“กระทรวงการคลัง” ขยายระยะเวลาให้นายจ้างและลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด หยุดหรือเลื่อนการนำส่งเงินเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพได้ชั่วคราว
กระทรวงการคลัง มีมาตรการขยายระยะเวลาการช่วยเหลือนายจ้างและลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 จากเดิมที่ผ่อนผันให้จนถึงงวดนำส่งเงินของเดือนมิถุนายน 2564 ให้สามารถหยุดหรือเลื่อนการนำส่งเงินเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นการชั่วคราว
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้มีมาตรการขยายระยะเวลาการช่วยเหลือนายจ้างและลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จากเดิมที่ผ่อนผันให้จนถึงงวดนำส่งเงินของเดือนมิถุนายน 2564 ให้สามารถหยุดหรือเลื่อนการนำส่งเงินเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (กองทุนฯ ) เป็นการชั่วคราวตั้งแต่งวดนำส่งเงินของเดือนกรกฎาคม 2564 จนถึงงวดนำส่งเงินของเดือนธันวาคม 2564 โดยนับอายุการเป็นสมาชิกกองทุนฯ ต่อเนื่อง และคงสมาชิกภาพไว้ภายใต้หลักการและแนวปฏิบัติเดิม
ทั้งนี้ เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของลูกจ้างและนายจ้าง ที่ยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 ในปัจจุบัน โดยมุ่งหวังให้ลูกจ้างที่เป็นแรงงานในระบบยังคงสถานะการเป็นสมาชิกกองทุนฯ และสามารถออมผ่านกองทุนฯ หลังจากที่สถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 ได้คลี่คลาย เพื่อเป็นหลักประกันรายได้และนำไปสู่ความมั่นคงทางการเงินเมื่อเข้าสู่วัยเกษียณ
ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง ได้ออกประกาศกระทรวงการคลังเรื่อง กำหนดประเภทธุรกิจ ระยะเวลา และเงื่อนไขให้ลูกจ้างหรือนายจ้างหยุดหรือเลื่อนการส่งเงินสะสม หรือเงินสมทบเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพในท้องที่ที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจสาธารณภัย หรือเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจฉบับที่ 3 พ.ศ. 2564 ซึ่งได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่12กรกฎาคม 2564 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘สบน.’ โต้ ‘อดีตรมว.คลัง’ ยันรัฐบาลกู้เงินภายใต้ต้นทุนที่เหมาะสม
- คลังเปิดตัวเลขใช้จ่าย 4 มาตรการเยียวยาโควิด เงินสะพัด 1.6 หมื่นล้านบาท
- คลังเล็งปลดล็อกเงื่อนไข ‘คนละครึ่ง-ยิ่งใช้ยิ่งได้’ รองรับสถานการณ์โควิด