COLUMNISTS

‘โรคอ้วน’ กับ ‘โรคตับเเข็ง’ ต่างกันหรือไม่ ต่างกันอย่างไร?

Avatar photo
Longevity Inspirationist ผู้เชี่ยวชาญสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการรักสุขภาพ

โรคอ้วน VS โรคตับเเข็ง ต่างกันหรือไม่ ต่างกันอย่างไร?

หลายคนอาจมีคำถามว่าโรคอ้วน กับ โรคตับเเข็งต่างกันหรือไม่? อย่างเเรกเราต้องมาทำความเข้าใจก่อนระหว่างโรคอ้วนคืออะไรเเละโรคตับเเข็งคืออะไร แล้วการที่เป็นโรคอ้วนเเล้วก็ต้องเป็นโรคตับเเข็งด้วยไหม? ในความเป็นจริงเเล้วมันอาจจะไม่ใช่เสมอไป ดังนั้นเรามาทำความรู้จักโรคอ้วนกับโรคตับให้กระจ่างไปพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า

โรคอ้วน

โรคอ้วนคืออะไร?

โรคอ้วน คือ ภาวะที่ร่างกายมีการสะสมไขมันมากเกินกว่าปกติหรือมากเกินกว่าที่ร่างกายจะเผาผลาญ จึงสะสมพลังงานที่เหลือเอาไว้ในรูปของไขมันตามอวัยวะต่าง ๆ ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพ และเป็นสาเหตุของการเกิดโรคเรื้อรังต่าง ๆ ตามมา

สาเหตุของโรคอ้วน

สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคอ้วน แบ่งออกเป็น ปัจจัยภายใน และปัจจัยภายนอก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วผู้ที่เป็นโรคอ้วน มักมีสาเหตุจากปัจจัยภายนอก เพราะมีพฤติกรรมการรับประทานที่ตามใจตนเอง จนทำให้รับประทานเกินความต้องการของร่างกาย

ปัจจัยภายนอกของโรคอ้วน

  • รับประทานอาหารที่ให้พลังงานสูง เนื้อ ไขมัน แป้ง ของหวาน
  • รับประทานไม่เป็นเวลา กินจุบกินจิบ
  • นั่ง ๆ นอน ๆ เป็นส่วนใหญ่
  • ขาดการออกกำลังกายปัจจัยภายในของโรคอ้วน

ปัจจัยภายในของโรคอ้วน

  • ความผิดปกติของต่อมไรท่อ เช่น ต้อมใต้สมอง ต่อมไทรอยด์
  • ภาวะเครียด
  • จิตใจและอารมณ์
  • กรรมพันธุ์
  • โรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง
  • การรับประทานยาบางชนิ
  • อายุ เนื่องจากอายุมาก จะมีการใช้พลังงานน้อยลง

โรคอ้วน แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ อ้วนลงพุง และอ้วนทั้งตัว อ้วนลงพุง เป็นโรคที่มาจากการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม ตั้งแต่อาหารการกิน ไม่มีเวลาออกกำลังกาย จนทำให้กลายเป็นโรคอ้วนตามมา คนที่อ้วนลงพุง มักจะมีไขมันสะสมในช่องท้องมากเกินไป ทำให้เกิดเมตาบอลิกซินโดรม ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนมาก โดยพบว่าคนที่มีลักษณะท้วม

โรคอ้วน

ผลกระทบจากโรคอ้วน

ผู้ที่มีภาวะอ้วน จะส่งผลเสียกับร่างกาย และเพิ่มความเสี่ยงต่อการป่วยที่ทำให้เกิดโรคเรื้อรังและอาการต่าง ๆ ตามมา เช่น

  • โรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง
  • โรคความดันโลหิตสูง
  • โรคไขมันในเลือดสูง
  • โรคเบาหวาน
  • โรคไขมันเกาะตับ
  • โรคหัวใจ
  • โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต
  • โรคมะเร็งต่าง ๆ
  • โรคหยุดหายใจขณะหลับ
  • ปัญหาทางระบบทางเดินหายใจ
  • ภาวะมีบุตรยาก
  • ประจำเดือนมาไม่ปกติ
  • ปวดข้อ ข้อเสื่อมก่อนวัย
  • โรคผิวหนัง เช่น สิว ขนดก ผิวหนังติดเชื้อ มีกลิ่นตัว เป็นต้น

โรคตับเเข็งคืออะไร?

โรคตับเเข็ง คือ ภาวะที่เกิดขึ้นของโรคตับ ซึ่งเกิดจากการที่ตับได้รับความเสียหายและเกิดแผลเป็นอย่างถาวร มีลักษณะเฉพาะคือการมีเนื้อเยื่อพังผืดเกิดขึ้นในเนื้อตับ ส่งผลให้การทำงานของตับลดลง ไม่ว่าจะเป็นการผลิตโปรตีน การเก็บสะสมสารสำคัญและแร่ธาตุต่าง ๆ การทำลายสารพิษ รวมทั้งปิดกั้นการไหลเวียนของเลือดที่ไหลผ่านตับด้วย

สาเหตุของโรคตับเเข็ง

ตับแข็งเกิดได้จากหลายสาเหตุ อาทิ

  • โรคพิษสุราเรื้อรัง เกิดจากการดื่มแอลกฮอล์ติดต่อกันเป็นเวลานาน
  • โรคไวรัสตับอักเสบบี ซี และดี
  • โรคตับอักเสบจากภูมิต้านทานตนเอง
  • โรคเนื้อเยื่อสะสมธาตุเหล็กผิดปกติ
  • โรควิลสัน (Wilson’s disease) ซึ่งเกิดจากการมีการสะสมทองแดงมากเกินไปในตับ
  • ภาวะท่อน้ำดีอุดตัน ทำให้น้ำดีที่ไหลย้อนกลับไปที่ตับส่งผลทำลายเนื้อตับจนเป็นตับแข็งได้
  • ภาวะไขมันพอกตับ ซึ่งทำให้เกิดตับอักเสบเรื้อรังจนอาจกลายเป็นตับแข็งได้
  • การรับประทานยาบางชนิดติดต่อกันเป็นเวลานาน
  • การได้รับสารพิษบางชนิด
  • ภาวะหัวใจล้มเหลวหลายครั้งติดต่อกัน

โรคอ้วน

อาการของผู้ป่วยตับเเข็งผู้ป่วยที่มีภาวะตับแข็งอาจไม่มีอาการหรือมีอาการน้อยมาก หรืออาจมีอาการเนื่องจากภาวะแทรกซ้อนตามระยะของโรค ทั้งนี้อาการที่อาจพบได้ เช่น- อ่อนเพลีย เหนื่อยล้า ไม่อยากอาหาร ในบางครั้งอาจเกิดร่วมกับอาการคลื่นไส้ น้ำหนักลด

  • ในผู้หญิงอาจมีประจำเดือนผิดปกติ ในผู้ชายอาจมีเต้านมขยายใหญ่ขึ้นพร้อมอาการปวด สมรรถภาพทางเพศลดลง
  • ขาบวมหรือท้องโตขึ้น เนื่องจากโปรตีนอัลบูมินถูกผลิตน้อยลง ส่งผลให้มีน้ำสะสมในขาหรือท้อง
  • ฟกช้ำหรือเลือดออกได้ง่าย เนื่องจากมีการผลิตโปรตีนที่เป็นส่วนประกอบในการทำให้เลือดแข็งตัวลดลง
  • อาการดีซ่าน หรืออาการตัวเหลืองตาเหลือง ซึ่งเกิดจากการสะสมเม็ดสีของน้ำดี
  • มีอาการคันที่ผิวหนังอย่างรุนแรง เนื่องจากสารประกอบของน้ำดีถูกฝังอยู่ในผิวหนัง
  • มีอาการทางสมอง เนื่องจากตับไม่สามารถกรองสารพิษออกมาได้ จึงเริ่มสะสมในเลือด โดยสัญญาณแรกของการสะสมสารพิษในสมองอาจสังเกตได้จากการที่ผู้ป่วยละเลยการดูแลตนเอง ไม่มีอาการตอบโต้ ลืมง่าย ไม่มีสมาธิ
  • มีความไวต่อยาและผลข้างเคียง เนื่องจากในผู้ป่วยโรคตับแข็ง ตับจะไม่สามารถกรองยาออกจากเลือดได้ในอัตราปกติ ตัวยาจึงออกฤทธิ์นานขึ้นและสะสมอยู่ในร่างกาย
  • มีเลือดออกอย่างรุนแรงในกระเพาะอาหารส่วนบนหรือหลอดอาหาร เนื่องมาจากการไหลเวียนของเลือดผิดปกติ ซึ่งจัดเป็นอาการที่รุนแรงและอันตราย แพทย์ต้องรีบหยุดเลือดโดยเร็ว

ผลกระทบจากโรคตับเเข็งความดันโลหิตในหลอดเลือดพอร์ทัลภายในช่องท้องสูง-โรคตับแข็งจะเพิ่มความดันในหลอดเลือดดำพอร์ทัลที่ไหลไปยังตับ ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ

  • การติดเชื้อ-ผู้ป่วยโรคตับแข็งมีภูมิคุ้มกันต่ำ ไม่สามารถต้านทานการติดเชื้อได้ดี ส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อรุนแรงมากขี้น
  • ภาวะทุพโภชนาการ-เกิดจากการดูดซึมอาหารได้น้อยลง ทำให้น้ำหนักตัวลดและรู้สึกอ่อนเพลีย
  • ภาวะซึม สับสนจากการทำงานบกพร่องของตับ-เกิดจากภาวะที่มีสารพิษสะสมในร่างกาย เนื่องจากตับที่เสียหาย ไม่สามารถกำจัดสารพิษออกจากเลือดได้ ส่งผลต่อสมอง เกิดความสับสนและเข้าสู่อาการโคม่าได้
  • ดีซ่าน-ผิวหนังและตาขาวจะมีสีเหลือง และปัสสาวะมีสีเข้มขึ้นเพราะตับไม่สามารถกำจัด สารเหลืองหรือบิลิรูบินออกจากเลือดได้
  • โรคกระดูก-ผู้ที่เป็นโรคตับแข็งอาจมีความหนาแน่นของกระดูกลดลงและมีความเสี่ยงที่จะเกิดกระดูกหักได้สูงขึ้น
  • ความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งตับสูงขึ้น
  • ภาวะการทำงานของตับล้มเหลวเฉียบพลันแทรกซ้อนในผู้ป่วยตับแข็งเรื้อรัง-ซึ่งมีสาเหตุมาจากภาวะกระตุ้นต่าง ๆ โดยเฉพาะจากการติดเชื้อ ทำให้การทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ล้มเหลวลง

โรคอ้วน และ โรคตับเเข็ง แตกต่างแต่ส่งผลร้ายไม่ต่างกัน

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับการไขข้อสงสัยเรื่องความแตกต่างระหว่างโรคอ้วนและโรคตับแข็งที่เรานำมาเสนอวันนี้ จะเห็นได้ว่าสาเหตุการเกิดโรค อาการของโรคและผลเสีย มีความแตกต่างกันออกไป แต่สำหรับอาการข้างเคียงนั้นน่ากลัวไม่แพ้กัน ดังนั้นอย่าลืมดูแลสุขภาพ อุดรอยรั่วจากสาเหตุการเกิดโรคให้ครบ ก็ห่างไกลจากอันตรายได้

อ่านข่าวเพิ่มเติม