“Mekha V” รับรางวัล Microsoft Partner of the Year 2023 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ตอกย้ำการมุ่งสู่ธุรกิจแห่งอนาคต ผลักดันการใช้เทคโนโลยี อุตสาหกรรมอนาคต ตามทิศทางกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจใหม่ของ ปตท.
บริษัท เมฆา วี จำกัด (Mekha V) รับรางวัล Microsoft Partner of the Year 2023 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ในประเภทรางวัล Industry Award จากการนำเสนอนวัตกรรมและโซลูชันที่โดดเด่นด้าน Energy and Resources
การคว้ารางวัลดังกล่าวต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 นับว่าสะท้อนถึงความสำเร็จของบริษัท ในการพัฒนาและเติมเต็มระบบนิเวศการใช้คลาวด์ (Cloud Ecosystem) ของกลุ่ม ปตท. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านดิจิทัล และสร้างโอกาสการเติบโตไปยังธุรกิจที่ไกลกว่าการใช้เทคโนโลยีคลาวด์ ควบคู่กับการพัฒนานวัตกรรมที่หลากหลายบนดิจิทัลแพลตฟอร์มให้ตอบโจทย์ความท้าทายใหม่ ๆ ตามทิศทางกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจใหม่ของ ปตท.
รางวัล Partner of the Year เป็นรางวัลที่ Microsoft มอบให้แก่พันธมิตรผู้เชี่ยวชาญนำเทคโนโลยีของ Microsoft ไปสรรสร้างนวัตกรรม และพัฒนา Solution สำหรับการดำเนินธุรกิจที่หลากหลาย ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พร้อมกันนี้ ยังเป็นการเสริมกำลังให้ธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว สู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต ที่นำเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์ต่อยอดความสำเร็จทางด้านนวัตกรรม
สานพันธกิจสู่อุตสาหกรรมอนาคต
สำหรับ Mekha V ได้เริ่มดำเนินกิจการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2565 โดยเกิดจากการควบรวมของ 2 บริษัทย่อย ที่ดำเนินธุรกิจในกลุ่ม AI Robotics and Digitalization ของ ปตท. ได้แก่ บริษัท เมฆาเทคโนโลยี จำกัด (Mekha Tech) ผู้เชี่ยวชาญด้าน Cloud Innovation และบริษัท รี แอค จำกัด (ReAcc) ที่มีความชำนาญด้านแพลตฟอร์มเทรดพลังงานหมุนเวียน และ Carbon Neutrality
ทั้งนี้ Mekha V นับเป็นเรือธงด้านธุรกิจปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ และเทคโนโลยีดิจิทัล (AI, Robotics & Digitalization) ของ กลุ่ม ปตท. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับและต่อยอด New S Curve รูปแบบการลงทุนในอุตสาหกรรมอนาคต ที่เน้นการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อพัฒนาหรือเปลี่ยนแปลงรูปแบบสินค้าและเทคโนโลยีของกลุ่ม ปตท.
เดินหน้า 5 Tech หนุนธุรกิจใหม่ ปตท.
ปัจจุบัน Mekha V ให้บริการเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ เพื่อสนับสนุนเป้าหมายของ ปตท, ในการก้าวสู่อุตสาหกรรมอนาคตใน 5 ด้านได้แก่
1. PowerTECH มุ่งใช้เทคโนโลยีในการบริหารจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนผ่านแพลตฟอร์มอัจฉริยะ Smart Energy Platform โดยนำเทคโนโลยีมาช่วยในการบริหารจัดการพลังงานตามแนวทาง Net Zero Carbon อาทิ ผลิตภัณฑ์ที่สามารถวางแผนการใช้พลังงานในพื้นที่ สามารถตรวจติดตามการใช้พลังงานแบบ Real Time สามารถทำ Energy Optimization รองรับการซื้อขายพลังงานแบบ Peer-to-Peer และการซื้อขาย Renewable Energy Certificate (REC) รวมถึงสามารถจัดทำรายงานความเป็นกลางทางคาร์บอนในแต่ละพื้นที่ได้
2. MobilityTECH เทคโนโลยีสนับสนุนธุรกิจยานยนต์ เช่น Telematic, Mapping Data, เซ็นเซอร์อัจฉริยะ เป็นต้น เพื่อรองรับรถยนต์ที่มีความ SMART มากขึ้น จากชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์อัจฉริยะต่าง ๆ โดยนำระบบ AI มาช่วยทั้งในเรื่องระบบขับขี่ และเพิ่มความปลอดภัย ซึ่งจำหน่ายให้กับผู้ผลิตรถยนต์สันดาปภายใน ICE และรถยนต์ไฟฟ้า ที่ทาง Arun Plus ดำเนินการอยู่ อีกทั้งจะส่งเสริมให้ประเทศไทยซึ่งเป็นศูนย์กลางในการผลิตรถยนต์ของอาเซียน
3. HealthTECH เทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกด้านสุขภาพ บริการพบแพทย์ผ่อนช่องทางออนไลน์ เสมือนมีแพทย์ประจำตัว เพื่อรักษาสมดุลของสุขภาพที่แข็งแรงโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยดำเนินการตั้งแต่การให้คำแนะนำจนกระทั้งการรักษาและติดตามผล ให้บริการพบแพทย์ผ่านช่องทางออนไลน์ด้านสุขภาพเช่น อาหารสุขภาพ กิจกรรมที่ส่งผลต่อสุขภาพหรือปัญหาสุขภาพนำมาประมวลผลเพื่อวิเคราะห์สาเหตุรวมไปถึงการจ่ายยาและติดตามผลด้วยระบบ AI แบบครบวงจร
4. IndustrialTECH ยกระดับอุตสาหกรรมไทยให้ไปสู่ อุตสหกรรม 4.0 ด้วยระบบเทคโนโลยีอัจฉริยะสนับสนุนอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการไทย ผ่านการส่งเสริมความรู้ และการสนับสนุนด้วยเทคโนโลยีและบริการต่าง ๆ ครบวงจร เช่น
- Cloud: ที่จะสนับสนุนการเก็บรวบรวมข้อมูลของอุตสาหกรรมต่างๆอย่างเป็นระบบ รวมถึงรองรับความต้องการทำ Centralize data ของแต่ละบริษัท
- Machine learning & AI: หนึ่งในหัวใจของการวางแผนซ่อมบำรุงโดยการทำ Prediction maintainace เพื่อช่วยในการลดต้นทุนการซ่อมบำรุง
- Advance factory: เพื่อปรับปรุงและพัฒนาอุตสาหกรรมให้ไปสู่การควบคุมด้วยระบบกึ่งอัตโนมัติและอัตโนมัติ โดยครอบคลุมทั้ง ส่วนการผลิต คลังพัสดุ และการขนส่งภายในโรงงาน System & Innovation Integrator สนับสนุนผู้เชี่ยวชาญผ่านการให้คำปรึกษาตลอดจนการติดตั้ง รวมถึงการเลือกเทคโนโลยีให้เหมาะกับแต่ละอุตสาหกรรม
5. CreativeTECH ยกระดับธุรกิจครีเอทีฟของประเทศไทยให้ตอบสนองความต้องการของตลาดสากล เสริมสร้าง Soft power ของประเทศไทยให้เข้มแข็ง และเป็นศูนย์กลาง Creative hub ในระดับอาเซียน โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยผลักดันให้ประสบความสำเร็จ โดยเริ่มตั้งแต่ โครงสร้างพื้นฐาน การบริการ และคอมมูนิตี้
สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน มีการใช้เทคโนโลยี Cloud และ Blockchain เข้ามาเก็บข้อมูล ซึ่งมีความปลอดภัยและเป็นที่ยอมรับในปัจจุบัน ซึ่งสามารถนำข้อมูลไปต่อยอดทำแพลตฟอร์มหรือแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ได้ อาทิ แพลตฟอร์มโลกเสมือนจริง
นอกจากนี้ ยังให้บริการทำ Outsource Studio for Gaming & Virtual Production, Virtual Marketplacev และ AR Content Platform เป็นต้น มีการจัดทำ Community ให้บริการ CRM การจัดงานต่าง ๆ รวมไปถึงการทำ Brand Royalty
การได้รับรางวัลดังกล่าว จึงเป็นการตอกย้ำเป้าหมายและการดำเนินงานของ Mekha V ในการพัฒนาธุรกิจ AI & Robotics ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ และให้บริการด้านเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างครบวงจร สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ของกลุ่ม ปตท. ที่มุ่งสู่การขยายธุรกิจใหม่ และอุตสาหกรรมแห่งอนาคต
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ปตท. เดินหน้าธุรกิจมุ่งสู่ Net Zero ภายในปี 2050 เร็วกว่าเป้าหมายประเทศถึง 15 ปี
- กลุ่ม ปตท. จุดพลังคนไทย ร่วมขับเคลื่อน Soft Power เสริมศักยภาพกีฬาสู่สากล
- ปตท. ทุ่มงบ 5 ปีแสนล้าน! เดินหน้าธุรกิจใหม่ พลังงานหมุนเวียน-ไฮโดรเจน
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg