บอร์ดสลากไฟเขียว ‘หวยออนไลน์’ ดีเดย์งวดแรก 2 พ.ค.นี้ ราคา 80 บาท ขายต่อไม่ได้ ซื้อผ่านแอปเป๋าตัง พร้อมเข้มการรับสลากป้องกันการขายยกเล่ม หากพบถูกตัดโควต้าแน่
วันนี้ (27 ม.ค.) นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะประธานคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า บอร์ดสลากฯ ได้เห็นชอบให้สำนักงานสลากฯไปจัดทำระบบจำหน่ายสลากผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือแพลตฟอร์อออนไลน์ ภายใต้ชื่อ แพลตฟอร์มจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล (ดิจิทัล ลอตเตอรี่) ด้วยวิธีการสแกนสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวจริงแล้วนำไปโพสต์ขายบนแพลตฟอร์มดิจิทัล ลอตเตอรี่ ซึ่งจะเป็นมาร์เก็ตเพลสของสำนักงานสลากฯเอง
เพื่อเป็นช่องทางการจำหน่ายสลากให้ผู้ได้รับโควต้าสลาก แต่ผู้ค้าจะต้องขายในราคาไม่เกิน 80 บาท และเมื่อทำการซื้อขายสลากฯ ผู้ซื้อจะมีเอกสารหลักฐานทางอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมภาพสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นหลักฐาน โดย สำนักงานสลากฯ จะจัดเก็บข้อมูลไว้ ซึ่งล็อตเตอรี่ใบที่ได้จำหน่ายไปแล้ว จะไม่สามารถนำไปขายต่อได้อีก หรือเปลี่ยนสิทธิไม่ได้ เพราะสลากขายได้ครั้งเดียว
ขณะที่ผู้ขายบนแพลตฟอร์มยังมีสลากเหลือในช่วงใกล้วันออกรางวัลนั้น ผู้ขายสามารถปรับลดราคาขายสลากต่ำกว่า 80 บาทได้ เพื่อระบายสลากที่เหลือบนแพลตฟอร์มดิจิทัล
โดยผู้ที่ได้รับโควต้าสลาก จะต้องลงทะเบียนการขายผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลของสำนักงานสลากฯ และเปิดบัญชีกับธนาคารกรุงไทย มีแอปพลิเคชั่นถุงเงิน ส่วนผู้ซื้อจะต้องซื้อผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตังเท่านั้น เนื่องจากธนาคารกรุงไทย จะเป็นผู้ทำระบบทั้งหมดให้กับสำนักงานสลากฯ
“หลังจากบอร์ดสลากฯ เห็นชอบ การจำหน่ายช่องทางแพลตฟอร์มดิจิทัลแล้ว จะนำเรื่องเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เพื่อขอความเห็นชอบ เนื่องจากเป็นหนึ่งในหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ โดยยืนยันว่าไม่ได้เป็นการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่เป็นเพียงช่องทางการจำหน่ายสลากราคา 80 บาทเท่านั้น”
นายลวรณ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการเปิดลงทะเบียนผู้ซื้อจองสลากกินแบ่งรายใหม่ เพื่อแก้ไขปัญหาสลากเกินราคาใบละ 80 บาท โดยตั้งแต่เปิดลงทะเบียนเมื่อวันที่ 1 -27 มกราคม 2565 มีผู้ลงทะเบียนแล้ว 8.78 แสนราย ถือว่าเกิดความคาดหมาย จากเดิมคาดว่าจะมีผู้มาลงทะเบียน 4- 5 แสนราย เมื่อสิ้นสุดการลงทะเบียนวันที่ 31 มกราคม นี้ คาดว่าจะมียอดการลงทะเบียนทะลุ 1 ล้านราย
จากนั้นสำนักงานสลากฯจะคัดกรองเป็นเวลา 2 เดือน เพื่อให้ได้ผู้ค้าสลากตัวจริงที่ขายสลากในราคาในละ 80 บาทเท่านั้น ซึ่งเป็นไปตามแบบกำหนดการเดิม คือ ผู้ที่ลงทะเบียนจะได้รับสลากในวันที่ 19-21 เมษายน 2565 และขายสลากฯ สำหรับออกรางวัลในงวด วันที่ 2 พฤษภาคม 2564
ยืนยันว่าจะไม่มีการเพิ่มจำนวนรับสมัครผู้ค้าสลากเกิน 2 ราย เนื่องจาก สลากมีอยู่จำนวนจำกัด ถ้าหากเพิ่มจะทำให้ผู้ค้ามีการแข่งขันเพื่อแย่งสลากมาขายสูงมากขึ้น
ส่วนโครงการสลาก 80 บาท ขณะนี้ปิดการลงทะเบียนแล้ว โดยมีผู้สนใจ 4,780 ราย หลังจากนี้จะคัดกรองให้ได้ผู้ค้าตัวจริง 1,000 รายก่อน และทำการเกลี่ยกระจายให้ครบทุกพื้นที่ เพื่อจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 2 พฤษภาคม นี้เช่นกัน
นอกจากนี้ จะร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้มงวดการตรวจสอบการรับสลากกินแบ่งรัฐ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ไทยทุกแห่ง เพื่อมิให้ผู้ได้รับโควต้านำไปขายยกเล่ม เพราะถือว่าผิดเงื่อนไข หากตรวจสอบพบกระทำความผิดจะตัดสิทธิและตัดโควต้าทันที และหลังจากนั้นจะขึ้นบัญชีดำ (แบล็กลิสต์) ทำไม่สามารถเป็นผู้ขายสลากฯที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานสลากได้อีกต่อไป
“ทุกมาตรการเหล่านี้ เพื่อเดินหน้าแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา 80 บาท โดยเชื่อว่าจะค่อยๆเปลี่ยนโฉมการขายล็อตเตอรี่ของประเทศไทย ซึ่งจะเห็นได้ชัดในเดือนพ.ค.นี้” นายลวรณ กล่าว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เบาใจ!! ‘จุรินทร์’ กล่อมตรึงราคาหมู-ไก่ช่วงตรุษจีน – จับมือห้างขายไก่ต้ม 189 บาททั่วประเทศ
- ‘โมเดอร์นา’ กำลังทดสอบ วัคซีนเข็มกระตุ้น ‘ต้านโอไมครอนโดยเฉพาะ’
- ‘ดร.เจษฎา’ เคลียร์ชัด สายพันธุ์ย่อย BA.2 ทำไมเรียก ‘โอไมครอนล่องหน’