โรคอ้วน VS โรคตับเเข็ง ต่างกันหรือไม่ ต่างกันอย่างไร?
หลายคนอาจมีคำถามว่าโรคอ้วน กับ โรคตับเเข็งต่างกันหรือไม่? อย่างเเรกเราต้องมาทำความเข้าใจก่อนระหว่างโรคอ้วนคืออะไรเเละโรคตับเเข็งคืออะไร แล้วการที่เป็นโรคอ้วนเเล้วก็ต้องเป็นโรคตับเเข็งด้วยไหม? ในความเป็นจริงเเล้วมันอาจจะไม่ใช่เสมอไป ดังนั้นเรามาทำความรู้จักโรคอ้วนกับโรคตับให้กระจ่างไปพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า
โรคอ้วนคืออะไร?
โรคอ้วน คือ ภาวะที่ร่างกายมีการสะสมไขมันมากเกินกว่าปกติหรือมากเกินกว่าที่ร่างกายจะเผาผลาญ จึงสะสมพลังงานที่เหลือเอาไว้ในรูปของไขมันตามอวัยวะต่าง ๆ ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพ และเป็นสาเหตุของการเกิดโรคเรื้อรังต่าง ๆ ตามมา
สาเหตุของโรคอ้วน
สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคอ้วน แบ่งออกเป็น ปัจจัยภายใน และปัจจัยภายนอก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วผู้ที่เป็นโรคอ้วน มักมีสาเหตุจากปัจจัยภายนอก เพราะมีพฤติกรรมการรับประทานที่ตามใจตนเอง จนทำให้รับประทานเกินความต้องการของร่างกาย
ปัจจัยภายนอกของโรคอ้วน
- รับประทานอาหารที่ให้พลังงานสูง เนื้อ ไขมัน แป้ง ของหวาน
- รับประทานไม่เป็นเวลา กินจุบกินจิบ
- นั่ง ๆ นอน ๆ เป็นส่วนใหญ่
- ขาดการออกกำลังกายปัจจัยภายในของโรคอ้วน
ปัจจัยภายในของโรคอ้วน
- ความผิดปกติของต่อมไรท่อ เช่น ต้อมใต้สมอง ต่อมไทรอยด์
- ภาวะเครียด
- จิตใจและอารมณ์
- กรรมพันธุ์
- โรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง
- การรับประทานยาบางชนิ
- อายุ เนื่องจากอายุมาก จะมีการใช้พลังงานน้อยลง
โรคอ้วน แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ อ้วนลงพุง และอ้วนทั้งตัว อ้วนลงพุง เป็นโรคที่มาจากการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม ตั้งแต่อาหารการกิน ไม่มีเวลาออกกำลังกาย จนทำให้กลายเป็นโรคอ้วนตามมา คนที่อ้วนลงพุง มักจะมีไขมันสะสมในช่องท้องมากเกินไป ทำให้เกิดเมตาบอลิกซินโดรม ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนมาก โดยพบว่าคนที่มีลักษณะท้วม
ผลกระทบจากโรคอ้วน
ผู้ที่มีภาวะอ้วน จะส่งผลเสียกับร่างกาย และเพิ่มความเสี่ยงต่อการป่วยที่ทำให้เกิดโรคเรื้อรังและอาการต่าง ๆ ตามมา เช่น
- โรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง
- โรคความดันโลหิตสูง
- โรคไขมันในเลือดสูง
- โรคเบาหวาน
- โรคไขมันเกาะตับ
- โรคหัวใจ
- โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต
- โรคมะเร็งต่าง ๆ
- โรคหยุดหายใจขณะหลับ
- ปัญหาทางระบบทางเดินหายใจ
- ภาวะมีบุตรยาก
- ประจำเดือนมาไม่ปกติ
- ปวดข้อ ข้อเสื่อมก่อนวัย
- โรคผิวหนัง เช่น สิว ขนดก ผิวหนังติดเชื้อ มีกลิ่นตัว เป็นต้น
โรคตับเเข็งคืออะไร?
โรคตับเเข็ง คือ ภาวะที่เกิดขึ้นของโรคตับ ซึ่งเกิดจากการที่ตับได้รับความเสียหายและเกิดแผลเป็นอย่างถาวร มีลักษณะเฉพาะคือการมีเนื้อเยื่อพังผืดเกิดขึ้นในเนื้อตับ ส่งผลให้การทำงานของตับลดลง ไม่ว่าจะเป็นการผลิตโปรตีน การเก็บสะสมสารสำคัญและแร่ธาตุต่าง ๆ การทำลายสารพิษ รวมทั้งปิดกั้นการไหลเวียนของเลือดที่ไหลผ่านตับด้วย
สาเหตุของโรคตับเเข็ง
ตับแข็งเกิดได้จากหลายสาเหตุ อาทิ
- โรคพิษสุราเรื้อรัง เกิดจากการดื่มแอลกฮอล์ติดต่อกันเป็นเวลานาน
- โรคไวรัสตับอักเสบบี ซี และดี
- โรคตับอักเสบจากภูมิต้านทานตนเอง
- โรคเนื้อเยื่อสะสมธาตุเหล็กผิดปกติ
- โรควิลสัน (Wilson’s disease) ซึ่งเกิดจากการมีการสะสมทองแดงมากเกินไปในตับ
- ภาวะท่อน้ำดีอุดตัน ทำให้น้ำดีที่ไหลย้อนกลับไปที่ตับส่งผลทำลายเนื้อตับจนเป็นตับแข็งได้
- ภาวะไขมันพอกตับ ซึ่งทำให้เกิดตับอักเสบเรื้อรังจนอาจกลายเป็นตับแข็งได้
- การรับประทานยาบางชนิดติดต่อกันเป็นเวลานาน
- การได้รับสารพิษบางชนิด
- ภาวะหัวใจล้มเหลวหลายครั้งติดต่อกัน
อาการของผู้ป่วยตับเเข็งผู้ป่วยที่มีภาวะตับแข็งอาจไม่มีอาการหรือมีอาการน้อยมาก หรืออาจมีอาการเนื่องจากภาวะแทรกซ้อนตามระยะของโรค ทั้งนี้อาการที่อาจพบได้ เช่น- อ่อนเพลีย เหนื่อยล้า ไม่อยากอาหาร ในบางครั้งอาจเกิดร่วมกับอาการคลื่นไส้ น้ำหนักลด
- ในผู้หญิงอาจมีประจำเดือนผิดปกติ ในผู้ชายอาจมีเต้านมขยายใหญ่ขึ้นพร้อมอาการปวด สมรรถภาพทางเพศลดลง
- ขาบวมหรือท้องโตขึ้น เนื่องจากโปรตีนอัลบูมินถูกผลิตน้อยลง ส่งผลให้มีน้ำสะสมในขาหรือท้อง
- ฟกช้ำหรือเลือดออกได้ง่าย เนื่องจากมีการผลิตโปรตีนที่เป็นส่วนประกอบในการทำให้เลือดแข็งตัวลดลง
- อาการดีซ่าน หรืออาการตัวเหลืองตาเหลือง ซึ่งเกิดจากการสะสมเม็ดสีของน้ำดี
- มีอาการคันที่ผิวหนังอย่างรุนแรง เนื่องจากสารประกอบของน้ำดีถูกฝังอยู่ในผิวหนัง
- มีอาการทางสมอง เนื่องจากตับไม่สามารถกรองสารพิษออกมาได้ จึงเริ่มสะสมในเลือด โดยสัญญาณแรกของการสะสมสารพิษในสมองอาจสังเกตได้จากการที่ผู้ป่วยละเลยการดูแลตนเอง ไม่มีอาการตอบโต้ ลืมง่าย ไม่มีสมาธิ
- มีความไวต่อยาและผลข้างเคียง เนื่องจากในผู้ป่วยโรคตับแข็ง ตับจะไม่สามารถกรองยาออกจากเลือดได้ในอัตราปกติ ตัวยาจึงออกฤทธิ์นานขึ้นและสะสมอยู่ในร่างกาย
- มีเลือดออกอย่างรุนแรงในกระเพาะอาหารส่วนบนหรือหลอดอาหาร เนื่องมาจากการไหลเวียนของเลือดผิดปกติ ซึ่งจัดเป็นอาการที่รุนแรงและอันตราย แพทย์ต้องรีบหยุดเลือดโดยเร็ว
ผลกระทบจากโรคตับเเข็งความดันโลหิตในหลอดเลือดพอร์ทัลภายในช่องท้องสูง-โรคตับแข็งจะเพิ่มความดันในหลอดเลือดดำพอร์ทัลที่ไหลไปยังตับ ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ
- การติดเชื้อ-ผู้ป่วยโรคตับแข็งมีภูมิคุ้มกันต่ำ ไม่สามารถต้านทานการติดเชื้อได้ดี ส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อรุนแรงมากขี้น
- ภาวะทุพโภชนาการ-เกิดจากการดูดซึมอาหารได้น้อยลง ทำให้น้ำหนักตัวลดและรู้สึกอ่อนเพลีย
- ภาวะซึม สับสนจากการทำงานบกพร่องของตับ-เกิดจากภาวะที่มีสารพิษสะสมในร่างกาย เนื่องจากตับที่เสียหาย ไม่สามารถกำจัดสารพิษออกจากเลือดได้ ส่งผลต่อสมอง เกิดความสับสนและเข้าสู่อาการโคม่าได้
- ดีซ่าน-ผิวหนังและตาขาวจะมีสีเหลือง และปัสสาวะมีสีเข้มขึ้นเพราะตับไม่สามารถกำจัด สารเหลืองหรือบิลิรูบินออกจากเลือดได้
- โรคกระดูก-ผู้ที่เป็นโรคตับแข็งอาจมีความหนาแน่นของกระดูกลดลงและมีความเสี่ยงที่จะเกิดกระดูกหักได้สูงขึ้น
- ความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งตับสูงขึ้น
- ภาวะการทำงานของตับล้มเหลวเฉียบพลันแทรกซ้อนในผู้ป่วยตับแข็งเรื้อรัง-ซึ่งมีสาเหตุมาจากภาวะกระตุ้นต่าง ๆ โดยเฉพาะจากการติดเชื้อ ทำให้การทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ล้มเหลวลง
โรคอ้วน และ โรคตับเเข็ง แตกต่างแต่ส่งผลร้ายไม่ต่างกัน
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับการไขข้อสงสัยเรื่องความแตกต่างระหว่างโรคอ้วนและโรคตับแข็งที่เรานำมาเสนอวันนี้ จะเห็นได้ว่าสาเหตุการเกิดโรค อาการของโรคและผลเสีย มีความแตกต่างกันออกไป แต่สำหรับอาการข้างเคียงนั้นน่ากลัวไม่แพ้กัน ดังนั้นอย่าลืมดูแลสุขภาพ อุดรอยรั่วจากสาเหตุการเกิดโรคให้ครบ ก็ห่างไกลจากอันตรายได้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เช็ก 8 ความเสี่ยงที่ผู้สูงอายุควรรู้!
- ภาวะกรดยูริกในเลือดสูง! ส่งผลต่อคุณภาพการนอนหลับหรือไม่?
- ‘โรคอ้วน’ ในผู้สูงอายุต้องจัดการอย่างไร ที่นี่มีคำตอบ!