COLUMNISTS

สูตรตั้งรัฐบาลผสมข้ามขั้ว : เวทีนี้ไม่มี ‘ก้าวไกล’ !!

Avatar photo

 จับตาเพื่อไทยดึง “รวมไทยสร้างชาติ -ประชาธิปัตย์-ภูมิใจไทย” เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล ปล่อยมือก้าวไกลฝ่ายค้าน

โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีสองรอบสามรอบก็ยุคนี้แหละ!! ก็เพราะรัฐธรรมนูญที่เปลี่ยนไปทำใจ รอบต่อไปตามที่ประธานรัฐสภา “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” บอกไว้ก็จะเป็น วันที่ 27 กรกฎาคมนี้ เวลา 09.30 น. รอบนี้บอกเลยหน้าตาพรรคร่วมรัฐบาลคงจะเปลี่ยนไปจาก 8 พรรคร่วมรัฐบาลเดิมแน่นอน อย่างน้อย  2 พรรค อาจไม่ได้ร่วม “สังฆกรรม” จัดตั้งรัฐบาล นั่นก็คือ“พรรคก้าวไกล” ที่นับวันกำลังถูกปล่อยมือจากพี่ใหญ่ให้เป็นฝ่ายค้าน

อีกพรรคแว่วๆ มาแล้วว่าจะไม่ขอร่วมตั้งรัฐบาลนั่นก็คือ “พรรคไทยสร้างไทย” ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เจ้าของฉายา “ตำแหน่งอยู่ไม่นาน ตำนานอยู่ตลอดไป” ก่อนหน้านี้ ออกมาโพสต์ถึง “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล

ตั้งรัฐบาล เวทีนี้ไม่มีก้าวไกล 

เพื่อให้การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีรอบสองสำเร็จ คิวต่อไปเห็นทีเป็นของ “เศรษฐา ทวีสิน” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ระหว่างนี้พี่ใหญ่อย่างพรรคเพื่อไทย ต้องโชว์ฝีไม้ลายมือ สวมบทแกนนำตั้งรัฐบาล ตอนนี้เริ่มจัดสูตร “ผสมข้ามขั้ว” ด้วยการสลัดพรรคก้าวไกล หันไปชักชวนพรรคนั้นพรรคนี้กันยกใหญ่ ที่แน่ ๆ ตอนนี้เริ่มได้กลิ่นพรรคที่จะเข้าร่วม “สังฆกรรม” บ้างแล้ว

ตั้งรัฐบาล

ที่แน่ๆ สูตรจัดตั้งรัฐบาล “ผสมข้ามขั้ว” รอบนี้ มันต้องมี พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และพรรคประชาธิปัตย์  สองพรรคนี้ดูเหมือนเป็นตัวยืน  แต่เพื่อให้มีเสียงที่มั่นคงของรัฐบาล คงหนีไม่พ้นที่จะต้องดึงเอา “พรรคภูมิใจไทย” เข้าร่วม แม้จะไม่อยากได้ก็ตาม แต่เพื่อฐานที่มั่นคงของตัวเลขนั่นเอง อาจมีส้มหล่นกับพรรคเล็กๆอยู่บ้าง

ส่วนจำนวนเสียงรวมกันจะได้เท่าไหร่ ณ วันนี้ ยังอาจจะรวมให้เห็นตัวเลขชัดๆไม่ได้ ก็เพราะมันแกว่งเสียเหลือเกิน สถานการณ์ตอนนี้สำคัญสุด ต้องหาเสียงมาชดเชยในส่วนของพรรคก้าวไกล ที่มีจำนวนไม่น้อยให้ได้ ก็เพราะผู้ใหญ่บอกชัดเจนมาก ตั้งรัฐบาลใหม่รอบนี้ ไม่มี “ก้าวไกล” ส่วน 8 พรรคร่วมเดิมอาจจะอยู่ไม่ครบเช่นกัน

เมื่อต้องผลักหรือปล่อยมือก้าวไกลออกไปอยู่ฝั่งตรงข้าม การหาจำนวนที่จะมาชดเชยก้าวไกลก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ฉะนั้นจำเป็นต้องอาศัยพรรคการเมืองฝั่งตรงข้าม ส่วนจะดึงมาได้มากน้อยอยู่ที่ฝีมือ แต่ต้องไม่ลืมนะ เก้าอี้รัฐมนตรีมีจำกัด!!

ตั้งรัฐบาล

การเปิดทางดึงพรรครวมไทยสร้างชาติเข้าร่วม ส่วนหนึ่งต้องการความลื่นไหลจากเสียงจากสว.นั่นเอง

ส่วนพรรค “ลุงป้อม” ณ เวลานี้ นาทีนี้ ได้รับการยืนยันว่า “ไม่จำเป็น” ต้องเอาเข้ามา ฉะนั้นกลองเชียร์ “ลุงป้อม” ที่อยากให้ “ลุงป้อม” เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 อาจต้องเว้นวรรคไว้ก่อน

การเมืองไทย หลายคนพูดเสมอว่า“ไม่มีมิตรแท้ และศัตรูที่ถาวร” อะไรก็ได้ที่สมประโยชน์ อะไรก็ได้ที่เป็นชัยชนะ  ทุกอย่าง “เกี๊ยะเซียะ” ได้หมด

ยิ่งไปกว่านี้ ยังไม่ทันได้ตกลงปลงใจว่า จะได้เข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ บางคนจมูกดี จมูกไว วิ่งพล่าน ตีตั๋วจองเก้าอี้กันแต่หัววัน ทั้งๆ ที่การเจรจายังไม่ตกผลึก ทำเอาห้องเจรจาลับ ย่านราชประสงค์ คึกคักไปซะอย่างนั้น งานนี้มีหวังเปิดศึกชิงเก้าอี้รัฐมนตรีอีกระลอก ก็เพราะพรรคที่จะเข้าร่วมรัฐบาลมันเยอะเสียเหลือเกิน 

ส่วนพรรคก้าวไกล ยังไงรอบนี้คงหลุดจากการร่วมรัฐบาล ด้วยเงื่อนไขจากกลุ่มคนที่ไม่ต้องการ เห็นคนจากก้าวไกลเข้ามาบริหารประเทศ โดยใช้เหตุผลการแก้ มาตรา 112 เป็นตัวจุดฉนวน แม้ก้าวไกลได้รับเสียงจากประชาชนกว่า 14 ล้านเสียงก็ตาม แต่คนที่โหวตในสภากลายเป็นเสียงจากสส.และสว.

ตั้งรัฐบาล

ประเด็นถัดมาสิ่งที่ก้าวไกลเอง หรือกองเชียร์ทั้งหลาย ประเมินแล้วว่าคงหนีไม่พ้นถูก “ยุบพรรค”  แต่เวลานี้ “การปล่อยวาง” คือสิ่งที่ดีที่สุด ไม่ต้องไปยื้อยุดฉุดกระชาก อะไรกับพรรคเพื่อไทย การจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้จะมีก้าวไกลร่วมอยู่ด้วยหรือไม่ เป็นหน้าที่ของพรรคเพื่อไทยที่จะต้องตัดสินใจ จะเอาไว้หรือตัดขาดปล่อยเขาไป สำคัญสุดก้าวไกลต้องรักษาจุดยืนตัวเองเอาไว้

อ่านข่าวเพิ่มเติม