ปตท.สผ. เผย ได้รับจดหมายจาก “โททาลเอนเนอร์ยี่ส์ อีพี เมียนมา” ถึงการเปลี่ยนแปลงผู้ร่วมทุนในโครงการยาดานา ประเทศเมียนมาแล้ว ระบุ ยังเป็นผู้ร่วมทุนรายเดียวที่แจ้งขอถอนตัวอย่างเป็นทางการในขณะนี้
จากกรณีที่ บริษัท โททาลเอนเนอร์ยี่ส์ อีพี เมียนมา ได้ขอถอนตัวจากการเป็นผู้ร่วมทุน และผู้ดำเนินการ ในโครงการยาดานา และในบริษัทขนส่งก๊าซธรรมชาติเมาะตะมะ (เอ็มจีทีซี) ซึ่งดำเนินธุรกิจท่อส่งก๊าซจากโครงการ ในประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2565 นั้น
ล่าสุด บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมลงทุนในโครงการยาดานา เปิดเผยว่า ได้รับจดหมายดังกล่าวอย่างเป็นทางการจากบริษัท โททาลเอนเนอร์ยี่ส์ อีพี เมียนมา แล้ว ซึ่งเป็นผู้ร่วมทุนรายเดียวที่ได้แจ้งขอถอนตัวอย่างเป็นทางการในขณะนี้ โดยระบุว่า ในช่วงที่โททาลฯ ยังคงเป็นผู้ดำเนินการในโครงการต่อไปอีก 6 เดือนนั้น จะสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านการดำเนินงานไปยังผู้ดำเนินการใหม่
โครงการยาดานามีอัตราการผลิตก๊าซธรรมชาติในปี 2564 ประมาณ 770 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน โดยส่งก๊าซธรรมชาติให้กับประเทศไทยประมาณ 570 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เพื่อใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าให้กับพื้นที่ภาคตะวันตกของไทย
ปริมาณดังกล่าวคิดเป็น 10-15% ของความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติในไทย ขณะที่อีกประมาณ 200 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ใช้สำหรับผลิตกระแสไฟฟ้าในประเทศเมียนมา และคิดเป็นประมาณ 50% ของความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติในเมียนมา
ปตท.สผ. โดยบริษัทย่อย บริษัท ปตท.สผ. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้ดำเนินการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในเมียนมา มากว่า 30 ปี เพื่อพัฒนาแหล่งก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตกระแสไฟฟ้า และเป็นสาธารณูปโภคพื้นฐานที่สำคัญต่อความเป็นอยู่ของประชาชน ทั้งด้านการดำรงชีวิตประจำวัน ด้านสาธารณสุข ด้านการศึกษา ด้านโทรคมนาคม เป็นต้น
ตลอดระยะเวลาที่ดำเนินธุรกิจทั้งในประเทศเมียนมา และประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก บริษัทยึดมั่นหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีเป็นแนวทางในการดำเนินงานมาโดยตลอด
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- 2 ยักษ์น้ำมันโลก ‘โททาลเอนเนอร์ยีส์-เชฟรอน’ ถอนลงทุน ‘เมียนมา’ ชี้ ‘สิทธิมนุษยชน-หลักนิติธรรม’ ย่ำแย่หนัก
- ปตท.- ปตท.สผ. ลงนามซื้อขายน้ำมันดิบโอมาน สร้างความมั่นคงด้านพลังงาน
- เปิดพอร์ตลงทุน ปตท. เปิดทุกแนวรบ ลุย FUTURE ENERGY