Economics

บขส. เผย ฟรีวีซ่า เดินทางช่วงสุดสัปดาห์เพิ่มขึ้น กว่า 3 หมื่นคน พร้อมเพิ่มบริการอีก 2 เส้นทาง เริ่ม 1 ต.ค.

บขส. เผย ฟรีวีซ่า เดินทางช่วงหยุดสุดสัปดาห์เพิ่มขึ้น กว่า 3 หมื่นคน พร้อมเปิดให้บริการเดินรถ-เพิ่มเที่ยววิ่ง อีก 2 เส้นทาง เริ่ม 1 ต.ค.

นายสัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป บขส. จะกลับมาเปิดให้บริการเดินรถในเส้นทางกรุงเทพฯ – สหัสขันธ์ – นาหว้า – บ้านแพง วันละ 2 เที่ยววิ่ง (ไป-กลับ) ด้วยรถโดยสารปรับอากาศชั้น 1 ออกจากต้นทางสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) เวลา 18.00 น. ออกจากปลายทางสถานีเดินรถบ้านแพง เวลา 15.30 น. อัตราค่าโดยสาร 781 บาท

โดย บขส. ได้เปิดจุดจอดตัวแทนจำหน่ายตั๋ว และบริการรับ-ส่ง พัสดุภัณฑ์ ในเส้นทางดังกล่าว เพิ่ม 4 จุด ประกอบด้วย จุดจอดนาพระชัย – จุดจอดศรีสงคราม – จุดจอดนาหว้า และจุดจอดอากาศอำนวย

ฟรีวีซ่า

กลับมาเปิดให้บริการ-เพิ่มเที่ยววิ่งอีก 2 เส้นทาง

นอกจากนี้ บขส ได้ปรับเพิ่มเที่ยววิ่ง เส้นทางกรุงเทพฯ – เลย -เชียงคาน จากเดิมให้บริการวันละ 2 เที่ยววิ่ง (ไป-กลับ) เพิ่มเป็น 4 เที่ยววิ่ง (ไป-กลับ) ด้วยรถโดยสารปรับอากาศชั้น 1 ออกจากต้นทางสถานีขนส่งฯ จตุจักร เวลา 19.00 น. , 20.00 น. ออกจากปลายทางสถานีเดินรถเชียงคาน เวลา 18.30 น. ,20.30 น. อัตราค่าโดยสาร 511 บาท

ฟรีวีซ่า

ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการ สามารถติดต่อจองตั๋ว บขส.ได้ที่ช่องจำหน่ายตั๋วของ บขส. หรือตัวแทนจำหน่ายตั๋วของ บขส. ทั่วประเทศ และสามารถจองตั๋วล่วงหน้าผ่านช่องทางออนไลน์ Application : E-Ticket และ Website บขส. https://tcl99web.transport.co.th  ร้าน 7-Eleven เคาน์เตอร์เซอร์วิสทุกสาขา สอบถามข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน บขส. โทร. 1490 ตลอด 24 ชั่วโมง

จากนโยบายเปิดประเทศและมาตรการฟรีวีซ่าของรัฐบาล ส่งผลให้บรรยากาศการเดินทางในประเทศกลับมาดีขึ้นตามลำดับ ประกอบกับในช่วงนี้หลายโรงเรียนเริ่มปิดภาคเรียน ทำให้การเดินทางในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ มีผู้โดยสารเดินทางเพิ่มมากขึ้น เฉลี่ยวันละ 30,000 – 35,000 คน

ฟรีวีซ่า

บขส. คำนึงถึงความปลอดภัยในการเดินทางของผู้โดยสาร โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่มีฝนตกหนักในหลายจังหวัด จึงได้กำชับให้ตรวจสอบสภาพความพร้อมของรถก่อนออกเดินทาง เช่น สภาพยาง ก้านปัดน้ำฝน ไฟส่องหน้า-หลัง ระบบเบรกให้พร้อมใช้งาน และให้พนักงานขับรถเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ ควบคุมความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง เมื่อเจอฝนตกหนัก สภาพถนนเปียก หรือมีน้ำท่วมขัง ให้ใช้ความเร็วลดลง

รวมทั้งได้ขอความร่วมมือผู้โดยสาร คาดเข็มขัดนิรภัยตลอดการเดินทาง เพื่อป้องกันอันตรายหรืออุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นบนท้องถนน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo