‘บีทีเอส’ ขู่หยุดเดินรถ ยื่นหนังสือถึงนายกฯ ขีดเส้นแก้ปัญหาหนี้ก่อนยุบสภา

โดย The Bangkok Insight Editorial Team 14 มีนาคม 2566

พนักงานบีทีเอส เข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เรียกร้องแก้ปัญหนี้สินจากการให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียวก่อนยุบสภา ระบุ ให้เวลา 7 วัน หากยังไม่ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม จะหยุดเดินรถ เริ่มจากส่วนต่อขยาย

กลุ่มพนักงานรถไฟฟ้าบีทีเอส นำโดยนายเศกศักดิ์ หุ่นสะอาด รวมตัวกันที่หน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านนายภูมินทร ปลั่งสมบัติ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้นายกรัฐมนตรีเข้ามาแก้ไขปัญหาหนี้สินจากการให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียว

นายเศกศักดิ์ ระบุว่า รถไฟฟ้าบีทีเอสให้บริการมา 20 กว่าปี โดยไม่เคยหยุดการเดินรถ แต่วันนี้พนักงานที่หยุดงาน ได้ใช้วันหยุด พร้อมใจกันมาที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นคำขาดให้นายกรัฐมนตรีเข้ามาเร่งแก้ไขปัญหาหนี้สินในการให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่ง บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BTSC) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส เป็นคู่สัญญากับ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (KT) ทั้งส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่สอง 2 และ 3

ซึ่งนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้า คสช. มีคำสั่ง คสช. ฉบับที่ 3/2562 เพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับหนี้บริการสาธารณะ แต่ผ่านมาจนถึงวันนี้กว่า 4 ปีแล้ว หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น KT หรือหน่วยงานใดก็ตาม ไม่ได้ดำเนินการตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี แม้บริษัทจะฟ้องศาลปกครอง จนมีคำสั่งให้จ่ายเงินแล้วก็ตาม

ทั้งนี้ หากรัฐบาลไม่จ่ายหนี้ค่าจ้างเดินรถที่สะสมเกือบ 5,000 ล้านบาท จะทำให้ส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเงิน และการใช้จ่ายของบริษัท และทำให้พนักงานทั้งหมดกังวลว่า อาจจะส่งผลกระทบต่อการจ้างงานพนักงานในอนาคต แม้ขณะนี้บริษัทจะยังมีเงินจ่ายพนักงานได้ตามปกติก็ตาม

ดังนั้น จึงขอให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาให้แล้วเสร็จภายในรัฐบาลนี้ก่อนการยุบสภา เพราะกังวลว่าหากยุบสภาแล้วมีรัฐบาลใหม่จะไม่ดำเนินการแก้ปัญหาต่อ

นายเศกศักดิ์ กล่าวว่า จะให้เวลานายกรัฐมนตรีภายใน 7 วัน หากยังไม่ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมให้กับพนักงานและบริษัท ก็จะพิจารณาเดินทางมาเยี่ยมนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง แม้จะเป็นรัฐบาลรักษาการก็ตาม แต่ครั้งนี้จะไม่ใช้วันหยุดในการมาเรียกร้อง และจะพิจารณาหยุดการเดินรถไฟฟ้าบีทีเอส เริ่มจากส่วนต่อขยายก่อน เพราะไม่ใช่เส้นทางที่บีทีเอสลงทุนแต่เพียงผู้เดียว และเชื่อว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อประชาชน

อ่านข่าวเพิ่มเติม