Economics

‘กิตติรัตน์’ ช้ำใจ!! วอนหยุดด้อยค่า ‘ดิจิตัลวอลเล็ต’ ยันไม่ใช่เงินเลว

“กิตติรัตน์” ฝากถึง “รสนา โตสิตระกูล” ลั่นช้ำใจทุกครั้ง วอนหยุดด้อยค่า “ดิจิตัลวอลเล็ต” ยันไม่ใช่เงินเลว

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรค และประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคด้านเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว กิตติรัตน์ ณ ระนอง – Kittiratt Na-Ranong ระบุว่า นักเศรษฐศาสตร์การเงิน คนหนึ่งชื่อ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ซึ่งก็รู้จักมักคุ้นกับ คุณรสนา โตสิตระกูล ผ่านความชื่นชอบหลงไหลในศิลปะการดนตรี ได้อ่านความคิดของนักเศรษฐศาสตร์การเงินอีกท่านหนึ่ง ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นใครเพราะคุณรสนา มิได้ระบุนาม และนำความคิด ด้อยค่า เงินดิจิตัลวอลเล็ต (Digital Wallet) ว่าเป็นเงินเลว (Bad Money) มาชี้นำคุณรสนา

ดิจิตัลวอลเล็ต

ผมไม่ขอชี้นำอะไรท่านนะครับ ขอเพียงตั้งข้อสังเกต และคำถามต่อนักเศรษฐศาตร์ท่านนั้น ผ่านคุณรสนา และหวังลึก ๆ ว่าข้อสังเกตและคำถามของผมอาจทำให้คุณรสนา และมิตรสหายของท่านฉุกใจขี้นมาว่าน่าจะลองฟังความให้ถ้วนถี่อีกสักครั้งก่อนจะปักใจไปทางหนึ่งทางใด

1. ท่านทราบไหมครับว่า คำว่า “เงินเลว (Bad Money)” เป็นคำที่ผู้บริหารการคลังของอังกฤษ คือ Sir Thomas Gresham ใช้มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1558 (พ.ศ.2101) แต่มาโด่งดังจนเป็นรู้จักกันในหมู่นักเศรษฐศาสตร์ว่า Gresham’s Law ใน ค.ศ. ที่ 19 ซึ่งหากจะพยายามนำมาใช้กับกรณีนี้ ผมตีความในทางบวกได้ว่า เงินที่ว่าเลวนั้น สามารถทำหน้าที่ของการเป็นตัวกลางของการจับจ่ายใช้สอยที่ดีเมื่อ ลดความน่าเก็บสะสม ซึ่งเราทุกคนย่อมทราบดีว่าในยามที่เราจำเป็นต้องกระตุ้นขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การมีเงิน หรือรับเงินไปแล้วถูกใช้จ่ายในกรอบเวลา และใช้จ่ายไปกับสิ่งที่พึงประสงค์ จะกระตุ้นขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ดี “เงินเลว (Bad Money)” จึงเป็นเงินที่ดี ตามภารกิจได้

จึงขอกราบฝากคุณรสนา เรียนถามนักเศรษฐศาสตร์ท่านนั้นว่า ท่านเข้าใจ Gresham’s Law แบบที่ นายกิตติรัตน์ ณ ระนองเขาเข้าใจไหม?

2. นอกจากการนำคำนิยาม “เงินเลว (Bad Money)” เก่าแก่ในอดีต มาใช้เชิงวาทกรรม แต่ไม่อิงความหมายที่ลึกซื้งแล้ว ท่านนักเศรษฐศาสตร์ท่านนั้น ไม่สังเกตเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นใกล้ตัว ในปัจจุบัน คือ ค.ศ. 2023 (พ.ศ.2566) ของเขตเศรษฐกิจสำคัญของเอเชีย ใกล้บ้านเราคือ ฮ่องกง บ้างเลยหรือครับ

ดิจิตัลวอลเล็ต

” In 2023, all Hong Kong permanent residents can receive the full payout of HK$5,000. Those who are not permanent residents, but who have come to the city to study or work, will receive HK$2,500, or half of the payout. Domestic workers are exempt from any payout.

ประชาชน “ชาวฮ่องกงทุกคน” ได้รับเงิน 5,000 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณคนละ 23,000 บาท โดยรับเงินผ่านดิจิตัล วอลเล็ต เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2566 จำนวน 3,000 ดอลลาร์ฯ และหากใช้จนหมดภายในวันที่ 30 มิถุนายน ก็ได้รับ อีก 2,000 ดอลลาร์ฯ ที่เหลือตามสิทธิ์เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2566

นอกจากนั้น นักเรียน หรือ ผู้มาทำงานระยะยาว ก็ได้รับเงินครึ่งหนึ่งหรือ 2,500 ดอลลาร์ฮ่องกงด้วย

นักเศรษฐศาสตร์ท่านนั้น ไม่ได้ติดตามข่าวสารเศรษฐกิจการเงินในต่างประเทศบ้างเลยหรือครับ?

ท่านคิดไหมว่าการมอบเงินดิจิตัลที่มีเงื่อนไขการใช้จ่ายที่ถูกด้อยค่าว่าเป็น “เงินเลว (Bad Money)” นั้น แท้ที่จริง เป็น “เงินดี (Good Money)” ตามภารกิจกระตุ้นขับเคลื่อนเศรษฐกิจ?

ดิจิตัลวอลเล็ต
ภาพจากเฟซบุ๊ก รสนา โตสิตระกูล

ท่านนักเศรษฐศาสตร์ท่านนั้น บิดเบือนด้อยค่าดิจิตัล วอลเลต ให้คุณรสนาเข้าใจผิดจนตกอกตกใจนำไปถ่ายทอดกับมิตรสหายผู้หวังดีกับประเทศชาติทำไม?

หากคุณรสนา ยังไม่คลายความสงสัย ผมยินดีไปขอพบเพื่อปุจฉา วิสัชนา ทั้งเรื่องเศรษฐกิจการเงิน เรื่องศิลปะการดนตรี หรือเรื่องอื่นใดที่อาจจะเกิดประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชนได้อีก ผมจะยินดีเป็นที่สุดครับ

ผมจบตรงนี้ ขอผู้พบเห็นข้อความนี้ โปรดอย่าตามมาด้อยค่านโยบาย ดิจิตัลวอลเลต (Digital Wallet) ของรัฐบาลเลยนะครับ ว่าไปลอกใครมา แบบคนที่มีอคติที่พอเห็นใครทำอะไรคล้ายใครก็จ้องตำหนิว่าลอกเขามา แต่พอทำไม่เหมือนใครเอาเสียเลยก็ด่วนกล่าวหาว่า “ทำเสี่ยง ทำประหลาด”

ผมช้ำใจทุกครั้ง ที่มีคนเรียกเราว่า “กะลาแลนด์” คือขยับซ้ายก็ไม่เอา ขยับขวาก็ไม่ยอม เอาแต่จมปลักทับปัญหาไว้

เราอย่าปล่อยให้ผู้คนส่วนใหญ่ แต่เสียงเบา ต้องลำบากยากจนแบบไม่คิดแก้ไขกันเลยนะครับ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK