ปัจจุบันภาครัฐมีนโยบายช่วยเหลือประชาชนออกมาหลายกลุ่ม โดยประชาชนบางส่วนอาจสงสัยว่า ตนเองยังเป็นผู้มีสิทธิ์รับ “สวัสดิการแห่งรัฐและสวัสดิการสังคม” ประเภทต่างๆ หรือไม่ ซึ่งทุกคนก็สามารถ ตรวจสอบสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง เพียงกรอกเลขบัตรประชาชน 13 หลัก ผ่านทางเว็บไซต์ระบบฐานข้อมูลสวัสดิการสังคม ของกรมบัญชีกลาง ดังนี้
- เข้าไปที่เว็บไซต์ โครงการบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคม (e-Social Welfare)
- จากนั้นคลิกที่ปุ่ม ตรวจสอบสิทธิสวัสดิการสังคม
- กรอกหมายเลขบัตรประชาชน แล้วกดปุ่ม ตรวจสอบ
- หน้าจอแสดงผลการตรวจสอบ
หากเป็นผู้ได้รับสิทธิ จะปรากฏสวัสดิการที่ได้รับ เช่น จากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้รับค่าใช้จ่ายอะไร หรือได้สิทธิเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ หรือเบี้ยยังชีพผู้พิการ แต่ถ้าหากไม่ได้รับสิทธิใดๆ จะปรากฏข้อความ ไม่พบสิทธิ
ในเว็บไซต์นี้ยังสามารถใช้บัตรประชาชนตรวจสอบสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ หรือสวัสดิการสังคม ได้หลายประเภท ได้แก่
- สวัสดิการแห่งรัฐ เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด
- เงินช่วยเหลือเยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัด ชายแดน ภาคใต้
- เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
- เบี้ยความพิการ
- เงินค่าป่วยการ อสม./อสส.
- เงินค่าป่วยการ อสส.
- การจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่นักเรียน
- เงินอุดหนุนช่วยเหลือค่าเลี้ยงดูในครอบครัวอุปถัมภ์ เงินสงเคราะห์เด็กในครอบครัวช่วยเหลือเด็กขาดแคลนและเด็กฝาก-เลี้ยงตามบ้าน
- การให้บริการกู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพจากกองทุนผู้สูงอายุ
- เงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายเพื่อช่วยเหลือชาวเขาด้านสังคมสงเคราะห์
- เงินอุดหนุนเงินสงเคราะห์ผู้ได้รับความเสียหายจากเหตุการทางการเมือง เงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง -เงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชายแดนภาคใต้
- สวัสดิการพื้นฐานด้านการศึกษาขั้นพื้นฐานด้านการอาชีวศึกษา
- เงินทุนการศึกษาช่วยเหลือทายาทผู้ประสบภัย เงินช่วยเหลือทุนการศึกษาและเงินยังชีพแก่บุตรเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เสียชีวิต -ทุพลภาพจากการ ปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาความมั่นคง
- กองทุนคุ้มครองเด็ก
อย่างไรก็ตาม กรมบัญชีกลางย้ำด้วยว่า ระบบโครงการบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคม หรือ e-Social Welfare นั้น เป็นระบบที่ใช้ในการ ตรวจสอบสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ที่จ่ายกรณีปกติเป็นรายเดือนเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับการจ่ายเงินเยียวยากลุ่มเปราะบาง 3,000 บาท และใช้สำหรับการตรวจสอบสิทธิในการรับเงินนี้ไม่ได้
นางสาววิลาวรรณ พยาน้อย รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง ระบุว่า ข้อมูลที่แชร์กันอยู่ตามโซเชียลมีเดีย ที่เชิญชวนประชาชนให้มาตรวจสอบสิทธิรับเงิน 3,000 บาท จากรัฐบาล e-Social Welfare ของกรมบัญชีกลางนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ขอประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลเหล่านี้ หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามได้ที่ call center ของกรมบัญชีกลาง โทร 02 270 6400 ได้ในวัน และเวลาราชการ
ด้านกรณีที่รัฐบาลประกาศมาตรการเยียวยากลุ่มเปราะบาง เพื่อรับเงินช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 3,000 บาท โดยที่มีผู้ได้สิทธิ์ประมาณ 13 ล้านคนนั้น มาตรการที่ออกมามีวิธีการที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละกลุ่ม
กลุ่มเปราะบางมีใครบ้าง
- เด็กจากครัวเรือนยากจน ตั้งแต่แรกเกิด -6 ขวบ จำนวน 1.45 ล้านคน
- ผู้สูงอายุ จำนวน 9.66 ล้านคน
- ผู้พิการ 2 ล้านคน
การจ่ายเงินเยียวยาให้กับกลุ่มเปราะบางนั้นจะดำเนินการจ่ายให้รายละ 1,000 บาทต่อเดือน เพิ่มจากเงินอุดหนุนเดิมที่จ่ายอยู่แล้ว ระยะเวลาในการจ่าย 3 เดือน ตั้งแต่ พฤษภาคม – กรกฎาคม โดยจะเริ่มจ่ายในเดือนมิถุนายน ซึ่งจะทบเงินจากเดือนพฤษภาคมไปด้วยในการเริ่มจ่าย ทำให้กลุ่มเปราะบางดังกล่าวจะได้รับเงินเยียวยารวม 2,000 บาท และเดือนกรกฎาคมอีก 1,000 บาท รวมทั้งหมด 3,000 บาท
ในกรณีที่เป็นบุคคลในกลุ่มเปราะบาง ที่ได้รับเงินสวัสดิการช่วยเหลือจากรัฐบาลอยู่แล้ว เงินเยียวยาจะจ่ายรวมกับเงินที่ได้รับปกติทันที โดยไม่ต้องลงทะเบียนแต่อย่างใด เพราะรัฐมีฐานข้อมูลอยู่แล้ว
- ลงทะเบียนกลุ่มเปราะบาง ‘ใครได้บ้าง-ต้องทำยังไง’ ได้เงิน 3,000 บาท
- เช็คสิทธิบัตรคนจน-บัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่ได้แล้ว ‘e-Social Welfare’ ปิดระบบ