“อนุทิน” นั่งหัวโต๊ะ ประชุม คณะกรรมการบูรณาการการเชื่อมโยงทางรถไฟระหว่างไทย ลาว และจีน ขอให้ทุกฝ่ายร่วมกันบูรณาการการทำงาน สั่ง รฟท.ของบกลาง ออกแบบสะพานข้ามน้ำโขงแห่งที่ 2
วันนี้ (13 ม.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบูรณาการการเชื่อมโยงทางรถไฟระหว่างไทย ลาว และจีน ว่า ในที่ประชุมได้ขอให้ทุกฝ่ายร่วมกันบูรณาการการทำงาน โดยยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชนเป็นที่ตั้งนำไปสู่การพัฒนาเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พร้อมด้วยกระทรวงคมนาคม ได้ร่วมหารือเพื่อพิจารณาแผนการดำเนินการเชื่อมโยงทางรถไฟระหว่างไทย ลาว และจีน โดยเห็นชอบแผนการดำเนินงาน และเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อติดตามความก้าวหน้าสถานะการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ ยังเห็นชอบการจัดทำ Framework Agreement การขนส่งทางรถไฟระหว่างไทย ลาว และจีน โดยการเชื่อมต่อการเดินทางข้ามแดนผ่านทางรถไฟช่วงหนองคาย-เวียงจันทน์ ซึ่งในการเจรจาระหว่างประเทศนั้น ให้ดำเนินการเจรจาบนพื้นฐานที่ไทย ลาว และจีนมีความเกี่ยวข้องและผลประโยชน์ร่วมกัน โดยอาจยกระดับให้เป็นบันทึกข้อตกลงที่มีความผูกพันเพิ่มเติม
พร้อมกันนี้ ได้ให้ รฟท. ดำเนินการของบกลางเพื่อออกแบบสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 2 และเร่งดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศต่อไป รวมถึงให้มีการแต่งตั้งองค์ประกอบของคณะกรรมการเพิ่มเติม ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อพิจารณาแนวทางการบูรณาการการเชื่อมโยงทางรถไฟไทย ลาว และจีน ต่อไป
อย่างไรก็ตาม คาดว่า เมื่อสภาวะการณ์ของประเทศผ่านช่วงสถานการณ์โควิด-19 แล้ว มูลค่าทางการค้าที่บริเวณด่านหนองคาย ผ่านโครงข่ายรถไฟไทย ลาว และจีน จะสร้างมูลค่าทางการค้าเพิ่มขึ้น
โครงการรถไฟจีน-ลาว เปิดเดินรถอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ที่ผ่านมา ถือเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคตะวันตกประเทศจีน มายัง ลาว และไทย
เส้นทางรถไฟดังกล่าวมีความสำคัญในการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เมื่อมีการเชื่อมต่อโครงข่ายโดยสมบูรณ์จากจีน ลาวมายังไทยแล้ว จะช่วยลดต้นทุนการขนส่งสินค้าตลอดเส้นทางได้ถึง 30-50%
ใน 3-5 ปีข้างหน้า เมื่อโครงสร้างพื้นฐานในส่วนนี้ได้รับการพัฒนา ควบคู่ไปกับการเตรียมความพร้อมมีการบริหารจัดการรองรับการขนส่ง เพื่อใช้ประโยชน์เส้นทางรถไฟสายนี้ในการพัฒนาเศรษฐกิจ จึงเป็นทั้งโอกาส และความท้าทายของประเทศไท ยและประเทศเพื่อนบ้านที่จะร่วมกันยกระดับเศรษฐกิจในภูมิภาค ให้มีเสถียรภาพ และยั่งยืน
ทั้งนี้ มูลค่าการค้าระหว่างไทย และลาว รวมการนำเข้า-ส่งออกของประเทศ ในปีงบประมาณ 2564 มีมูลค่าสูงถึง 70,000 ล้านบาท โดยไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้า จากการส่งออกที่มากกว่าการนำเข้าถึง 6 เท่า
แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 จะส่งผลต่อการค้าระหว่างประเทศรวมถึงการเดินทางของประชาชน แต่การค้าชายแดน ณ ด่านศุลกากรหนองคาย ซึ่งเป็นจุดเชื่อมโยงการขนส่งของไทย ลาว และจีน พบว่า ในปี 2564 การส่งออกสินค้ามีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 23% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2563 โดยเพิ่มขึ้นกว่า 12,000 ล้านบาท ในขณะที่การนำเข้าปี 2564 ลดลงเพียงเล็กน้อยประมาณ 2,000 ล้านบาท คิดเป็นลดลง 8% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2563
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ผวาโอไมครอน!! ‘ศักดิ์สยาม’ สั่ง ‘บขส. -รฟม.-รถไฟ’ สุ่มตรวจ ATK ก่อนการเดินทาง
- ‘ศักดิ์สยาม’ สั่ง ‘รฟท.’ เร่งสำรวจ-ปรับปรุง ทางรถไฟ รับน้ำหนักเพิ่ม หนุนขนส่งสินค้า-เดินทางเร็วขึ้น
- ‘ศักดิ์สยาม’ จี้ ‘รฟท.’ เร่งสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 1-เดินหน้ารถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ขอนแก่น-หนองคาย
