Economics

‘ภูมิธรรม’ สั่งพาณิชย์จังหวัด เปิด ‘ตลาดนัดข้าวเปลือก’ ระดมซื้อข้าวจากชาวนาทุกพื้นที่ ดันราคาให้สูงขึ้น

“ภูมิธรรม” สั่งพาณิชย์จังหวัด เปิด “ตลาดนัดข้าวเปลือก” จากที่เปิดไปแล้ว 46 จุดใน 27 จังหวัด ระดมซื้อข้าวจากชาวนาทุกพื้นที่ ดันราคาให้สูงขึ้น

เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 นายกีรติ  รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มีความเป็นห่วงถึงสถานการณ์ข้าวเปลือกในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ภาคอีสาน จึงได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และกรมการค้าภายใน ประชุมกับสมาคมโรงสี สมาคมโรงสีภาคอีสาน และพาณิชย์จังหวัด เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 เกี่ยวกับสถานการณ์ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิในภาคอีสาน

ภูมิธรรม

เปิดตลาดนัดรับซื้อข้าวเปลือก ดันราคาให้สูงขึ้น

โดยพบว่า สถานการณ์ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิเกี่ยวสดปัจจุบันอยู่ที่ 11,000 – 11,300 บาท/ตัน คิดเป็นข้าวแห้งที่ความชื้น 15% อยู่ที่ 14,200 – 14,600 บาท/ตัน แต่ในช่วงที่ผ่านมาภาคอีสานบางพื้นที่มีฝนตกชุก และชาวนาเร่งเกี่ยวทำให้ข้าวเปลือกมีความชื้นสูงมาก ทำให้ได้ราคาที่ลดลงตามคุณภาพ อยู่ที่ 10,700 บาท/ตัน คิดเป็นข้าวแห้งความชื้น 15% อยู่ที่ 13,800 บาท/ตัน

แต่จากนี้ไปฝนได้ทิ้งช่วงแล้วทำให้ข้าวที่เก็บเกี่ยวความชื้นลดลง จึงเชื่อว่าราคาข้าวเปลือกหอมมะลิในภาคอีสานจะปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งทางโรงสียินดีที่จะรับซื้อข้าวเพื่อช่วยชาวนาอย่างเต็มที่ และกรมการค้าภายในได้ขอความร่วมมือให้ช่วยรับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาในราคาที่เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ยังได้มอบหมายสั่งการให้พาณิชย์จังหวัด เร่งเปิดตลาดนัดข้าวเปลือกเพิ่มเติมจากขณะนี้ที่เปิดไปแล้ว 46 จุดใน 27 จังหวัด ให้ครอบคลุมการรับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาในทุกพื้นที่ รวมทั้งได้ประสานให้โรงสีนอกพื้นที่เข้าไประดมช่วยรับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาเพิ่มเติมอีกด้วย จึงเชื่อว่าสถานการณ์ราคาจากนี้น่าจะปรับสูงขึ้น

ภูมิธรรม

ชาวนาเข้าโครงการชะลอการขายเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ยังเปิดเผยต่อไปอีกว่า จากภาวะอากาศที่ดีขึ้นพบว่าชาวนาได้นำเข้ามากตากเพื่อนำเข้ายุ้งฉางเพื่อเข้าโครงการชะลอการขายของรัฐบาลที่ตั้งเป้าหมาย 3 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน โดยชาวนาจะได้รับเงินค่าฝากเก็บ 1,500 บาท/ตัน และได้รับเงินจาก ธ.ก.ส. ไปใช้จ่ายก่อนโดยไม่ต้องเร่งขาย

โดยข้าวเปลือกหอมมะลิ อยู่ที่ 12,000 บาท/ตัน ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ อยู่ที่ 10,500 บาท/ตัน ข้าวปทุมธานีและข้าวเหนียว อยู่ที่ 10,000 บาท/ตัน ข้าวเจ้า อยู่ที่ 9,000 บาท/ตัน แต่ถ้านำไปฝากเก็บที่สหกรณ์ ชาวนาก็จะได้รับเงินช่วยเหลือค่าฝากเก็บละ 500 บาท/ตัน ส่วนสหกรณ์ได้ 1,000 บาท/ตัน

ภูมิธรรม

นอกจากนี้ หากไปขายข้าวเปลือกที่สหกรณ์ก็จะได้รับราคาข้าวเปลือกเกี่ยวสดที่ความชื้นไม่เกิน 25% ในราคา 12,200 บาท/ตัน สำหรับเงินช่วยเหลือค่าบริหารจัดการ ไร่ละ 1,000 บาท รายละไม่เกิน 20 ไร่ คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติวงเงินไปแล้ว จำนวน 56,321 ล้านบาท ก็จะได้ดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีชาวนาโดยเร็วต่อไป

หากชาวนามีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ ธ.ก.ส. สาขาใกล้บ้าน และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายในและสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัดจะได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป

อ่านข่าวเพิ่่มเติม

Avatar photo