Economics

นายกฯ หนุนพัฒนาเมืองรอง-โครงสร้างพื้นฐาน’ ยืนยันไทยมีศักยภาพ ดึงต่างชาติลงทุน

นายกฯ ปาฐกถาพิเศษงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 41 ยืนยันประเทศไทยมีศักยภาพ ดึงดูดนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุน ย้ำรัฐบาลขับเคลื่อนเศรษฐกิจ หนุนพัฒนาเมืองรอง

วันนี้ (19 พ.ย.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 41 หัวข้อ “The time to act is now พลิกวิกฤติ ฟื้นเศรษฐกิจไทยให้ยั่งยืน” ว่า จากการเดินทางไปร่วมประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 30 ที่ผ่านมา และได้พบปะกับผู้นำประเทศต่าง ๆ หน่วยงานภาครัฐ และเอกชนชั้นนำ ของต่างประเทศ เช่น เฟซบุ๊ก เทสลา กูเกิล และไมโครซอฟท์ ต่างสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในไทยอย่างมาก

พัฒนาเมืองรอง

แม้ไทยจะเป็นประเทศเล็ก ๆ แต่ก็มีจุดยืนด้านการค้าขายของตนเองมาโดยตลอด โดยไทยมีศักยภาพในหลายด้าน ทั้งเรื่องความพร้อมด้านคมนาคม โดยเฉพาะเรื่องของ พลังงานสะอาด ซึ่งเป็นนโยบายหลักของประเทศ เรื่อง การดูแลสุขภาพ โรงเรียนอินเตอร์เนชันแนล ฯลฯ

นายกรัฐมนตรี ยังย้ำถึงวัตถุประสงค์การเดินทางไปเยือนต่างประเทศ ที่ได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่าไม่ได้ฝักใฝ่ฝ่ายใด แต่มาเพื่อค้าขาย และเชิญชวนให้มาลงทุนในไทย ผ่านการได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เช่น มาตรการสนับสนุนด้านภาษี และมาตรการต่าง ๆ ที่สามารถนำเสนอเพื่อให้นักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุน

อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของข้อตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ยังล้าหลังอยู่ ซึ่งในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาไทยเจรจาเรื่องนี้น้อยมาก โดยเรื่องเอฟทีเอจะเป็นอีกหนึ่งวาระที่สำคัญของรัฐบาลนี้ ที่จะเดินหน้าเต็มที่ และทำให้เกิดผลโดยเร็ว

จากการที่ได้เดินทางไปต่างประเทศ ก็ได้มีการปูทางไว้แล้ว เช่น ที่ออสเตรเลีย ถึงแม้จะมีเอฟทีเอแล้ว แต่ก็จะมีการยกระดับขึ้นไปอีก และจะมีการขยายไปในอีกหลายประเทศต่อไปด้วย

พัฒนาเมืองรอง

ต่างประเทศสนใจ ไทยขับเคลื่อนเมืองรอง

นอกจากนี้ เห็นด้วยที่ทางหอการค้าแห่งประเทศไทย จะเริ่มขับเคลื่อนใน 4 เมืองรอง และขยายไปสู่จังหวัดอื่น ๆ เพราะถือเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล โดยจะพยายามทำให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งต่างประเทศก็ให้ความสนใจในเรื่องนี้เช่นกัน ไม่เฉพาะการท่องเที่ยวเมืองหลัก เช่น เชียงใหม่ กรุงเทพฯ พัทยา และภูเก็ต เท่านั้น

เพราะต่างประเทศมองว่า หลายจังหวัดของไทยยังมีศักยภาพอยู่มาก ทั้งเรื่องวัฒนธรรม ซอฟต์พาวเวอร์ และสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่ต้องการให้ไทยพัฒนาให้มากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ เช่น เรื่องการพัฒนาสนามบินต่าง ๆ ทั้งสุวรรณภูมิ ภูเก็ต พังงา และเชียงใหม่ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเมกะโปรเจกต์ที่ต้องดำเนินการให้เกิดขึ้นตามแผน

หลายเมืองรองต้องเตรียมความพร้อมในหลายมิติ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเที่ยวให้มากขึ้น ซึ่งทุกฝ่ายต้องช่วยกัน โดยสิ่งสำคัญคือ การดึงนักท่องเที่ยวให้มาอยู่ในเมืองไทยนานขึ้น และไปท่องเที่ยวในเมืองรองด้วย ซึ่งการรองรับในเรื่องนี้ จะต้องรวมถึงเรื่อง โครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ  และการเดินทางคมนาคมขนส่ง ที่ต้องทำให้เกิดขึ้นให้ได้ โดยจะให้ทีมงานนัดเพื่อหารือกันในเรื่องดังกล่าวต่อไป เช่น เรื่องของสิ่งจูงใจเมืองรองคืออะไร และต้องการให้รัฐบาลสนับสนุนในเรื่องไหน

พัฒนาเมืองรอง

จำเป็นต้องมี ดิจิทัล วอลเล็ต ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ

ส่วนเรื่องนโยบายเงินดิจิทัล วอลเล็ต ที่มีทั้งคนเห็นด้วย และไม่เห็นด้วยนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้แสดงความเห็นถึงเรื่องนี้ว่า ความจริงแล้วปัจจัยหลักอยู่แค่นี้ คือ เร่งด่วน จำเป็น วิกฤติหรือไม่ ซึ่งก็มีบางคนเห็นว่า ไม่เร่งด่วน ไม่จำเป็น ไม่วิกฤติ แต่รัฐบาลนี้เห็นว่าเป็นเรื่องที่จำเป็น เร่งด่วน และสภาพเศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะที่วิกฤติ ซึ่งประเทศไทยไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก แต่อยู่บนโลกของการแข่งขันที่สูงมาก

นายกรัฐมนตรีย้ำว่าดิจิทัล วอลเล็ต เป็นนโยบายหนึ่งของรัฐบาล ที่จะทำให้เกิดผลทางเศรษฐกิจ หากย้อนกลับไปดูประเทศคู่แข่งของไทย เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ จะพบว่าตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้ ขยายตัวไปเท่าไหร่ในปีที่ผ่านมาเมื่อเปรียบเทียบกับไทย ซึ่งเชื่อว่าทุกคนทราบดีว่า ไทยสามารถทำได้ และไปไกลได้อีก

ช่วง 9-10 ปีที่ผ่านมา การขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยเฉลี่ยต่ำกว่า 2% พักหนี้เกษตรกรไป 13 ครั้ง ซึ่งเกษตรกรเองก็อยากมีความภาคภูมิใจ ไม่ต้องมาพักหนี้ให้เขา เกษตรกรอยากจะมีตลาดใหม่ ๆ สำหรับนำสินค้าเกษตรไปจำหน่ายได้มาก และราคาที่ดีขึ้น รวมถึงความต้องการมีนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามาช่วยสนับสนุนเรื่องการเกษตร เพื่อสร้างผลิตผลที่สูงขึ้น

พัฒนาเมืองรอง

เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขได้ ซึ่งตนเองเชื่อว่า เป็นหน้าที่ของรัฐบาลนี้ที่เข้ามาอาสาเข้ามาแก้ไขปัญหา รัฐบาลต้องพยายามทำให้ได้

อีกทั้งเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลก็ได้ดำเนินการดูแลประชาชนทุกกลุ่ม เช่น พักหนี้เกษตรกร การลดค่าไฟฟ้า การลดค่าน้ำมันเบนซินและดีเซล การสนับสนุน Short Quick Win การสนับสนุนด้านการท่องเที่ยว ด้วยการยกเว้นวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจีน คาซัคสถาน อินเดีย และไต้หวัน

สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นมาตรการเร่งด่วนของรัฐบาลที่ได้ดำเนินการแล้ว รวมไปถึงการดำเนินการเรื่องของการยกเว้น ตม.6 ซึ่งเป็นแบบฟอร์มที่นักท่องเที่ยวมาเลเซีย จะสามารถเดินทางเข้ามาในไทยได้ง่ายขึ้น ทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวมาเลเซียเดินทางเข้ามาไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในวันศุกร์-อาทิตย์ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่วันละประมาณ 30,000 คน จากเดิมอยู่ที่ 10,000 คนต่อวัน

IMG 20231119110936000000

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo