“การบินไทย” สั่งกราวด์เครื่องบิน 12 ลำ หลังโควิดพ่นพิษ ด้าน “กพท.” ประสานสนามบินภูธรและอู่ตะเภา ขอที่จอดระยะยาวให้สายการบิน
รายงานข่าวจากบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา นายเชิดพันธ์ โชติคุณ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายช่าง มีคำสั่งด่วนให้การบินไทยจอดพักเครื่องบินจำนวน 12 ลำ เพื่อลดต้นทุนในการทำการบิน ให้สอดคล้องกับปริมาณการทำการบินในภาพรวมซึ่งปรับลดลงราว 30% เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
สำหรับเครื่องบินที่การบินไทยสั่งให้หยุดใช้งานและนำไปจอดพักทั้งหมด ได้แก่
- เครื่องแอร์บัส A380 จำนวน 3 ลำ จอดเป็นระยะเวลา 7 เดือน
- เครื่องบินโบอิ้ง 777-200 จำนวน 6 ลำ เริ่มจอดตั้งแต่วันนี้ (16 มี.ค.) และจะไม่มีการนำกลับมาบินอีก เนื่องจากหากมีการนำมาบินต่อไป การบินไทยจะต้องมีภาระค่าซ่อมบำรุงตามชั่วโมงบิน ซึ่งมีจำนวนสูงถึง 1,000 ล้านบาท จึงจำเป็นต้องปลดระวางแบบถาวร
- เครื่องบินแอร์บัส 330-300 HS-TEU จำนวน 1 ลำ เริ่มจอดตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา
- เครื่องบินแอร์บัส 330-300 HS-TES จำนวน 1 ลำ เริ่มจอดตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคมนี้
- เครื่องบินโบอิ้ง 777-300 HS-TKE จำนวน 1 ลำ เริ่มจอดตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคมนี้
“ในภาวะที่อุตสาหกรรมการบินย่ำแย่จากปัญหาโควิด-19 สายการบินส่วนใหญ่ต้องแก้ปัญหาด้วยการสั่งกราวนด์เครื่องบินเพื่อตัดค่าใช้จ่ายที่เป็นค่าใช้จ่ายประจำลง การบินไทยก็ตัดสินใจกราวนด์ 12 ลำ ช่วยให้บริษัทประหยัดค่าใช้จ่ายได้จำนวนมาก โดยเฉพาะค่าเครื่องยนต์ที่บินต่อชั่วโมง ปกติที่ต้องจ่ายเฉลี่ยชั่วโมงละ 600-900 ดอลลาร์ หรือชั่วโมงละ 1.7-2.8 หมื่นบาท รวมทั้งยังช่วยตัดค่าใช้ค่าใช้จ่ายด้านลูกเรือ นักบิน และบริการภาคพื้นได้อีกด้วย” แหล่งข่าวกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า การจอดพักเครื่องบิน 12 ลำในครั้งนี้ ส่งผลให้การบินไทยมีเครื่องบินที่จอดพัก โดยไม่ได้ทำการบิน เพิ่มเป็นจำนวนทั้งสิ้น 24 ลำ โดยจำนวน 12 ลำที่พักจอดก่อนหน้านี้ เป็นการพักจอดตามรอบการซ่อมบำรุงเครื่องยนต์ ส่งผลให้ปัจจุบันการบินไทยมีเครื่องบินที่ทำการบินเหลือเพียง 56 ลำ
นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท. หรือ CAAT) เปิดเผยว่า กพท. ได้นำเสนอมาตรการช่วยเหลือสายการบิน 5 ด้าน ให้ที่ประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ที่มีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานพิจารณาในวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา
หนึ่งในนั้นคือ มาตรการช่วยเหลือสายการบินที่ต้องหยุดบินและจอดเครื่องทิ้งไว้ระยะยาว ซึ่งอาจทำให้ต้องพิจารณาขอลานจอดเครื่องบินเพิ่มเติมที่สนามบินอู่ตะเภาด้วย โดยเบื้องต้นสายการบินไทยแจ้งว่าจะนำเครื่องไปจอดที่สนามบินของกรมท่าอากาศยาน (ทย.) ผู้บริหารสนามบินภูมิภาค 29 แห่ง หรือสนามบินอู่ตะเภาอย่างน้อย 20 ลำ ส่วนสายการบินอื่นๆ ยังไม่ทราบจำนวน
- ‘EOC สุวรรณภูมิ’ พบผู้โดยสารกลุ่มเสี่ยงไข้สูง 13 ราย
- ‘ศักดิ์สยาม’ เบรก ‘ดีดีบินไทย’ ลาพักร้อน ขอช่วยงานจนการลาออกมีผล
- บอร์ดตั้ง ‘จักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล’ รักษาการดีดีบินไทย หลัง’สุเมธ’ยื่นลาออก
