สัตวแพทย์สาธารณสุข อาจารย์คณะสัตวแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กังวลสถานการณ์ “หมูเถื่อน” เนื้อสุกรลักลอบนำเข้า วางจำหน่ายอย่างแพร่หลายในประเทศ ชี้อาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อระบบสาธารณสุขสัตว์ในประเทศอีกครั้ง หลังไทยสามารถควบคุมสถานการณ์ ASF ได้แล้ว ทั้งยังสร้างหายนะเศรษฐกิจด้วย
ผศ.ดร.นายสัตวแพทย์ ดุสิต เลาหสินณรงค์ ภาควิชาเวชศาสตร์คลินิกและการสาธารณสุข คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูมีอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศไทย ก่อนหน้านี้เกษตรกรก็หวั่นเกรงว่า ไวรัสอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) จะทำให้เกิดหายนะกับวงการหมูไทย สุดท้ายก็ไม่ใช่ และผ่านมากันได้
แต่ก็ส่งผลให้ราคาเนื้อหมูขยับขึ้น จนทำให้หายนะที่แท้จริงเริ่มก่อตัวขึ้น นั่นคือ “ขบวนการนำเข้าหมูเถื่อน” ซึ่งบางคนอาจคิดเพียงว่า เนื้อหมูเหล่านี้ ช่วยให้ราคาเนื้อหมูถูกลง แต่นั่นเป็นเพียงแค่มิติเดียว
“ในฐานะสัตวแพทยสาธารณสุข มีความกังวลใจต่อสถานการณ์หมูเถื่อนอย่างมาก เพราะผลกระทบแรกที่เห็นคือ เนื้อหมูเถื่อนเหล่านี้ ไม่ผ่านการตรวจสอบเพื่อควบคุมป้องกันโรคข้ามพรมแดน เชื้อโรคหนึ่งที่วงการหมูไทยกลัวอย่างมากคือ ไวรัส ASF เพราะไวรัสนี้เคยสร้างความเสียหายไว้อย่างมาก และเป็นต้นเหตุให้เนื้อหมูไทยยังผลิตได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการ”
ในมุมของผู้บริโภคย่อมไม่กังวลใจเนื่องจากไวรัสนี้ไม่ก่อโรคในคน แต่เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูไทยได้ลงทุนกับมาตรการป้องกันโรคอย่างมาก ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ประกอบกับสถานการณ์โลกทำให้ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์สูงขึ้น เพียง 2 ปัจจัยนี้ ก็ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และไม่สามารถผลักภาระนี้ไปยังผู้บริโภคได้
นอกจากนี้ ยังมีเชื้อโรคที่ติดคนได้ เพราะเนื้อหมูเถื่อนจะสำแดงเท็จเป็นสินค้าอื่น ทำให้ไม่ผ่านการตรวจโรค และการปนเปื้อน หากประชาชนไทยบริโภคแล้วเจ็บป่วย อาจจะพาลคิดว่าเนื้อหมูไทยไม่ได้คุณภาพ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วเกิดจากเนื้อหมูเถื่อน
ทางด้าน รศ.ดร.นายสัตวแพทย์ กัมพล แก้วเกษ ภาควิชาเวชศาสตร์คลินิกและการสาธารณสุข คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า เนื้อหมูเถื่อนมีต้นทุนต่ำกว่าหมูไทย เนื่องจากส่วนหนึ่งเป็นเนื้อหมูที่นำเข้าจากประเทศที่มีปัญหาโรคระบาด ASF และอีกส่วนหนึ่งเป็นเนื้อหมูหมดอายุ
แต่ด้วยการโพสต์ขายเกลื่อนสังคมออนไลน์ในราคาที่ถูกมาก จนเป็นที่ล่อตาล่อใจต่อผู้ประกอบการที่ใช้เนื้อหมูเป็นวัตถุดิบหลัก เช่น ร้านอาหาร ร้านหมูกระทะชาบู ตลอดจนเขียงหมู ผลกระทบนี้ส่งผลต่อวงการหมูไทยอย่างมาก ทำให้ภาวะสมดุลเปลี่ยนไป
“เมื่อมีเนื้อหมูในตลาดมาก พ่อค้าย่อมกดราคาหมูเป็น ทำให้ราคาหมูเป็นตกต่ำ จนต่ำกว่า หรือใกล้เคียงกับต้นทุน ขณะที่ผู้เลี้ยงหมูได้รับผลกระทบจากโรคระบาด กว่าจะกลับมาเลี้ยงใหม่ต้องลงทุนลงแรงไปมากมาย กลับมาเจอสถานการณ์ราคาตกต่ำอีก”
สถานการณ์ดังกล่าว จะส่งกระทบเป็นลูกโซ่คือ ไม่มีเงินชำระหนี้ ไม่มีเงินชำระค่าสินค้าวัตถุดิบ ไม่มีเงินจ่ายเงินเดือน คนงานในฟาร์มก็ไม่มีเงินไปใช้หนี้ หรือจับจ่ายใช้สอย สถาบันการเงินเสี่ยงต่อการมีหนี้เสียเพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการจำหน่ายสินค้าและวัตถุดิบไม่มีรายได้ สุดท้ายผลกระทบก็จะนำไปสู่มหภาค นั่นคือเศรษฐกิจของไทย และนี่คือ หายนะอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ “ขบวนนำเข้าหมูเถื่อน” ไม่ใช่แค่ส่งผลกระทบให้เกษตรกรขายหมูเป็นได้น้อยลง เขียงหมูขายเนื้อหมูได้ลดลง แต่ยังกระทบต่อเนื่องไปอีกหลายอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง หากคิดเป็นมูลค่ารวมแล้วคงเป็นหลักแสนล้านบาท
ดังนั้น คนไทยควรจะพิจารณาให้ถี่ถ้วน อย่าเห็นแต่สินค้าราคาถูก แต่ควรคำนึงถึงคุณภาพ เลือกซื้อเนื้อหมูจากร้าน หรือตลาดที่เชื่อถือได้ และขอวิงวอนผู้ประกอบการที่ซื้อเนื้อหมูเถื่อนให้คำนึงถึงคนไทยด้วยกัน โดยไม่ควรสนับสนุนการกระทำผิดกฎหมาย
พร้อมเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่สามารถกวาดล้างขบวนการนำเข้าหมูเถื่อนได้สำเร็จ เพื่อให้เกษตรกรไทยอยู่รอด ผลิตเนื้อหมูคุณภาพปลอดภัยแก่คนไทย และสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับประเทศต่อไปได้อย่างยั่งยืน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- กรมปศุสัตว์ บุกตรวจห้องเย็นนครปฐม พบ ซุกเนื้อหมูเถื่อน 59 ตัน
- ‘ปูพรม’ ตรวจห้องเย็นทั่วประเทศ งัด ‘9 มาตราการแก้หมูแพง’
- เด็กยังคิดได้!! ชาวเน็ตแห่ชื่นชม เด็กเชียงรายวัย 14 เสนอ 3 ขั้นตอน แก้ปัญหา ‘หมูแพง’
