Economics

จ่อขึ้นทะเบียน GI ‘ปลาพลวงชมพูต้นน้ำป่าฮาลาบาลา-ปลานิลสายน้ำไหลเบตง’ จังหวัดยะลา

กรมทรัพย์สินทางปัญญา จ่อขึ้นทะเบียน GI “ปลาพลวงชมพูต้นน้ำป่าฮาลาบาลา-ปลานิลสายน้ำไหลเบตง” จังหวัดยะลา ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างเศรษฐกิจท้องถิ่นให้เติบโต

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) ที่โปรดเกล้าฯ พระราชทานลูกพันธุ์ปลานิลแก่กรมประมง ซึ่งขยายจากพันธุ์ปลาที่สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะจากประเทศญี่ปุ่นถวายเมื่อปี 2508

ปลาพลวงชมพูต้นน้ำ

ทรงส่งเสริมเพื่อเป็นอาชีพแก่เกษตรกรในพื้นที่

โดยกรมประมงได้ขยายพันธุ์และแจกจ่ายราษฎรไปเพาะเลี้ยงเพื่อความอยู่ดีกินดีของปวงชนชาวไทย สร้างรายได้จนเป็นสัตว์เศรษฐกิจจนถึงปัจจุบัน และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงส่งเสริมการอนุรักษ์ฟื้นฟูพันธุ์ปลาท้องถิ่นไทย เพื่อเป็นแหล่งโปรตีนให้คนในท้องถิ่น

โดยในปี 2543 ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดยะลา ประสบความสำเร็จในการเพาะพันธุ์ปลาพลวงชมพู และน้อมเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และทรงมีพระราชเสาวนีย์เพื่อส่งเสริมพัฒนาการเลี้ยงพันธุ์ปลาดังกล่าวเพื่อเป็นอาชีพสู่เกษตรกรในพื้นที่

กรมทรัพย์สินทางปัญญามีภารกิจสำคัญด้านการส่งเสริมการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI เพื่อยกระดับสินค้าอัตลักษณ์ของชุมท้องถิ่นนำมาสู่การสร้างรายได้ให้ชุมชนอย่างยั่งยืน

ปลาพลวงชมพูต้นน้ำ

จ่อขึ้นทะเบียน GI ปลา 2 ชนิด

โดยในครั้งนี้ กรมฯ ลงพื้นที่จังหวัดยะลาเพื่อพบหารือเกษตรกรกลุ่มผู้เลี้ยง ปลาพลวงชมพูต้นน้ำป่าฮาลาบาลา” และ “ปลานิลสายน้ำไหลเบตง” เพื่อผลักดันร่วมกับจังหวัดขึ้นทะเบียน GI นำมาสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มและยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีของพี่น้องชาวยะลา

อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า ปลาพลวงชมพู ต้นน้ำป่าฮาลาบาลา เป็นปลาท้องถิ่นหายาก พบมากในลุ่มแม่น้ำปัตตานีและลุ่มแม่น้ำสายบุรี ของจังหวัดยะลา สามารถเลี้ยงด้วยระบบน้ำไหลจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ลักษณะเด่นคือลำตัวมีสีชมพู ครีบหลังและครีบหางเป็นสีแดง เนื้อปลามีลักษณะเนื้อนุ่มขาวเหมือนสำลี รสชาติหวานอร่อย เกล็ดมีสารคลอลาเจน จึงนิยมทานทั้งเกล็ด มีราคาสูงถึง 2,000 – 3,000 บาทต่อกิโลกรัม

ด้าน ปลานิลสายน้ำไหลเบตง เพาะเลี้ยงมากในบริเวณเทือกเขาสันกาลาคีรีของอำเภอเบตง จังหวัดยะลา มีลักษณะเด่นคือส่วนหัวเล็ก ริมฝีปากบนและล่างเสมอกัน ลำตัวสีเทานวลจนถึงดำ เนื้อปลาแน่น สีขาวละมุน รสชาติหวาน ไม่มีกลิ่นโคลน เนื่องจากกระแสน้ำที่ไหลตลอดเวลาทำให้ปริมาณออกซิเจนในน้ำสูงกว่าบ่อปลาทั่วไป ราคาขาย 90 – 100 บาทต่อกิโลกรัม

ปลาพลวงชมพูต้นน้ำ

สร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างเศรษฐกิจท้องถิ่นให้เติบโต

นายวุฒิไกร กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมฯ ตั้งเป้าผลักดันให้ ปลาพลวงชมพูต้นน้ำป่าฮาลาบาลา และ ปลานิลสายน้ำไหลเบตง ขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า GI ที่ขึ้นชื่อของจังหวัดยะลา โดยคาดว่าทั้งสองสินค้าจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มและเป็นตัวแปรสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางมาเที่ยวจังหวัดยะลา สร้างเศรษฐกิจท้องถิ่นให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป

และสำหรับชุมชนใดที่สนใจจะขึ้นทะเบียน GI สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมทรัพย์สินทางปัญญา โทร.1368

420145180 770511631772957 7144834370433533619 n

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo