Economics

จ่อขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 5-8% คาดมีผลบังคับใช้ไม่เกินสิ้นปีนี้

กระทรวงแรงงาน จ่อขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 5-8% เผยคณะกรรมการค่าจ้าง (ไตรภาคี) เตรียมพิจารณาอัตราค่าจ้างได้ในเดือนสิงหาคมนี้ คาดมีผลบังคับใช้ 1 มกราคม 2566

จากกรณีกลุ่มแกนนำผู้ใช้แรงงานได้เข้าพบนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เพื่อหารือเรื่องการขอปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 492 บาท เท่ากันทั่วประเทศ ซึ่งทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้ยืนยันว่าจะมีการปรับขึ้นค่าแรงแน่นอน และจะมีผลช่วงเดือน มกราคม 2566 แต่คงจะปรับเป็นตัวเลขตามที่เสนอมาไม่ได้ และคงไม่สามารถเท่ากันทั่วประเทศ เพราะแต่ละพื้นที่มีบริบทต่างกัน

ค่าแรงขั้นต่ำ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า คณะกรรมการค่าจ้าง (ไตรภาคี) จะสามารถพิจารณาอัตราค่าจ้างได้ในเดือนสิงหาคมนี้ เพราะมีการการสรุปตัวเลขจาก 77 จังหวัดเสร็จแล้วเมื่อกรกฎามคม 2565 โดยเบื้องต้นค่าจ้างขั้นต่ำจะปรับขึ้นราว 5-8% ตามหลักการปรับตามหลักสากลที่อิงจากฐานของอัตราเงินเฟ้อในการคำนวณ

ทั้งนี้ เป้าหมายจะให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2566 อาจจะพิจารณาให้มีผลบังคับใช้สิ้นปีนี้ เนื่องจากลูกจ้างได้รับผลกระทบต่อค่าครองชีพที่สูงขึ้นอย่างมาก ทำให้รายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย หลังจากนี้ต้องนำเสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาบังคับใช้ต่อไป

ค่าแรงขั้นต่ำ

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายสุชาติ กล่าวว่า การพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำแต่ละครั้งนั้น มีคณะกรรมการค่าจ้าง หรือบอร์ดค่าจ้าง ซึ่งเป็นผู้แทนองค์กรไตรภาคีทั้ง 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายรัฐบาล นายจ้าง และลูกจ้างพิจารณาและปรึกษาหารืออย่างรอบคอบก่อนจะได้ข้อยุติร่วมกัน แม้ว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในปัจจุบันมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 จนถึงปัจจุบันแล้ว 

ในปี 2565 คณะกรรมการค่าจ้างได้กำหนดแผนการทบทวนความเหมาะสมของอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างขั้นตอนการให้คณะอนุกรรมการพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัดและคณะอนุกรรมการพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำกรุงเทพมหานคร ดำเนินการจัดประชุมเพื่อพิจารณาทบทวนความเหมาะสมของอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัดและกรุงเทพมหานครให้แล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม 2565 จากนั้นคณะกรรมการค่าจ้างจะพิจารณาข้อมูลทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2565 

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo