พราว เรียล เอสเตท ปั้น “อินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน” โครงการที่พักอาศัยระดับลักชัวรี่ที่แรกในไทย ภายใต้แบรนด์อินเตอร์คอนติเนนตัล แห่งแรกในประเทศไทย บนพื้นที่กว่า 7 ไร่ติดชายหาดผืนสุดท้ายใจกลางเมืองหัวหิน ทุบสถิติราคาไร่ละ 150 ล้านบาท
นางสาวพราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้เปิดตัวโครงการ “อินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน” (InterContinental Residences Hua Hin) บนพื้นที่กว่า 7 ไร่ติดชายหาดผืนสุดท้ายใจกลางเมืองหัวหิน บนถนนเพชรเกษม ช่วงซอยหัวหิน 71 ซึ่งถือเป็นสถิติราคาที่ดินสูงสุดของหัวหิน ด้วยราคาที่มากกว่า 150 ล้านบาทต่อไร่ พร้อมแต่งตั้ง ซีบีอาร์อี บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ระดับสากล ให้เป็นตัวแทนการขายของโครงการอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ การพัฒนาโครงการ อินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน เป็นการต่อยอดความร่วมมือกับ อินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเทล กรุ๊ป (ไอเอชจี) และยังเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ในการพัฒนาโครงการที่พักอาศัย ระดับลักชัวรี่ ภายใต้ แบรนด์อินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส ซึ่งเป็นแบรนด์เอ็กซ์คลูซีฟที่มีเพียงไม่กี่แห่งในมหานครชั้นนำของโลกเท่านั้น เช่น บอสตัน ดูไบ
ดังนั้นความร่วมมือในครั้งนี้ จึงสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่อินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเต็ล กรุ๊ป มีต่อพราว เรียล เอสเตท และสถานะของหัวหินในการเป็นเมืองท่องเที่ยวชั้นนำ ซึ่งโครงการอินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน ถือว่าเป็นต้นแบบของการพัฒนาโครงการที่เป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย ตามแนวคิด “More than just living” ที่ออกแบบทุกองค์ประกอบของโครงการมีความพิถีพิถัน ทั้งสถาปัตยกรรม การตกแต่งภายใน และภูมิทัศน์โดยนักออกแบบที่ได้รับรางวัลระดับโลก
นอกจากนี้ ยังนำเสนอสิทธิพิเศษในการท่องเที่ยวและการใช้ชีวิตผ่านการเป็นสมาชิก “ไอเอชจี รีวอร์ด แพลตทินัม อีลีท เมมเบอร์ชิป” (IHG Rewards Platinum Elite Membership) ซึ่งจะได้รับสิทธิพิเศษมากมายในการใช้บริการธุรกิจในเครือไอเอชจี ทั่วโลก อีกทั้งยังมีการสร้างสรรค์เอกสิทธิ์ให้แก่ลูกบ้านในเรื่องของการใช้ชีวิตที่ครอบคลุมไลฟ์สไตล์ทุกด้าน ผ่านสิทธิประโยชน์ของ “พราว พริวิเลจ”(Proud Privileges) ซึ่งรวมไปถึงสิทธิ์ในการใช้ 111 Social Club บ้านสไตล์ Colonial เก่าแก่ซึ่งจะอยู่ติดกับโครงการ อินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน นำมาปรับปรุงเป็นคลับเฮ้าส์ติดชายหาด โดยคาดว่า 111 Social Club จะเป็นสถานที่เช็คอินแห่งใหม่ของหัวหินที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอย่างแน่นอน
นางสาวเซเรน่า ลิม รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจ อินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเต็ล กรุ๊ป (ไอเอชจี) ภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเกาหลี กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับไอเอชจี การคัดสรรพันธมิตรคือปัจจัยสำคัญยิ่งต่อความสำเร็จของโครงการ และพราว เรียล เอสเตท มีคุณสมบัติครบถ้วน ในฐานะผู้พัฒนาอสังหาฯ ชั้นนำที่มุ่งมั่นต่อการสร้างสรรค์คุณภาพในระดับสูงสุด ด้วยผลงานแห่งความสำเร็จที่ผ่านมาจากโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ต รีสอร์ท และฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท วานา นาวา หัวหิน
ด้านนายไพสิฐ แก่นจันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ด้วยมูลค่าโครงการกว่า 3,500 ล้านบาท “อินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน” มอบคุณภาพชีวิตที่เหนือระดับด้วยพื้นที่เปิด 70% ของโครงการ หรือมากกว่า 7,000 ตารางเมตร ประกอบด้วยพื้นที่สวน ชายหาดส่วนตัว และ 7 สระว่ายน้ำสำหรับเด็ก ครอบครัว ผู้สูงอายุ และผู้ต้องการออกกำลังกาย ซึ่งรวมถึงสระจากุซซี่ขอบใสริมหาด ห้องออกกำลังกายที่ซ่อนอยู่ใต้สระว่ายน้ำ (Hidden Gym) ที่มาพร้อมกับห้องสปา อีกทั้งพื้นที่จัดเลี้ยงริมหาด (Beach Pavilion) และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อีกมากมาย
พร้อมกันนี้ ยังเน้นความเป็นส่วนตัวด้วยจำนวนเพียง 238 ยูนิต แต่ละชั้นมี 3-13 ยูนิต โดยทุกยูนิตมีขนาดและการออกแบบพื้นที่ที่ใช้งานได้จริงหลากหลายแบบเริ่มต้นที่ 45 ตรม. มียูนิต Pool Access ที่สามารถเดินลงสระว่ายน้ำได้ ดูเพล็กซ์สามห้องนอนพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว และเพนท์เฮ้าส์พร้อมวิวทะเล 270 องศา ขนาด 300 ตรม. ส่งมอบพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบครัน การบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ในมาตรฐานของโรงแรมระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นบริการบัตเลอร์และคอนเซียจ บริการดูแลทำความสะอาด บริการซักรีด บริการซ่อมแซมและบำรุงรักษา
นางสาวอลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบีอาร์อี จำกัด กล่าวว่า ในปี 2562 ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในหัวหินยังมีแนวโน้มที่ดี เนื่องจากตลาดมีความสมดุลในส่วนของ อุปสงค์และอุปทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคอนโดมิเนียมติดชายทะเลเป็นที่ต้องการอย่างต่อเนื่อง จากการสำรวจพบว่าไม่ได้มีการพัฒนาโครงการติดชายหาดหัวหินมาเป็นเวลากว่า 11 ปีแล้ว เนื่องจากที่ดินในบริเวณดังกล่าวถูกพัฒนาไปเป็นโรงแรมระดับห้าดาวและรีสอร์ทเป็นส่วนใหญ่ ส่งผลให้ 10 ปีที่ผ่านมา มีคอนโดมิเนียมใหม่ติดชายหาด เปิดตัวเพียง 356 ยูนิต ซึ่งมียอดขายไปแล้วกว่า 85%