Economics

‘คนละครึ่งเฟส 5’ เคลียร์ครบจบที่นี่! คนเก่าต้องลงทะเบียนใหม่มั้ย รายใหม่ต้องทำไง เช็คเลย!

คนละครึ่งเฟส 5 เคลียร์ครบจบที่นี่! คนเก่าต้องลงทะเบียนใหม่มั้ย รายใหม่อยากได้สิทธิ์ต้องทำอย่างไร เช็ครายละเอียดที่นี่

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติโครงการ คนละครึ่ง เฟส 5 กรอบวงเงิน รวม 21,200 ล้านบาท โดยมีกลุ่มเป้าหมายจำนวนไม่เกิน 26.5 ล้านคน ระยะเวลาดำเนินการสี่เดือนตั้งแต่สิงหาคม-พฤศจิกายน 2565 โดยให้ประชาชนใช้สิทธิ์ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน-31 ตุลาคม 2565

คนละครึ่งเฟส 5

ทั้งนี้ เงื่อนไขคนละครึ่งเฟส 5 รูปแบบการดำเนินการ ภาครัฐร่วมชำระค่าอาหารเครื่องดื่มสินค้าและบริการทั่วไปและบริการขนส่งสาธารณะที่กำหนดในอัตรา 50% ไม่เกิน 150 บาท/คน/วัน หรือไม่เกิน 800 บาทต่อคน

คุณสมบัติผู้ได้รับสิทธิคนละครึ่งเฟส 5

  • ต้องเป็นประชาชนสัญชาติไทย
  • อายุ 18 ปี ขึ้นไป
  • มีบัตรประชาชน
  • ไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือไม่ได้รับสิทธิโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ต้องการช่วยเหลือพิเศษ

การลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 5

  1. ผู้ที่เคยได้รับสิทธิ์คนละครึ่งเฟส 4 มาแล้ว สามารถยืนยันสิทธิเพื่อเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 5 ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2565 โดยจะต้องใช้สิทธิโครงการคนละครึ่งเฟส 5 ในการซื้อสินค้าหรือบริการภายใต้โครงการคนละครึ่งเฟส 5 ครั้งแรกผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ภายในวันที่ 14 กันยายน 2565 เวลา 22.59 น. ซึ่งหากพ้นกำหนดเวลาดังกล่าว จะถูกตัดสิทธิการเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 5
  2. สำหรับประชาชนทั่วไป นอกเหนือจาก 1. จะต้องดำเนินการ ดังนี้
  • กรณีเป็นประชาชนที่เคยได้รับสิทธิมาตรการ/โครงการอื่นของรัฐที่มีการใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 5 ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” หรือผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2565
  • ประชาชนนอกจากนั้น สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 5 ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2565

คนละครึ่งเฟส 5

ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับการยืนยันสิทธิจากการลงทะเบียนตาม 2. ก่อนวันที่ 1 กันยายน 2565 จะต้องใช้สิทธิโครงการคนละครึ่งเฟส 5 โดยการซื้อสินค้าหรือบริการในโครงการคนละครึ่งเฟส 5 ครั้งแรกผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ภายในวันที่ 14 กันยายน 2565 เวลา 22.59 น. ซึ่งหากพ้นกำหนดเวลาดังกล่าว จะถูกตัดสิทธิในโครงการคนละครึ่งเฟส 5

สำหรับประชาชนที่ได้รับการยืนยันสิทธิจากการลงทะเบียนตาม 2. ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2565 เป็นต้นไป จะต้องใช้สิทธิโครงการคนละครึ่งเฟส 5 โดยการซื้อสินค้าหรือบริการในโครงการคนละครึ่งเฟส 5 ครั้งแรกผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ภายใน 14 วัน นับแต่วันที่ได้รับข้อความผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” หรือข้อความสั้น (SMS) แจ้งยืนยันสิทธิในโครงการคนละครึ่งเฟส 5 ซึ่งหากพ้นกำหนดเวลาดังกล่าว จะถูกตัดสิทธิในโครงการคนละครึ่งเฟส 5

การยืนยันตัวตน

ก่อนการใช้สิทธิครั้งแรก ผู้ได้รับสิทธิตามโครงการคนละครึ่งเฟส 5 จะต้องยืนยันตัวตนด้วยบัตรประจำตัวประชาชนที่สาขาหรือตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย จํากัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทย) ยกเว้นผู้ที่เคยยืนยันตัวตนด้วยบัตรประจำตัวประชาชนกับธนาคารกรุงไทย หรือผู้ที่มีแอปพลิเคชัน “Krungthai NEXT” ซึ่งผ่านการยืนยันตัวตนกับธนาคารกรุงไทยแล้ว ไม่ต้องยืนยันตัวตนใหม่อีก

สิทธิประโยชน์คนละครึ่งเฟส 5

  • ภาครัฐจะร่วมจ่ายค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าและบริการที่กำหนด ในอัตรา 50% ไม่เกิน 150 บาท/คน/วัน หรือไม่เกิน 800 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ
  • ผู้ได้รับสิทธิสามารถซื้ออาหาร เครื่องดื่ม จากร้านอาหารและเครื่องดื่มที่เข้าร่วมโครงการฯ ผ่านผู้ให้บริการระบบขนส่งอาหาร (Food Delivery Platform) ที่ได้รับอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการฯ ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ซึ่งรัฐบาลจะสนับสนุนเงินในส่วนค่าอาหารและ/หรือเครื่องดื่มเท่านั้น ไม่รวมค่าจัดส่งหรือค่าใช้จ่ายอื่น ซึ่งประชาชนที่ได้รับสิทธิ จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินสนับสนุนที่ภาครัฐร่วมจ่ายตามโครงการดังกล่าวนี้ด้วย

คนละครึ่งเฟส 5

ห้ามใช้ซื้ออะไรบ้าง?

ประเภทสินค้าและบริการ อาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป บริการนวด สปา ทำเล็บ ทำผม และบริการขนส่งสาธารณะ โดยไม่รวมสินค้าสลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ บัตรกำนัลบัตรเงินสด และบริการรูปแบบอื่นๆ ที่เป็นการชำระค่าสินค้าหรือ บริการล่วงหน้า ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้สามารถกำหนดเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงรายการสินค้าและบริการของโครงการฯ ได้

“การดำเนินโครงการเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจจนถึงระดับฐานรากอย่างต่อเนื่อง เพิ่มอุปสงค์ในการบริโภค กระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ ช่วยให้ผู้ประกอบการรายย่อยทุกระดับมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการ เกิดการลงทุน ลดภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันให้กับประชาชนในสถานการณ์ที่ราคาสินค้าปรับเพิ่มขึ้น คาดว่าจะทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ เพิ่มเติม 42,400 ล้านบาท GDP ขยายตัว 0.12% เมื่อเทียบกับกรณีไม่มีโครงการ” นายธนกร กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK