาคธุรกิจและการศึกษาอย่างต่อเนื่อง

Anne Cheng ประธานบริษัท Supercharge Lab จำกัด กล่าวว่า การผสมผสาน AI เข้ากับการทำงานของคน จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงในทิศทางบวก ไม่เพียงแต่ช่วยเพียงประสิทธิภาพ และประสิทธิผลของการทำงาน แต่ยังส่งเสริมความมั่นใจและความคิดสร้างสรรค์อีกด้วย

นอกจากนั้น AI ยังเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเราทั้งในวันนี้และอนาคต ที่จะช่วยเสริมเพิ่มความน่าสนใจในการทำงาน และช่วยลดขั้นตอนการทำงานได้

ขณะที่ เชาวลิต รัตนกรไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) กล่าวเสริมว่า AI จะเข้ามาเป็นเพียงผู้ช่วย (co-pilot) ให้กับคน ซึ่งคนยังเป็นส่วนสำคัญหลักในการป้อนคำสั่ง หรือความรู้แก่ AI เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ต้องการ

ดังนั้น องค์กรควรให้ความสำคัญในการเลือกใช้เทคโนโลยีหรือ AI เพื่อการพัฒนาบริการ ต่อยอดด้านธุรกิจ และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน มากกว่าการแทนที่การทำงานของ AI

ด้าน รณพงศ์ คำนวณทิพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มายด์ เอไอ เซาท์อีสเอเซีย จำกัด ได้เสริมว่า อาชีพใหม่ที่จะเกิดขึ้นคือ Prompt engineers ผู้เชี่ยวชาญที่มาพร้อมความรู้และทักษะในการป้อนคำสั่งให้ AI เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ทักษะสำคัญที่ทุกคนควรมีคืออะไร?

ดร.พิณนรี กล่าวว่า การพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ (Critical Thinking) เป็นสิ่งที่ท้าทายและจำเป็นต้องฝึกฝน เพื่อให้สามารถอยู่รอดในยุคของ AI นี้ได้ ถึงแม้ว่า AI จะสามารถสร้างสรรค์บทความต่าง ๆ ได้คล้ายคลึงกับมนุษย์ แต่ก็ยังสามารถเกิดข้อผิดพลาดขึ้นได้ ดังนั้น ผู้อ่านจึงจำเป็นต้องมีทักษะการคิดวิเคราะห์ เพื่อใช้พิจารณาว่าสิ่งที่กำลังอ่านนั้นเชื่อถือได้หรือไม่

สำหรับในสถาบันการศึกษา นักเรียนควรจะมีช่วงเวลาช่วงหนึ่งที่ไม่มีการนำ AI เข้ามาใช้ประกอบการเรียนรู้ เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาสามารถพัฒนาทักษะพื้นฐานได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์ทางเทคโนโลยีต่าง ๆ และเมื่อถึงเวลาพวกเขาจะสามารถประยุกต์ใช้ AI เพื่อช่วยพัฒนาทักษะและตรวจสอบความถูกต้องของการใช้งานได้เองในภายหลัง

Cheng กล่าวเสริมว่า ChatGPT เป็นเครื่องมือที่สามารถช่วยนักเรียนในการหาคำตอบเชิงลึกได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สิ่งที่ผู้สอนไม่สามารถตอบได้

หากมองลึกลงไปในด้านจริยธรรมนั้น ChatGPT นั้นได้ถูกพัฒนาจนถึงปี 2564 เท่านั้น นั่นหมายความว่า ยังมีข้อมูลอีกเป็นจำนวนมากที่ยังไม่ได้อัพเดต และหน้าที่สำคัญของ ChatGPT ไม่ได้ถูกพัฒนาเพื่อแทนที่อินเทอร์เน็ต แต่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นโมเดลภาษา ดังนั้น จึงยังไม่ควรเชื่อทุกการตัดสินใจของข้อมูลที่ได้รับมา

อย่างไรก็ตาม แน่นอนว่า AI จะยังคงถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น สังคมจะต้องเตรียมพร้อมรับมือกับแรงกระทบนี้ และเพิ่มพูนทักษะต่างๆที่สำคัญ อีกทั้งเสริมสร้างนโยบายต่างๆเพื่อต่อยอดศักยภาพและลดความเสี่ยงด้านต่าง ๆ ให้น้อยลง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo